ผมลองตั้งโจทย์กับเพื่อนเล่นเล่นว่า ถ้าหากเรามีเวลา 2 วันกับอีก 1 คืน จากอำเภอไทรโยคถึง อำเภอทองผาภูมิ เราจะเก็บที่เที่ยวทั้งหมดได้กี่ที่? และโจทย์นี้ก็เริ่มถูกค้นหาคำตอบด้วยสมาชิกร่วมทริปทั้งหมด 4 คน ( มีเบี้ยว 1 ขอบอกผ่านรีวิวนี้เลยว่าพลาดแล้วเพื่อน )

จุดเริ่มต้นจริงจริงของทริปนี้เริ่มที่ชลบุรี ณ เวลา 5 โมงเย็นพนักงานออฟฟิศคนหนึ่ง(แอดมินไงจะใครหล่ะ) รีบปิดคอม ขับรถมุ่งหน้าไปบางแครรับสมาชิกคนที่ 2 จากนั้นมุ่งหน้าต่อไปยังอำเภอกำแพงแสน เพื่อไปรับสมาชิกคนที่ 3 เมื่อครบทีมก็ เลสสะโกทู เมืองกาญฯ รวมรถติด รวมหลงทาง แวะนู้นนี่นั่น พวกเรามาถึงที่ไทรโยคตอนตีสาม ต้องมีคนสงสัยแล้วสมาชิกคนที่ 4 หล่ะ? สมาชิกคนที่ 4 ของเราเปิดห้องรอที่ไทรโยคเรียบร้อยแล้วครับ ถึงห้องพักไม่ต้องพูดต้องจาอะไรกัน หัวถึงหมอนต่างคนต่างสลบทันที


วันที่หนึ่ง (23/04/2559)

อรุณเบิกฟ้านกกาโบยบิน แหกขี้ตาตื่นกันตั้งแต่ หกโมงครึ่ง ต้องใช้คำว่าแหกเพราะนอนกันแค่สามชั่วโมง อาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน เตรียมตัวออกเดินทาง และแน่นอลนเราควรเริ่มต้นทริปด้วยการ “กิน” จะได้มีแรงเที่ยว เช้าเช้าแบบนี้เมนูสุดคลาสสิคก็ต่องเป็นโจ๊ก ซึ่งเพื่อนพามาจัดหนักที่ร้านโจ๊กป้าจ๋า อันนี้มีฟามอร่อย ราคาก็ถูกแสนถูก แวะมากินกันได้ในตลาดไทรโยคเลยครับ พอท้องอิ่มก็ถึงเวลาลุยสักที ผมนี่คันไม้คันมืออยากกดชัตเตอร์เต็มทีแล้ว

 จุดที่ 1 : ทางรถไฟสายมรณะ ถ้ำกระแซ

ครั้งที่ 3 แล้ว สำหรับการมาเยือยจุดนี้ ต้องบอกเลยว่าสองครั้งแรกที่มาไม่ได้ภาพแบบที่ใจอยากได้เท่าไหร่ เนื่องด้วยมาถึงก็สายสาย บ่ายบ่าย ภาพถ่ายที่ได้ส่วนมากก็เป็นพวกภาพหมู่ (หมู่กับใครไม่รู้) วิวก็เป็นรางรถไฟที่เต็มไปด้วยคน ครั้งนี้เลยถือโอกาสมาซ้ำอีกครั้ง โดยให้จุดนี้เป็นจุดแรกของทริป เป็นไปตามคาดครับเช้าตรู่คนน้อย เก็บได้ทั้งภาพวิวภาพถ่ายเล่น พอสายสายคนเริ่มมาเยอะขึ้นเรื่อยเรื่อย ก็เป็นอันจบภารกิจจุดแรก
แนะนำ : ให้มาช่วงเช้าหรือช่วงเย็น เพราะอากาศ จะไม่ร้อนมาก แต่ช่วงเช้าจะดีกว่าเพราะคนน้อย

       

       


จุดที่ 2 : ช่องเขาขาด

จากทางรถไฟสายมรณะ ใช้เวลาไม่นานมากเราก็มาถึงช่องเขาขาด หรือที่เรียกอีกชื่อว่า “ช่องไฟนรก” ฟังแค่ชื่อก็ดูน่ากลัวแล้ว ส่วนประวัติความเป็นมาของที่นี่ต้องมาดูมาฟังเอง เพราะเค้ามีห้องจัดแสดงประวัติความเป็นมาให้นักท่องเที่ยวได้ชม ได้ศึกษากัน และถ้ามองในแง่ของโลเคชั่นถ่ายภาพ มีความคูลอยู่แน่นอน
แนะนำ : ก่อนไปเดินชมให้ฟังประวัติความเป็นมาก่อน เพราะระหว่างเดินจะได้ความรู้สึกไปด้วย!!

       

       


จุดที่ 3 : น้ำตกไทรโยคใหญ่

แค่ 2 จุดแรกก็น่าสนใจแล้ว ถ้ายังไม่เหนื่อยก็ไปต่อกันที่จุด 3 “น้ำตกไทรโยคใหญ่” เลยครับ
แว๊บแรก!! ผมเชื่อว่าต้องมีหลายคนคิดแบบผม เมื่อไหร่ที่ไปเที่ยวน้ำตกไทรโยคน้อย จะมีคำถามเกิดขึ้นในใจน้ำตกไทรโยคน้อยอยู่ที่นี่ แล้วน้ำตกไทรโยคใหญ่หล่ะอยู่ที่ไหน? เพราะถ้านั่งรถไฟมาเที่ยวก็จะมาสุดแค่น้ำตกไทรโยคน้อย ซึ่งการมาเที่ยวกาญฯครั้งนี้ ระหว่างที่เพื่อนขับรถผ่านน้ำตกไทรโยคน้อย ผมลองหาข้อมูลจาก goolgle map เล่นเล่นดูว่าน้ำตกไทรโยคใหญ่อยู่ไหน และความโชคดีก็เกิดกับเราเพราะน้ำตกไทรโยคใหญ่อยู่บนทางผ่านที่จะไปบ้านอีต่องอยู่แล้ว และที่สำคัญจากถนนเส้นหลักขับเข้าไปไม่ไกลด้วย ณ ตอนนั้นความหิวของแต่ล่ะคนมีมาก แต่ความอยากเที่ยวอยากถ่ายรูปมีมากกว่า ก็เลยตัดสินใจแวะเข้าไปชม

น้ำตกไทยโยคใหญ่ ไม่ได้ใหญ่สมชื่อเลย ผมว่ามันเป็นน้ำตกขนาดกลางออกจะเล็กซะด้วยซ้ำ แต่ความดีงามมันอยู่ตรงที่วิวถ่ายภาพนี่แหล่ะ เดินข้ามสะพานแขวนไปฝั่งตรงข้าม อช. เราจะเห็นน้ำตกไหลลงสู่แม่น้ำแคว ซึ่งถ้าใครอยากจะชมน้ำตกแบบHD สามารถนั่งเรือรับจ้างเข้าไปชมกันแบบใกล้ใกล้ได้เลย

       

เสพน้ำตกกันจนพอใจ ก็ถึงเวลามุ่งหน้าสู่บ้านอีต่องกันสักที ประมาณบ่ายสองโมงเราขับกันมาถึงตัว อ.ทองผาภูมิ นี่มันเลยมื้อเที่ยงมาไกลแล้วนี่หว่า เราควรจะต้องหาข้าวหาปลาประทังชีวิตก่อนที่จะมีใครในสี่คนนี้เป็นลม ซัดก๋วยเตี๋ยวคนละชามสองชามแล้วก็ไปลุยหาเตา ตะแกรงปิ้งย่าง ถ่าน หมู ไส้กรอก สำหรับมือค่ำของเราคืนนี้

เมื่ออิ่มท้อง เสบียงตอนเย็นพร้อม ก่อนมุ่งหน้าสู่บ้านอีต่องจัดยาแก้เมาก่อนเลย เพราะเพื่อนบอกว่าทางโหด 399 โค้ง โอ้โห!! ขออ้วกล้วงหน้าได้ป่ะ!! เป็นไปตามคาด ถึงจุดชมวิวครึ่งทางผมนี่อ๊วกแตกเลยครับ ทั้งล้างหน้า ทั้งยาดม ต้องมา ณ จุดนี้ และพอทุกอย่างเริ่มโอเค ก็ต้องเดินทางต่ออีก ณ ตอนนั้นคือท่องไว้ เพื่อรูปสวยสวย ต้องสตรอง ฮึบ!!


จุดที่ 4 : บ้านอิต่อง

อดทนกับอาการเมารถจนในที่สุดพวกผมก็มาถึงบ้านอีต่อง ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนยกภูเขาออกจากอก อยากจะตะโกนออกไปดังดังว่า รอดแล้วโว๊ย!! สิ่งแรกที่ทำเมื่อมาถึงที่นี่ คือ เดินหาเต๊นท์เช่าสำหรับไว้กางนอนคืนนี้ และเมื่อเรียบร้อยเรื่องเต้นท์ก็ได้เวลาเดินเก็บภาพบรรยากาศหมู่บ้านอีต่อง ในส่วนของ “หมู่บ้านอีต่อง” นั้น เป็นหมู่บ้านเล็กเล็กที่เต็มไปด้วยความชิค ความสงบ บ้านเรือนก็ดูเก่าเก่าคลาสสิค มีอ่างเก็บน้ำของหมู่บ้าน ณ จุดนี้ขอแนะนำเลยว่า ถ้าอยากหนีความวุ่นวาย พักผ่อนสมอง ให้มาที่นี่เลยครับหมู่บ้านอีต่อง แล้วจะรู้ว่าเวลาหยุดเดินได้
ปล.ที่นี่มีโฮมสเตย์ให้เลือกพักหลายที่ หรือจะเลือกไปกางเต้นท์แบบเราที่เนินช้างศึกก็ได้

       

       

      

      


จุดที่ 5 : เนินช้างศึก

ประมาณ สี่โมงครึ่ง พวกเราออกจากหมู่บ้านอีต่องเพื่อขึ้นไปกางเต๊นท์บนเนินช้างศึก และเราก็ขึ้นมาได้ทันเวลาพอดี พอดีกับเวลาที่จะนั่งดูพระอาทิตย์ตกยามเย็น เก็บภาพกันจนตะวันลับหายไปหลังภูเขา ความสว่างค่อยค่อยถูกแทนที่ด้วยความมืดที่มากับความหนาวและความมึนงงของ มนุษย์เพื่อนทั้งสี่คน นี่มัน 23 เมษา นี่คือฤดูร้อนความหนาวแบบนี้มาจากไหน ไม่รีรอครับอากาศแบบนี้ต้องก่อไฟย่างหมู ปิ้งไส้กรอก นั่งจิบเบียร์เมาท์มอยเรื่องผีกัน จนถึงห้าทุ่มก็ไปอาบน้ำแยกย้ายเข้าเต๊นท์นอน

        

       


วันที่สอง (24/04/2559)

เช้านี้ที่เนินช้างศึก เราสี่คนเจอทะเลหมอกแบบฟลุคฟลุคงงงงที่นี่ ไม่รีรอที่จะถือกล้องไปเก็บภาพมาฝากเพื่อนเพื่อนทุกคนในเพจ พอสายสายทะเลหมอกเริ่มจางหาย สารรูปเลย เอ๊ย!! สารภาพเลยว่าเช้านี้สี่คนไม่มีใครอาบน้ำเลย เพราะอากาศหนาว และทุกคนคิดว่าจะไปเล่นน่ำตกกันต่อ ก็เลยรีบเก็บเต๊นท์ขับรถลงจากเนินช้างศึกไปทานเข้าเช้าที่บ้านอีต่องแล้วไป ลุยจุดท่องเที่ยวจุดต่อไป “น้ำตกจ๊อกกระดิ่น”
เอฟวายไอ : บ้านอีต่องที่เป็นจุดสิ้นสุดเขตไทยแล้วจุดเที่ยวต่อจากนี้จะเป็นจุดที่เราแวะระหว่างเดินทางกลับ

       

       


จุดที่ 6 : น้ำตกจ๊อกกระดิ่น

จากบ้านอีต่องขับย้อนมาแปบเดียวก็จะเจอปากทางเข้าซ้ายมือมีป้ายบอกว่า น้ำตกจ๊อกกระดิ่น
ขับเข้าไปประมาณ 2 กิโล บวกเดินเท้าอีกประมาณ 500 เมตร ก็จะเจอน้ำตกจ๊อกกระดิ่ง ซึ่งเวลาตอนนั้นประมาณ 9 โมง มีนักท่องเที่ยวรวมกรุ๊ปเราแล้วแค่ 3 กรุ๊ปเอง เท่ากับว่าน้ำตกแห่งนี้เป็นของเรา จากที่ตั้งใจว่าจะมาอาบน้ำที่น้ำตกไม่มีใครเล่นน้ำสักคนเลยจร้า เพราะแค่เอาเท้าจุ่มน้ำก็สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก สรุปได้แค่ภาพถ่ายแล้วก็ออกเดินทางต่อแบบไม่ได้อาบน้ำ
แนะนำเลยว่า : ถ้ามาเที่ยวแถว อช.ทองผาภูมิ บ้านอีต่อง ไม่ควรพลาดมาที่น้ำตกจ๊อกกระดิ่น น้ำมีความใสน่าเล่นมากมาก ที่สำคัญน้ำตกสวย เหมาะแก่การใช้เป็นโลเคชั่นถ่ายภาพเท่เท่มาก

        

       


 จุดที่ 7 : บ้านต้นไม้&จุดชมวิวเขาช้างเผือก

ก่อนจะเดินทางกลับเราจำได้ว่ากาลครั้งหนึ่งเราเคยมานอนที่ อช.ทองผาภูมิ เราจำได้ว่าที่นี่มีบ้านต้นไม้ มีจุดชมวิวที่มองเห็นเขาช้างเผือกเพื่อนอีกสามคนยังไม่เคยมาก็เลยตัดสินใจ แวะเข้าไปชมสักแปบนึง เราก็ถือโอกาสเข้าไปเก็บภาพด้วย เพราะมาครั้งที่แล้วไม่ได้เก็บภาพใน อช. เลย และก็ไม่รู้ด้วยว่าที่นี่มีบ้านทาซาน (บ้านต้นไม้)
เอฟวายไอ. บ้านต้นไม้ไม่ได้ทำไว้โชว์ทำไว้ให้นักท่องเที่ยวพักได้จริงนะครับ ใครสนใจพักติดต่อโดยตรงไปกับทาง อช. ทองผาภูมิโดยตรงได้เลย

       

ที่นี่ “จุดชมวิวเขาช้างเผือก” อช.ทองผาภูมิ

      


จุดที่ 8 : จุดชมวิวป้อมปี่ อช.เขาแหลม

จริงจริง 7 ที่เที่ยวสำหรับทริป 2 วัน 1 คืน มันก็เยอะมากสำหรับผมแล้ว แต่ด้วยเวลายังพอเอื้อให้เราเที่ยวได้อีกสักหนึ่ง ก็เลยตัดสินใจไป จุดชมวิวป้อมปี่ที่ อช.เขาแหลม การเดินทางไปป้อมปี่จะเลี้ยวที่แยกตัวอำเภอทองผาภูมิไปทางสังขละบุรี ซึ่งระยะทางไม่ไกลมากประมาณ 30 กิโลเมตร แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ามากที่ตัดสินใจมา เพราะวิวคือดีงามมาก ถ้ามีโอกาศต้องกลับมากางเต๊นท์และโดดน้ำที่นี่แน่นอน

      

      

และทั้งหมดนี้ก็คือคำตอบของผม 8 ที่เที่ยว 2 วัน 1 คืน ไทรโยค-ทองผาภูมิ เมืองกาญนะจ๊ะบุรี