ถ้าลองให้เพื่อนในแก๊งลิสรายชื่อประเทศในฝันที่อยากไป มาคนล่ะ 5 ชื่อ เชื่อเลยว่าพอวางกระดาษลงบนโต๊ะแล้ว นั่งไล่ดูกันทีล่ะคน “ญี่ปุ่น” จะต้องเป็นประเทศที่ทุกคนเขียนมา เหมือนกันแน่นอนเราชื่อแบบนั้นเรามั่นใจ ฮ่าฮ่า ซึ่งเรากะเพื่อนในแก๊งก็เคยลงมติกันว่าชีวิตนี้พวกเราต้องไปเที่ยว ญี่ปุ่นด้วยกันสักครั้ง แต่ด้วยเวลา หน้าที่การงาน ความรับผิดชอบ และสถานะภาพแตกต่างกันออกไป (บางคนเลี้ยงลูก เลี้ยงผัว บางคนเมียดุ บางคนไม่มีเงิน) เราก็เลยจำเป็นที่จะต้องเทแก๊งเพื่อนซี้ ไปลั๊ลลารับลมหนาวที่ญี่ปุ่นคนเดียวอีกครั้ง ซึ่งปลายปีที่แล้ว ถ้ายังจำกันได้ที่ Kumamoto เราก็เทมาพวกมันมาแล้วรอบนึง ฮ่าฮ๋า+ ย้อนกลับไปเดือนมกราคมที่ผ่านมา เรามีโอกาสได้เทเพื่อนบินไป รับลมหนาวที่ญี่ปุ่น 10 วัน ครั้นจะกลับมาเม้าท์ให้ฟังรอบเดียวจบ แบบทุกทริปก็แลดูจะยาก เพราะด้วยความที่ญี่ปุ่นรอบนี้ไปนาน กว่าทุกทุกครั้ง Winter Trip in Japan ของเรารอบนี้ขออนุญาติ ซอยย่อยเป็นสองพาทล่ะกัน โดยในส่วนของพาทแรกที่จะเล่าให้ฟัง จะเป็นการพาทุกคนไปสนุกสุดเหวี่ยงกันที่ Universal Studios Japan กับคำกล่าวที่ว่า “ไม่มีใครแก่เกินที่จะไปแหกปากเล่นรถไฟเหาะที่สวนสนุก” จากนั้นเราจะพาออกจาก Osaka ไปเดินขึ้นเขาท่ามกลางอุณหภูมิติดลบ ที่เมือง Kannabe …. ถ้าพร้อมแล้วก็ let’s go to japan !!
001 Travel with ThaiAirsiaX
การเดินทางไปญี่ปุ่นสถานีปล ายทางเมืองโอซาก้ารอบนี้ เราเลือกบินไปกับ ThaiAirsiaX ซึ่งมีบินตรงกันยาวยาวไปลงที่สนามบินคันไซทุกวันวันล่ะ 2 รอบ ( 14.15 กับ 00.10 ) ทริปนี้เราบินรอบ 14.15
Day1 : วันเดินทางเรานัดเจอกันที่เ คาน์เตอร์แถวที่ 4 (Row 4) เค้าเตอร์เชคอินของสายการบิ นแอร์เอเชีย เอ็กซ์ (XJ) ณ สนามบินดอนเมือง
เอฟวายไอ.บินระหว่างประเทศ Terminal1 นะแกร๊ อย่าเสร่อไปผิดที่ Terminal2 หล่ะ เพราะอันนั้นมันบินในประเทศ ที่เราบอกเราเตือนเพราะว่าเ คยมั่นหน้าผิดพลาดมาก่อน
หลังจากเช็คอินโหลดกระเป๋าเ รียบร้อย ก็ถือตั๋วกับพาสสปอร์ตเดินเ ท่เท่พร้อมยื่นหน้าหล่อหล่อ ผ่าน ตม. เข้าไปรอกันที่เกตได้เลยจ้า
ขออินฟอร์มเกี่ยวกับเครื่อง บินแอร์บัส A330-300 ขนาด 377 ที่นั่งที่จะพาเราบินไปญี่ปุ่นครั้งนี้กันสักหน่อย ที่อยากบอกเพราะว่าเครื่องบินลำนี้มีที่นั่งให้เลือกเย อะถึง 4 โซน ขุ่นพระ!! เยอะจริง จะมีตั้งแต่ชั้นธุรกิจพรีเมียม โซนเงียบ( Quiet Zone ) ที่นั่งฮอตซีท ไปจนถึงชั้นประหยัดแบบ Economy Class ส่วนเรานั่งหรอ Quiet Zone ไปค่ะ ก็ตามชื่อนั่นแหล่ะเงียบจริ งไรจริง ที่สำคัญปิดไฟตลอดจะมีเปิดแ บบไฟหรี่แค่ช่วงที่เสิร์ฟอา หาร หรี่ชนิดที่บั๊บว่าใครไม่กิ นก็นอนกรนได้สบายสบายเลย
พูดเรื่องอาหารก็ขอนิดนึง ดอนเมือง-ญี่ปุ่น นะครับ ไม่ใช่ ดอนเมือง-เชียงใหม่ ที่บินหนึ่งชั่วโมงถึง เพราะฉะนั้นแนะนำว่าสั่งอาห ารตั้งแต่จองตั๋วเลยจะดีที่ สุด เพราะบางเมนูรอสั่งบนเครื่อ งอาจไม่ได้กินนะเหว่ยมีหมดน ะจ๊ะ ด้วยความที่เรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่บินครั้งนี้เราออเด อร์ตั้งแต่จองตั๋วเพราะฉะนั้นมั่นใจได้ล้านเปอร์เซนว่า จะต้องได้กินเมนูที่เลือกแน่นวล ( วุ้นมะพร้าวถ้วยซ้ายมือแซ่บ มากควรค่าแก่การสั่งกิน )
พออิ่มแล้วก็อย่าเพิ่งรีบนอ นหล่ะ ควรจัดการชีวิตตัวเองให้ง่า ยที่สุดโดยการซื้อตั๋วรถบัส หรือตัวรถไฟเข้าเมืองกันให้ เรียบร้อยก่อน ขายที่ไหน?? อย่างเพิ่งถามกำลังจะบอก ตั๋วรถบัสกับตั๋วรถไฟมีขายบ นเครื่องจ้าถามจากพี่แอร์สว ยสวยกันได้เลย นอกจากตั๋วเข้าเมืองแล้วก็ยังมีตั๋วของ Universal Studios Japan ขายด้วยนะจ๊ะ ความดีงามเมื่อซื้อตั๋วบนเค รื่องก็คือไม่ต้องไปยืนต่อแ ถวซื้อแถมได้ราคาเท่ากันกับ คนที่ต่อแถวยาว 3 กิโลเมตรอีกด้วย ได้ตั๋วเข้าเมืองเรียบร้อยก็กรอกใบ ตม. ของญี่ปุ่นให้เสร็จ แล้วก็นอนยาวยาวกันไป……
Tip : ในการกรอกใบ ตม. ญี่ปุ่นจำเป็นต้องใช้ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรของ รร ที่เราจะไปพักด้วยนะอย่างลื มจดหรือถ่ายรูปไปด้วยหล่ะ ส่วนวีซ่าไม่ใช้อยู่ได้ไสไส 15 วันถ้วนจ้า
เกือบสี่ทุ่มตามเวลาท้องถิ่ นของญี่ปุ่นซึ่งเร็วกว่าบ้า นเรา 2 ชั่วโมง ThaiAirsiaX ก็พาเราบินลัดฟ้ามาถึงแดนอา ทิตย์อุทัย ณ สนามบินคันไซเราทั้งหมดแค่อ อกจากเครื่องแล้วเดินเอาหน้ าสวยสวยหล่อหล่อไปให้ ตม. ญี่ปุ่นดู แล้วก็เดินไปรอรับกระเป๋าที สายพานจากนั้นต่างคนก็ต่างแ บกไปที่ชานชลาเพื่อนขึ้นรถบัส
“การซื้อตั๋วรถบัสให้แล้วเส ร็จตั้งแต่อยู่บนเครื่องครั้งนี้สอนให้รู้ว่า ไม่ต้องไปยืนหลังคดหลังแข็ง แบกกระเป๋าต่อแถวยาวยาวให้เ สียเวลา”
ประมาณ 1 ชั่วโมงรถบัสก็มาจอดส่งเราที่ Limousin Buses Station ใจกลางเมือง OSAKA ซึ่งเวลาตอนนั้นเกือบเกือบเ ที่ยงคืนล่ะ ไม่รีรอเราโบกแท็กซี่ต่อไปย ังโรงแรมเลยจร้าาาาา
002 Hotel Granvia Osaka
ณ Hotel Granvia Osaka ตอนนี้สมาชิกทุกคนมีความง่ว งระดับ 9 แต่มีความหิวระดับ 10 เพราะฉะนั้นรีบรวบรวมพาสสปอ ร์ตเช็คอินแล้วแยกย้ายกันเอ าของไปเก็บ
นี่คือห้องพักของเราสำหรับ 2 คืนแรกที่ Osaka แต่ให้ง่วงแค่ไหนก็ไม่อาจสู้ทนกับความหิวได้ เราเก็บเของเรียบร้อยภายในสิบนาทีแล้วก็มารวมตัวกันที่ หน้าลิฟท์ ขณะนี้เวลาเที่ยงคืนกว่าคนไ ทยห้าคนเดินฝ่าความหนาวบนท้ องถนนที่เงียบสนิท ดึกขนาดนี้ หนาวขนาดนี้ เค้าห้าคนจะไปหาอาหารกินกัน ที่ไหน ด้วยความที่ย่านของ รร ที่เราพักไม่ได้เป็นย่านของ กินย่านปาร์ตี้กลางคืนมันก็ เลยทำให้เราหากินกันลำบากมา ก แต่ด้วยกรรมดีที่สั่งสมมานา นเดชะบุญที่มีพี่คนนึงเคยมา พักที่นี่และจำได้ว่าด้านหลัง รร มีแฟมิลี่มาร์ท เท่ากับคืนนี้เรารอดแล้ว หลังจากซื้ออะไรทานกันเรียบ ร้อยก็เดินกลับห้องแยกย้ายกันอาบน้ำเข้านอนห้องใครห้อง มัน อิอิ
003 Endo Sushi
ประมาณ 7 โมงเช้าเรา 5 คนมารวมตัวกันโดยมิได้นัดหม าย อิบร้า!! ไม่ใช่พระสงฆ์ในวันมาฆบูชา เอาใหม่จ๊ะเอาใหม่ ประมาณ 7 โมงเช้าตามเวลานัดหมายเรามา รวมตัวกันที่ Lobby ของ รร เพื่อออกเดินทางไปยังร้าน Endo Sushi ใครติ่ง Shushi จะรู้ดีว่าร้านนี้เลิศมาก ไทยแลนด์บ้านเราก็มีสาขาอยู่ที่ทองหล่อนะเออ เรานี่ติ่ง Endo อยู่แล้วมาถึงเจแปนทั้งทีมี รึที่จะพลาดไปลิ้มลองรสชาติ ต้นตำหรับ
ถ้าดูจากหน้าร้านเหมือนจะไม่เปิดนะแต่จริงจริงคือเปิดแ ล้วจร้า ซึ่งพวกเราก็เป็นลูกค้ากลุ่ มแรกที่เดินเข้าไปเปิดซิงใน วันนี้ด้วย
ร้านไม่ได้กว้างมากมีโต๊ะอยู่ประมาณ 4-5 โต๊ะ กับบาร์นั่งตรงหน้าพ่อครัวอีก 4-5 ที่นั่ง และด้วยเหตุผลข้างต้นจึงทำใ ห้เราต้องรีบมาแต่เช้า เพราะถ้ามาสายมีต่อคิวยาวแน่นวลจ้า
จัด Sushi คนล่ะ 2 เซท กับมิโซะซุปร้อนร้อนคนล่ะถ้ วย ก็ปิดจ๊อบมื้อเช้าวันนี้ไป
004 Universal Studios Japan
ได้เวลาสนุกแล้วสิ ได้เวลาสนุกแล้วสิ หลังจากอิ่มมื้อเช้ากันเรีย บร้อยเราก็มุ่งหน้าไปยัง Universal Studios Japan หรือเรียกกันติดปากว่า USJ ซึ่งแพลนของเราวันนี้ก็คือสิงอยู่ที่นี่ทั้งวัน เล่นวนดิ อย่างที่เราบอกการซื้อตั๋วเ ข้า Universal Studios Japan ให้เรียบร้อยตั้งแต่บนเครื่ องเป็นสิ่งที่ดีงามและคู่คว รแก่การทำมาก เพราะใครที่เคยไป USJ จะรู้ดีว่าแถวซื้อตั๋วนี่อย่างยาวเลยอ่ะโดยเฉพาะศุกร์เ สาร์อาทิตย์นะรอกันจนขาแข็ง เลยแกร๊ ส่วนพวกเรามีตั๋วแล้วก็เดิน เข้าไปข้างในกันแบบ สบาย-สบาย
บรรยากาศยามเช้าวันนี้ที่ USJ สำหรับเราถือว่านักท่องเที่ ยวค่อนข้างหนาแน่นทั้งคนญี่ ปุ่นเอง คนเกาหลีที่มาเที่ยวแบบเยอะ มาก รู้ได้ไงว่าเกาหลี?? ไม่ยากแค่ฟังตอนมันจะถ่ายรู ปให้กัน ฮานา-ทูล-เซด ฮานา-ทูล-เซด ซึ่งเดินไปตรงไหนก็ได้ยิน ฮ่าฮ๋า
ก่อนจะเข้าไปมันสุดเหวี่ยงกับเครื่องเล่นใครอยากจะอำพร างใบหน้าด้วยการเพ้นท์เป็นรูปต่างต่างเค้าก็มีบริการนะ แกร๊
ส่วนเราขอไม่เพ้นท์ล่ะกัน เดินชิวชิวเก็บภาพระหว่างทา งโดยมีเป้าหมายคือ ชานชลา 9 เศษ 3 ส่วน 4 พูดแบบนี้คงพอเดากันได้ล่ะเ นอะว่าเครื่องเล่นแรกที่เรา จะไปแหกปากร้องในวันนี้ก็คื อ Harry Potter and The Forbidden Journey นั่นเอง
หนึ่งไฮไลท์ก่อนจะถึงเมืองพ่อมดและฮอกวอตส์ก็คือรถคนนี้ ซึ่งเป็นรถคันที่รอนขโมยพ่อ ไปรับแฮรรี่ในภาค 2 ติ่งเรื่องนี้น่าจะจำกันได้ ส่วนใครไม่ใช่ติ่งก็แวะถ่าย รูปกับรถเกร๋เกร๋ก็โอเครนะ
ถึงแล้วทางเข้าเมืองพ่อมด
หลังจากเดินเข้าซุ้มประตูไป เราก็เหมือนหลุดเข้าไปในโลก เวทมนต์ เอาตรงตรงคือเราอินมากและเร าเชื่อว่าใครพี่เป็นแฟนนิยา ยเรื่องนี้ถ้าได้ไปก็ต้องอิ นเช่นกัน โดยโซนแรกจะมีร้านขายอาหาร ขนม ของเล่น ของสะสมต่างต่างที่เกี่ยวกั บนิยายเรื่องนี้อยู่เยอะมาก โซนนี้จำลองมาจาก หมู่บ้านฮอกส์มี้ด
พอเดินหลุดโซนแรกเข้าไป ( บอกเลยว่าวันนี้ที่โลกเวทมน ต์มักเกิ้ลเยอะมาก :} )
เราก็จะเจอกับทะเลสาปและปรา สาทฮอกวอตส์ ซึ่งตรงปราสาทนี้แหล่ะคือจุ ดที่เป็นเครื่องเล่นสุดฮิตอ ย่าง Harry Potter and The Forbidden Journey
อีกหนึ่งมุมความสวยงามของฮอ กวอตส์ที่ USJ
ด้วยความที่ Harry Potter and The Forbidden Journey ไม่ได้มีใน Universal Studios ทุกแห่ง มีแค่ 3 แห่งที่อเมริกา และอีก 1 แห่งที่ Osaka ดังนั้นเครื่องเล่นนี้จึงฮอ ตสุดสำหรับ USJ ฮอตแค่ไหนลองดูรูปประชากรที่ต่อแถวเข้าไปเล่นเอาล่ะกัน
อันนี้บอกเลยว่าถ้าอยากเล่น ก็ต้องอดทนกันนะวัยรุ่น สู้สู้
ภาพสุดท้ายที่เราบันทึกก่อน จะเล่นเครื่องเล่นก็คือ ภาพโต๊ะทำงานของดับเบิ้ลดอใ บนี้ หลังจากนั้นก็แหกปากกันยาวย าว ส่วนซ็อตที่เราชอบที่สุดตอน เล่นก็คือ “ตอนแฮรี่อยู่ข้างหน้าแล้วก วักมือ สักพักเราก็ฟิ้บเข้าไปในสนา มควิดดิส” มันส์มากแหกปากเหมือนได้ปลด ปล่อยความเครียดที่สะสมมาทั้งชีวิต
ทุกสิ่งทุกอย่างขณะเล่นไม่ส ามารถบันทึกภาพออกมาแบ่งปัน ชาวบ้านชาวเมืองได้นาจา เพราะเป็นลิขสิทธิ์ห้ามเผยแ พร่ ส่วนใครอยากสำผัสความรู้สึก เสียวเสียวแบบเรานั้นก็ควรจ ะต้องไปเล่นกันเอง
ออกจากเครื่องเล่นก็คอแห้งสิครับแหกปากขน๋าดนั้น!! ได้เครื่องดื่มมาจิบค่อยยัง ชั่ว
เวลาใกล้เที่ยงแบบนี้จะไปเล่นเครื่องเล่นอันต่อไปก็กลั วจะเลยเวลาข้าวเที่ยง จะไปกินเข้าเที่ยงเลยก็ยังไ ม่ค่อยหิว ดูเราเป็นคนเยอะเนอะ ฮ่าฮ่า ก็เลยคุยกะเดอะแก๊งว่าถ้างั้นเพื่อรอเวลาเที่ยงแยกย้าย กันไปช็อปก่อนแล้วค่อยไปเจอ กันที่ร้านข้าว ก่อนเที่ยงเราแว๊บเข้าไป shop เพื่อดูของที่ระลึกที่มีงาน แค่ช่วงงาน Universal Cool Japan 2017
ของที่ระลึกต่างต่างล้วนมาจ ากการ์ตูนชื่อดังของญี่ปุ่น ทั้งน๊านนน ยกตัวอย่างเช่น Attatack On Titan เป็นต้น
ใครอยากจะใส่ชุดคอสเพลย์เค้ าก็มีขายนะเออ
เวลา 12.00 น. เราทั้งหมดมารวมตัวกันที่ร้ านอาหารของ USJ
สั่งเมนูแกงกระหรี่กันคนล่ะ เซทมาทานกับซุปฟักทองในหนมปัง ตบท้ายด้วยโคล่าหวานหวานซ่า ซ่า แล้วเลอดังดังหนึ่งที อิ่มพร้อมลุยกิจกรรมยามบ่าย ล๊าววววววว
กิจกรรมยามบ่ายที่เราจะได้พ บเจอต่อไปนี้เป็นกิจกรรมที่ จัดขึ้นพิเศษเฉพาะงาน Universal Cool Japan 2017 ในช่วงวันที่ 13 มกราคม 2560 – 25 มิถุนายน 2560 เท่านั้น ความโชคดีของเรามาในช่วงงาน นี้พอดีจร้า
Attack on Titan: The Real : อันนี้เป็นแนว 4D ที่สร้างมาจากการ์ตูนชื่อดั งอย่างไททัน โดยเหตุการณ์ทุกอย่างจะจำลอ งเสมือนว่าเราเป็นเหยื่อที่ กำลังถูกล่า แน่นอนว่าระดับ 4D การหายใจ เสียงฝีเท้า การสั่นสะเทือน ของตัวละครในเรื่องเราสัมผั สได้แน่นวล ทุกอย่างที่นำมาบอกเล่าล้วน เป็นฟิลลิ่ง ไม่สามารถบันทึกภาพมาแบ่งปั นกันได้เช่นกัน หลังดูจบเราสามารถไปถ่ายกับ เจ้ารูปปั้นยักษ์นี้ไว้เป็น ที่ระทึกได้นาจา
ก่อนจะกิจกรรมถัดไปขอพักเบร คด้วย The Wall Pie ที่ Titan บาร์ก่อนล่ะกัน
อันนี้คือหน้าตาของเจ้า The Wall Pie ส่วนรสชาติสำหรับเราคืออร่อ ย แต่รุ่นที่ที่ไปด้วยกันบอกไ ม่อร่อยเราก็เลยแดรกดัลเบิ้ ลของรุ่นพี่ไปด้วย ฮ่าฮ่า
กิจกรรมต่อไปเราไปต่อกันที่ Evangelion XR Ride อันนี้จะเป็นรถไฟเหาะ โดยก่อนที่จะขึ้นนั่งเค้าจะ แจกแว่นเทพพร้อมกับหูฟังคนล่ะหนึ่งชุด เมื่อสวมใส่ทุกอย่างเรียบร้ อยรถไฟเหาะก็ค่อยเลื่อนแล้ว ก็ฟุปพาเราไปทะลุอีกมิติหนึ่งซึ่งขณะที่รถไฟเหาะกำลังพ าเราขึ้นลงเลี้ยวซ้ายเลี้ยว ขวาภาพที่เห็นตรงหน้าและเสี ยงที่ได้ยินเป็นเหตุการณ์จำ ลองที่ยักษ์ใหญ่แองเจิลกำลั งจะถล่มเมืองโดยมีเราขับยาน อวกาศไล่ล่า ทุกอย่างคือดีมากสมจริงสุดสุด แหกปากวนไปจร้าาาาาาาาา
จบกิจกรรมก็จัดของฝากที่ระลึกมาคนล่ะ 1 ตัว
เรากลับมาที่โรง 4D อีกครั้งเพื่อมาดู Godzilla: The Real 4-D ซึ่งความสมจริงในครั้งนี้ก็ ไม่ได้ต่างกับเรื่องแรกเลย ซึ่งขณะดูเรารู้สึกเหมือนตั วเองฟุปเข้าไปในเมืองโอโซกา ที่สถานการณ์ตอนนี้มี Godzilla จะเข้ามาถล่มเมือง สิ่งที่เราจะต้องทำคือปราบมันให้สิ้นซาก เก็บภาพไม่ได้เหมือนเดิมเพร าะเป็นลิขสิทธิ์สิ่งที่ได้ดีที่สุดคือจำจำแล้วเอามาเล่ าต่อ ….
เราออกจากโรง 4D ความหิวก็เริ่มบังเกิด แต่ด้วยมีอีก 2 กิจกรรมที่เราต้องไปเล่น ก็เลยรองท้องกันด้วยซาลาเปา แบบญี่ปุ่นสไตล์ไปก่อน
รองท้องกันเรียบร้อย ก็ถึงเวลาสนุกกับกิจกรรม Detective Conan: The Escape กิจกรรมนี้จะเสมือนว่าเราเป็นผู้ช่วยเจ้าหนูนักสืบโคนั นไขปริศนาตามล่าหาผู้ร้าย ซึ่งแต่ละทีมจะได้แท็บเล็ตค นล่ะหนึ่งเครื่องกับนาฬิกาค นล่ะหนึ่งเรือน จากนั้นเราก็หาห้องเพื่อไขป ริศนาตามตำสั่งของแท็บเล็ต โดยที่เวลาในนาฬิกาจะลดลงเรื่อย บอกเลยว่าเกมส์นี้ใช้สนองหนักมากซึ่งเราไม่ถนัด ทีมเราก็เลยทำไม่สำเร็จหมดเ วลาซะก่อน ฮ่าฮ๋า
กิจกรรมสุดท้ายวันนี้ก็คือ Monster Hunter: The Real เราขอกระโดษลงเรือจำลองไปไล่ล่าสัตว์ประหลาดกับทีมนักร บ อันนี้ก็แอบตื่นตาตื่นใจมาก มากเช่นกัน
ตะลุยครบทั้ง 5 กิจกรรมของงาน Universal Cool Japan 2017 เราก็วนกลับไปที่ร้านอาหารใ นหมู่บ้านฮอกส์มี้ด ดินแดนแห่งนิยาย Harry Potter อีกครั้งเพื่อทานเข้าเย็น แต่ก่อนจะเข้าร้านอาหาร ณ ตอนนี้หมู่บ้านฮอกส์มี้ดเปิ ดไฟสวยงามเหลือเกิน
อีกหนึ่งมุมยามค่ำคืนในดินแ ดนพ่อมดที่ควรเก็บภาพ ….
ณ ห้องอาหารตอนนี้ทุกคนกำลังตั้งหน้าตั้งตาเลือกกันอย่าง จริงจัง ซึ่งจากเมนูถ้าถามว่าเราอยา กกินอะไร? เราตอบแบบไม่ลังเลเลยว่าอยา กกินทุกอย่างเพราะว่าอาหารแ ต่ล่ะเซทล้วนเนรมิตมาจากนิย าย Harry Potter ทั้งนั้น แต่ก็ต้องติดใจสั่ง 1 อย่างเพราะถ้าสั่งมาหลายอย่ างกินไม่หมดก็เสียดาย
Tip : เทคนิคการสั่งอาหารเพื่อให้ ได้กินหลายเมนูของเรา คือรอให้เพื่อนทุกคนสั่งเสร็จแล้วค่อยสั่งตามทีหลัง เมนูที่สั่งก็แค่ไม่ให้ซ้ำกับชาวบ้านแค่นั้นพอ อาหารมาเสิร์ฟก็ขอชิมของเพื่อนวนไปค่ะ ฮ่าฮ่า ระหว่างรออาหารจัด Better Beer หวานหวานฉ่ำฉ่ำคนแก้ว
ถ้าจะเพิ่มความฟินเราแนะนำใ ห้หยิบแก้วเบียร์แล้วเปิดปร ะตูออกไปนั่งจิบชิวชมวิวงาม บรรยากาศดีดียามค่ำคืนของปร าสาทฮอกวอตส์
ปราสาทฮอกวอตส์ช่างสวยงามเห ลือเกิน สวยดั่งเทพนิยาย :}
แต่นั่งข้างนอกได้ครู่เดียว ก็จำเป็นต้องกลับเข้าร้าน ไม่ใช่อาหารมาแล้วนะ แต่มันหนาวจนแทบทนไม่ไหว เรากลับเข้ามานั่งเมาท์มอยอ วดรูปที่ถ่ายกันมาทั้งวัน สักพักอาหารก็เริ่มทยอยมาเสิร์ฟ คำแรกที่ลิ้มลองบอกเลยรสชาติอาหารจัดว่าเด็ด แต่ราคาก็แพงขนจนขนลุก หลังจากทานมื้อเย็นเรียบร้อ ยเราทั้งหมดก็เดินทางกลับ รร จบไปอีกหนึ่งวันกับความสนุก สนานของทริปฤดูหนาวที่ญี่ปุ่น
เช้าวันต่อมาเราลากกระเป๋าม ารวมตัวกันที่ lobby โรงแรม เพื่อทำการเช็คเอาท์แล้วเดิ นทางต่อโดยมีเป้าหมายคือเมื อง Kanabe แต่ระหว่างทางเราจะแวะเที่ย ว แวะกิน แวะถ่ายรูปที่ไหนบ้างตามไปดูกันเลยย
005 JR-west
การเดินทางของเราในวันนี้เร าเลือกใช้ JR West Rail Pass ซึ่งเป็นบัตรส่วนลดพิเศษที่ ทาง JR-west เค้ามีออกมาถึง 5 ประเภทให้นักท่องเที่ยวได้เ ลือกใช้ ซึ่งบัตรดังกล่าวคนญี่ปุ่นอ ยากซื้อแค่ไหนก็ซื้อไม่ได้ ส่วนความดีงามของเจ้าบัตรนี้ก็คือเราสามารถนั่งวนมาวนไ ปวนไปวนมาได้ทั่วทั้งภูมิภา คตะวันตกของญี่ปุ่น(การเดิน ทางท่องเที่ยวในภูมิภาคคันไ ซ) โดยจำนวนวันที่ใช้ได้ก็ขึ้น อยู่กับประเภทของบัตร ทั้งสะดวกทั้งประประหยัดแบบ นี้ก็เป็นธรรมดาที่คนญี่ปุ่ นเค้าจะแอบอิจฉาเบาเบา อิอิ
Tip : บัตรสามารถซื้อออนไลน์ได้ หรืออีกทางเลือกนึงก็คือไปซื้อที่สถานี JR-west ในประเทศญี่ปุ่น
พอได้บัตรเรียบร้อยก็มุ่งหน้าออกเดินทาง ส่วนมื้อเช้าของเราวันนี้จั ดเข้าปั้นกับกาแฟเบาเบาบนรถ ไฟไปจร้า
จากบรรยากาศในเมืองที่ไร้หิ มะ
เรามุ่งหน้ามาถึงความหนาวเห น็บแบบเต็มรูปแบบ เพราะต้นไม้ ใบหญ้า ภูเขา ถนน บ้านเรือนตลอดสองข้างทางตอน นี้ปกคลุมไปด้วยหิมะ ดูสวยงามและแปลกตาสุดสุด
หลังจากเสพบรรยากาศสองข้างท างอยู่พักใหญ่ ตอนนี้เรามาโผล่ที่ Fukuchiyama Station เรามาแวะที่สถานีนี้เพราะเร ามีเป้าหมายคือ Amanohashidate ซึ่งเคลมว่าที่นี่คือ 1 ใน 3 วิวที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น
006 Amanohashidate
ที่สถานี Fukuchiyama จะมีแพ็คเก็ตของ Kyoto Sea Area Pass ขายอยู่ 2 ประเภทคือ 1 Day Pass และ 2 Day Pass ซึ่งเราซื้อแพ็คเก็ต 1 Day Pass แบบ Amanohashidate Pass ในราคา 1600 เยน สำหรับบัตรที่เราเลือกสามาร ถใช้ขึ้นยานพาหนะได้ตั้งแต่ รถไฟ เรือข้ามฟาก เคเบิ้ลคาร์สำหรับขึ้นไปยัง จุดชมวิว หรือแม้กระทั่งจักรยานที่สา มารถหยิบยืมไปปั่นเล่นลั๊ลล าได้
หลังจากที่ทุกคนได้บัตร Amanohashidate Pass เป็นที่เรียบร้อย เราก็เริ่มออกเดินทางกันต่อ เพื่อไปยังเป้าหมายหลักของเ รา Amanohashidate
บรรยากาศยามเช้าที่แสนอบอุ่ น
ครู่หนึ่งเราก็เดินทางมาถึง Amanohashidate Station โดยจากสถานีรถไฟดังกล่าวเรา ต้องเดินผ่านวัดชิออนจิ (Chionji Temple) ไปนั่งเรือ
วัดที่เป็นโรงเรียนสอนศาสนา ของพุทธศาสนานิกายรินไซเซน โดยวัดนี้เป็น 1 ใน 3 วัดของญี่ปุ่นที่มีรูปปั้นสำคัญของเทพเจ้า Monju Bosatsu ซึ่งเป็นเทพแห่งสติปัญญา
พ้นจากเขตวัดชิออนจิเราก็จะ เจอกับท่าเรือข้ามฟากและเพื่อไม่ให้เป็นการเสียนาฬิกา ถุย!!! เสียเวลาเราไปต่อแถวขึ้นเรื อกันรัวรัวเลยจร้า
ระหว่างนั่งเรือข้ามฝากจะมี กิจกรรมแก้เบื่ออยู่หนึ่งอย่างนั่นก็คือ การให้อาหารนกนางนวล เหยี่ยว ประมาณว่าแค่ยื่นขนมออกไปฝู งนกฝูงเหยี่ยวก็บินโฉบมาฉกกินกับมือเลยทีเดียว
มีความสนุกและเพลินที่สุด
สำหรับเรากิจกรรมนี้มันคือกิจกรรมบางปูเวอชั่นเจแปน ฮ่าฮ่า
พอเรือจอดเทียบฝั่งเดินต่อไ ปอีกหน่อยก็จะเจอกับศาลเจ้า Motoise Kono Shrine ศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีประวัติ ยาวนานและมีความสำคัญของภูมิภาคนี้
โดยก่อนเข้าวัดเราจะเห็นคนญี่ปุ่นเดินไปที่บ่อน้ำด้านข วามือของศาลเจ้า แล้วก็ใช้กระบวยตักมาล้างมื อ ล้างหน้า บ้วนปาก แล้วถึงค่อยเดินเข้าไปในศาล เจ้า ไอ่เราเข้าเมืองตาหลิวก็ต้อ งหลิวตามตามสินะ เค้าทำไงเราก็ลอกทำตามเพื่อ ความสบายใจ ฮ่าฮ่า
ภายในศาลเจ้าไม่สามารถบันทึ กภาพได้นาจา เค้ามีป้ายบอกไว้ชัดเจน เราก็เลยได้แค่ภาพด้านนอกนิ ดหน่อย
หลังจากชมศาลเจ้าเสร็จเราก็ เดินลัดเลาะออกประตูด้านหลั งผ่านเสาโทอิริสีส้มมาโผล่ที่สถานีขึ้น Cable Car และจุดในรูปจุดนี้คือจุดขาย ตั๋ว แต่ว่าเรามี Amanohashidate Pass อยู่แล้วเดินสวยสวยหล่อหล่อ ผ่านที่ขายตั๋วไปขึ้น Cable Car ได้เลยจ้า จะขึ้นลงขึ้นลงกี่รอบก็ได้น าจาถ้ามีบัตรนี้ อิอิ
ตรงยอดนู้นนนนนนนจากรูป คือ Amanohashidate จุดชมวิวหลักที่เราจะขึ้นไป ชมในวันนี้
พอ Cable Car วิ่งสูงขึ้นเรื่อยเรื่อยเรา ก็เริ่มรับรู้ได้ถึงความสวย งามที่จะไปเจอ
และพอขึ้นมาถึงยอดเท่านั้นแ หล่ะ ต้องรีบวางกล้องแล้วเอามือท าบอกพร้อมกับอุทานดังดังเลย ว่า ขุ่นพระ!! วิวมันจะสวยงามอะไรเบอนี้ เรานี่ถึงบางอ้อเลยจ้าเข้าใ จเลยว่าทำไมคนญี่ปุ่นถึงโหว ตว่าที่นี่คือจุดชมวิวที่ดี ที่สุด 1 ใน 3
เอฟวายไอ.ที่นี่มีประวัติซึ่งเค้าเล่าว่าการชมวิวที่ Amanohashidate มีวิธีการดังนี้ ให้ยืนในตำแหน่งจุดชมวิว จากนั้นหันหน้าเข้าฝั่ง หันหลังให้กับสันทราย กางขาให้เท่ากับความกว้างขอ งไหล่ จากนั้นโค้งตัวลงและชมวิวผ่ านหว่างขา ภาพที่เห็นจะคล้ายกับสันทรา ยแห่งนี้ได้แปรเปลี่ยนเป็น “สะพานสู่สรวงสวรรค์” หรือ “มังกรผงาดฟ้า” ตามความเชื่อของคนญี่ปุ่นโบ ราณ อือหือมีสตอรี่
ก้มดูนาฬิกาเวลาตอนนี้เที่ย งจ้า หันซ้ายแลขวานอกจากร้านขายข องฝาก ขนม นม เนย ด้านบนยังมีร้านอาหารอยู่หนึ่งร้าน ด้วยความหิวมีรึที่เราจะลัง เลเดินเข้าร้านทันที
นี่แหล่ะที่กินข้าวเที่ยงวิ วหลักล้านของเรา
มื้อเที่ยงของเราวันนี้ ได้แก่ Japanese-Style Hamburger Steak Combo เสต็กเนื้อนุ่มคู่กับข้าวสว ยพร้อมเสิร์ฟกับซุปร้อนร้อน ร้อน จัดไปคนล่ะเซท
จบของคาวก็ล้างปากต่อกันด้ว ยของหวาน จากนั้นก็นั่งชิวชิวชมวิวกั นอีกสักพักแล้วพวกเราก็ออกเ ดินทางกันต่อ
007 Kinosaki Onsen
เรานั่ง JR-West ต่อไปยัง Kinosakionsen Station ซึ่งเมือง Kinosaki Onsen ตั้งอยู่ในเขต Toyooka จังหวัด Hyogo ภูมิภาคคันไซ เป็นเมืองเล็กเล็กที่โดนเด่ นในเรื่องของ “ออนเซน” ซึ่งใครอยากจะไปแช่ไข่แนะนำ เมืองนี้เลยเพราะแค่เมืองนี้เมืองเดียวมีออนเซนถึง 7 บ่อ มีเมืองไหนให้เยอะกว่านี้ไห ม ฮ่าฮ๋า ส่วนอีกเรื่องที่เด่นพอพอกั นกับออนเซนก็จะเป็นปู “Matsuba Crab” ตัวโตโต
พอเรามาถึงที่เมือง Kinosaki Onsen เราก็ไม่รีรอต่างค้นต่างหยิ บกล้องของตัวเองมาเก็บภาพคว ามน่ารักของเมืองนี้กัน
ถ่ายรูปกันอยู่เจอร้านไอติม ก็อดไม่ได้ที่จะซื้อมากิน ถึงแม้อากาศจะหนาวแค่ไหนก็ต าม และต่อให้คนที่นี่จะมองเราด ้วยสายตาที่บั๊บว่าหนาวจะตา ยแดรกกันไปได้ไง พวกเราก็ไม่แคร์จ้า
ถ้าสังเกตุภาพนี้ดีดีจะเห็น ก้ามปูสองอันโผล่มาจากพื้น เค้าสร้างขึ้นเพื่อนบอกว่าเ มืองกรูเรื่องปูอ่ะดังสุด ฮ่าฮ่า
และถ้าเราเดินเล่นเรื่อยเรื่อยเราก็จะเห็นปู Matsuba Crab วางขายอยู่เต็มไปหมด
ภาพตัดมาที่ด้านหน้าสถานี Kinosakionsen Station อีกครั้ง ถ้าเดินออกจากสถานีมองขวามื อจะเห็นชั้นไม้วางเกี๊ยะ รองเท้าที่ใส่เดินกันในเมือ งเวลาใส่ชุดยูกาตะออกไปแช่อ อนเซน
ทานโทษนะค่ะนอกจากปูที่วางข ายกันเกลื่อนแล้วก็จะมีผู้ค นที่สวมชุดยูกาตะนี่แหล่ะที่เยอะแยะมากมายเต็มท้องถนน
แต่ด้วยเวลาที่มีจำกัดทำให้ เราอดแช่ไข่ในออนเซน เก็บความอยากนี้ไว้แล้วค่อย ไปแช่ที่เรียวกังที่เราจะพั กคืนนี้ก็ได้
ส่วนตอนนี้ขอเวลาเดินเก็บภา พยามเย็นที่เมือง Kinosaki Onsen ก่อน แต่อนิจังเดินได้ไม่ถึง 10 นาทีฝนก็ลงมาอย่างหนักหนวงวิ่งหลบกันแทบไม่ทัน แอบเสียดายมากที่เก็บภาพเมื องนี้ได้นิดเดียวเอาเป็นว่า ค่อยหาเวลากลับมาเยือนใหม่อีกรอบ เอฟวายไอ.เค้าว่ากันว่าเมือ งนี้มาช่วงซากุระบานนี่ฟินสุดทีนเลยอ่ะ
008 Kannabe
เพิ่งเข้าใจคำว่าหนีเสือปะจ ระเข้ก็วันนี้เนี่ยแหล่ะ เรานั่งรถบัสหนีฝนจากเมือง Kinosaki Onsen ไปที่ Kannabe สรุปไปถึงที่พักเรียวกังที่ Kannabe เจอพายุหิมะกระหน่ำ ซึ่งอุณหภูมิวันนั้นติดลบถึ ง 6 องศาเลยจร้า หนาวแค่ไหนถามใจเธอดู ซึ่งแต่ล่ะคนพอลงจากรถก็ต่า งคนต่างวิ่งเข้าใส่เรียวกัง แบบไม่มีใครสนใจใครเลยจร้า
ถ้าน้ำแอปเปิ้ล น้ำเสาวรส น้ำส้มคั้น คือ Welcome Drink ที่ดูแพงของ รร โดยทั่วไป ที่เรียวกังแห่งนี้มีโมจิเป็น Welcome Eat ที่โคตรคูล คือมันเจ๋งตรงที่เค้าทำกันใ ห้เห็นซึ่งซึ่งหน้า ตั้งแต่กระบวนการทุบ
คลุกแล้วหยิบใส่จาน
จากนั้นก็เสิร์ฟแจกจ่ายให้กับสมาชิกทุกคนที่จะมาพักคืน นี้
Welcome Eat เรียบร้อยทุกคนก็แยกย้ายเอา ของเข้าไปเก็บห้องใครห้องมั น และนี่ก็คือห้องพักของเราใน วันนี้
ส่วนที่นอนอยู่ในตู้ขวามือข้างข้างทีวี เด๋วรอให้เจ้าของเรียวกังเค้ามาสอนวิธีการปูล่ะกันเพรา ะแมร่งเปิดดูตู้แล้วต้องปูห ลายชั้น และก็ไม่รู้ว่าเอาอันไหนไว้ บนไว้ล่าง ฮ่าฮ๋า
ก่อนจะลงไปทานมื้อเย็นเปิดห น้าต่างออกไปสำรวจบรรยากาศข้างนอก คือพอเราแง้มหน้าต่างนิดเดี ยวลมหนาวก็พัดผ่านหน้าเล่นเ อาขนลุกขนชันกันเลยทีเดียว ด้านนอกตอนนี้พายุหิมะก็โปร ยปรายแบบไม่มีทีท่าว่าจะหยุ ดเลย
สองสาวสุดน่ารักคู่นี้ก็ใช่ ใครลูกสาวเจ้าของเรียวกังที่เราพักนั่นเอง
หนึ่งทุ่มเรามีนัดกันที่ห้อ งอาหาร กับเมนูสุดพิเศษ ชาบูปู จ้าาาา
จานนี้เราก็แค่หยิบขา ก้าม ของปู ขึ้นมาทุบจากนั้นก็แกะเปลือ ก
แล้วก็เอาไปจุ่ม ไปแกว่งในน้ำร้อน
แล้วก็หยิบใส่ปาก คำแรกน้ำตาไหลพรากพูดจากใจเ ลยว่าตั้งแต่โตมาจนถึงทุกวั นนี้เนื้อปูที่นี่คืออร่อยที่สุด ทั้งหวานทั้งฉ่ำทั้งสด อร่อยจนต้องร้องขอชีวิต คู่ควรแก่การกลับไปกินอีกรอ บมากมาก
พอได้สาเก เหล้าบ๊วย มาทานกับเนื้อปูหวานหวานแบบ นี้ อย่าว่าแต่เงินเลยญาญ่ามาแก้ผ้าตรงหน้าพี่ยังไม่สนใจ ฮ่าฮ๋า ในส่วนของวันนี้นั้นขอบจบที่ชาบูปูสุดฟินเซทนี้นะแล้วแ จกันเช้าวันถัดไป :}
อรุณเบิกฟ้านกกาไม่บินไม่ออ กหากินไม่ร่าเริงไม่แจ่มใส แกดูดิกาบินได้นี่เรากราบเล ยอ่ะหิมะเกาะหนาขน๋าดนี้ เราเปิดหน้าต่างออกไปดูข้าง นอกนี่รีบปิดแทบไม่ทัน ฮ่าฮ่า
มื้อเช้าวันนี้ทางเจ้าของเรียวกังเค้าจัดให้กินคนล่ะ 1 เซทแบบจี่ปุ่งจี่ปุ่งสไตล์
อิ่มมื้อเช้าเราก็เริ่มทยอย ลำเลียงกระเป๋าไปขึ้นรถกัน
หิมะเหมือนรู้งานพอพวกเราจะ ออกเดินทางเท่านั้นแหล่ะโปร ยลงมาอีกระลอกเลยจร้า
ไหนไหนหิมะก็โปรยมาล่ะเดินอ อกไปยื่นโพสท่าถ่ายรูปเลยล่ ะกัน
โพสเส็จก็วิ่งขึ้นรถออกเดิน ทางมุ่งหน้ากันต่อไปยัง “Up Kannabe(アップかんなべ)” โรงเรียนสอนสกีและสโนว์บอร์ ด ของเมือง Kannabe
ถึงแล้วจร้าาาาา
สำหรับวันนี้เราไม่ได้มาเล่ นสกีหรือสโนว์บอร์ดแต่อย่าง ใด เรามาที่นี่เพื่อนเดินเทรคขึ้นไปชมวิวสวยสวยบนยอดเขา ซึ่งก่อนเดินทางเค้าจะมีการ อบรมและแจกอุปกรณ์พวกเสื้อผ้า รองเท้าใส่ลุยหิมะ
ปล.ไม่ได้แต่งตัวคุมโทนกันมันเป็นชุดที่เค้าเตรียมให้ ฮ่าฮ๋า
เมื่อทุกคนพร้อมก็เดินตามไก ด์ท้องถิ่นขึ้นเขาไปเรื่อยเ รื่อย เออลืมบอกไปว่าเดินเทรคที่นี่ไม่ได้หนักหนวงและไกลมากม ายนะครับ ทุกคนสามารถเดินได้ขอแค่เสื้อผ้ารองเท้าพร้อม
ระหว่างทางเดินก็จะมีหิมะโป รยมาบ้างหยุดบ้างสลับกันไป
ไกด์สุดหล่อของเรายืนเท่เท่ ท่ามกลางหิมะ
เดินตามกันไปเรื่อยเรื่อยซ้ ายกวาซ้าย
พอเริ่มเดินสูงขึ้นมองลงมาจ ะเห็นผู้คนเยอะแยะมากมายกำลังเมามันอยู่กับการเล่นสกีแ ละสโนว์บอร์ด จริงจริงถ้ามีเวลาก็แอบอยาก ลองเล่นเหมือนกันนะเนี่ย
เดินประมาณ 1 ชั่วโมงในที่สุดพวกเราก็มาพิชิตยอดเขาหิมะแห่งเมือง Kannabe ได้ วิวด้านบนก็สวยงามตามท้องเรื่อง
ไกด์มีความตลกและเฮฮามาก
ได้น้ำขิงร้อนร้อนดับหนาวเร าก็มาตั้งเตาต้มช็อกโกแกตกั นต่อ
คนคนไปเรื่อยเรื่อยจนมันล่ะ ลาย จากนั้นก็เอาส้อมที่จิ้มอยู่กะหิมะไปเสียบกะกล้วยหอมที่หันไว้แล้วจุ่มซ็อคโกแลตยั ดเข้าปากต่อไป
เป็นเมนูฟองดูธรรมดาที่โคตร ฟินเลย
ถ่ายรูปแล้วกินได้จ้า
อิ่มหนำสำราญ เก็บภาพความประทับใจกันเรีย บร้อย ก็ถึงเวลาที่เราทั้งหมดจะต้ องเดินทางกลับ
แต่ก่อนกับเราแวะไปทารบะหมี่เย็นร้านดังแห่งเมือง Kannabe ร้านนี้สาระรูปเลยว่าจำชื่อ บ่อได้
เป็นไงมั่งพาทแรกของเรากับ Winter Trip in Japan มีความแซ่บนัวป่ะหล่ะ บอกเลยว่าความแซ่บความสนุกส นานจะเพิ่มขึ้นอีกกด see frist รออ่านพาทสองได้เร็วเร็วนี้
สำหรับวันนนี้ สะ-หวัด-ดี-ครับ