2 วัน 2 คืน ที่ภูเก็ต

ทริปนี้เป็นครั้งแรกของผมในการไปเที่ยวภูเก็ต ซึ่งเลือกไปแบบ 2 วัน 2 คืน จะได้ไม่ต้องลางาน ย้อนกลับไปวันเดินทางเลยครับ ตามวิถีทางของมนุษย์เงินเดือนอย่างผมก็คือ วันศุกร์ หอบเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าแบกไปออฟฟิศ ทำงาน ทำงาน พอเข็มสั้นชี้เลขห้าเข็มยาวชี้เลขสิบสองเท่านั้นแหล่ะ เด้งจากเก้าอี้ขับรถตรงดิ่งไปสุวรรณหภูมิทันที ผมยอมจ่ายค่าเครื่องแพงหน่อยเพื่อเลือกสนามบินที่ใกล้ที่ทำงานเพราะจะได้ไปทันขึ้นเครื่อง ( ผมทำงานยุชลบุรี ) 1 ชั่วโมงกว่าเครื่องบินก็พาผมบินลัดฟ้ามายังภูเก็ต เวลาตอนนั้น 5 ทุ่ม ผมเดินมึนมึนไปขึ้นรถของโรงแรมที่มารอรับ จากหนามบินไปโรงแรมประมาณ 40 นาที มันนานพอที่จะทำให้ผมเมาท์มอยหาข้อมูลที่เที่ยวจากพี่คนขับได้มากพอสมควร ถึงโรงแรมก็ทำการเช็คอินเข้าห้องอาบน้ำนอนพักผ่อน และผมพักที่โรงแรม recenta phuket suanlung จริงจริงมีโรงแรม recenta suite phuket อีกอันที่เป็นเครือเดียวกัน วันแรก : ตื่นแต่เช้าเพราะคิดว่าจะไปดูแสงแรกแล้วไปจัดติ่มซำต่อแบบชิวชิว สรุปฝนแรกของภูเก็ตก็มา Say Hi ผมจนได้ แผนต้องเปลี่ยนหมด จากติ่มซำก็เป็นทานข้าวเช้าที่โรงแรมเพื่อรอให้ฝนหยุดตก ซึ่งหลังจากทานข้าวเสร็จฝนก็ยังคงตกตกหยุดหยุด ต้องยอมรับเลยว่าตอนนั้นคือเซงมาก แต่ก็ยังพอโชคดีที่โรงแรมมีสระน้ำ สปา ฟิตเนส ให้ได้เล่นแก้เบื่อ และช่วงที่ฝนตกตกหยุดหยุดผมก็เลยถือโอกาสเดินสำรวจ เก็บภาพบรรยากาศภายในโรงแรมมาแบ่งปันด้วย เผื่อใครสนใจจะไปพักบ้าง แอบกระซิบตรงนี้เลยว่าราคาอยู่ที่คืนล่ะ 1200-1500 บาท ( รวมอาหารเช้าแล้ว ) ประมาณ 11 โมงฝนหยุดตกก็ถึงเวลาแว๊นมอไซท์เที่ยวในเมืองภูเก็ตสักที —————————————-

ไฮไลท์ที่ 1 : Phuket Old Town ผมแว๊นมอไซมาจอดทิ้งไว้ที่ซอยซอยหนึ่งที่เลือกซอยนี้เพราะตึกสวยมากเหมือนอยู่ต่างประเทศเลย แต่ผมจำชื่อซอยไมไม่ได้ จากนั้นผมก็เดินชิวชมเมืองภูเก็ต ตึกส่วนมากจะค่อนข้างเก่าแนวชิโนโปรตุกีสที่แฝงไปด้วยความงาม บางซอยตึกก็มีการทำสีใหม่ street art บนผนัง ผมว่าคนที่ชอบถ่ายรูปจะเพลินมาก

ไฮไลท์ที่ 2 : Street Art ( Madee ) จากไฮท์ไลค์ที่หนึ่ง ถ้าพูดถึง street art ต้องยกให้น้องมาร์ดีเป็นพระเอกเลยครับ ผมไม่ทราบที่ไปที่มาของน้องมาร์ดี รู้แค่ว่าน่ารักก็เลยตั้งใจจะเดินตามเก็บภาพน้องมาร์ดีให้ครบ 3 ภาพ ภาพแรก ผมเจอตอนเดินเก็บภาพ ณ Phuket Old Town นั่นแหล่ะครับ ภาพสองก็เดินมั่วมั่วหาเอา จนไปเจอภาพที่ Down Town Market และตามลิสที่ผมมีอยู่ในมือตอนนี้ผมยังขาดอีกหนึ่งภาพ นั่งก็คือภาพน้องมาร์ดีถือกล้อง ซึ่งเดินอยู่นานมากหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ก็เลยลองถามคนแถวนั้น ซึ่งคำตอบก็คือภาพสามที่ผมตามหาอยู่ที่ foto hotel นอกเมือง ผมไม่พลาดอยู่แล้วไกลแค่ไหนก็ต้องไป เพราะถ้าไม่ไปเก็บภาพที่สามคงอารมณ์เหมือนขี้ไม่สุดอ่ะ พูดถึงขี้นี่ก็ปาเข้าไปบ่ายสองข้าวเที่ยงยังไม่ตกถึงท้องเลยสักเม็ด ณ เวลานี้ต้องตามสั่งง่ายง่ายแล้วครับ ตรงที่ผมจอดมอไซมี mango cafe’ อยู่ร้านหนึ่ง ตรงดิ่งเข้าไปจัดกระเพราะหมูสับเผ็ดเผ็ด+ไข่ดาวหนึ่งจาน น้ำมะม่วงปั่นหนึ่งแก้ว ยัดสิรออะไร!! เมื่ออิ่มเรียบร้อยก็แว๊นต่อไปหาน้องมาร์ดีภาพสุดท้าย ขับมาได้ประมาณ 20 นาที ขออุทานดังดังว่า “เอี้ย” ฝนมาจากไหนไม่รู้คือหนักมากหนักจริงจริง ต้องจอดหาที่หลบฝัน ประมาณชั่วโมงหนึ่งฝนหยุดจากนั้นก็ค่อยค่อยแว๊นต่อไปจนมาถึง Foto Hotel เก็บภาพน้องมาร์เรียบร้อย ขอแว๊นต่ออีกสักหน่อยไปแหลมพรหมเทพ

ไฮท์ไลท์ที่ 3 : แหลมพรหมเทพ จาก Foto Hotel ไปแหลมพรหมเทพ คือไม่ไกลเลย มันก็เลยง่ายที่ผมจะตัดสินใจแว๊นมอไซด์ไป และในส่วนของแหลมพรหมเทพนั้น น่าจะถือว่าเป็นแลนมาร์คหลักแลนมาร์คสำคัญที่ใครมาภูเก็ตแล้วต้องแวะไปเก็บภาพ เพราะเด๋วจะโดนแซวว่ามาไม่ถึงภูเก็ต อากาศวันนั้นที่ผมไปต่อให้รอจนเย็นก็คงจะไม่เห็นแสง เก็บภาพจนอิ่มพอถึงห้าโมงผมก็แว๊นกลับเข้าเมืองอีกครั้งเพื่อเก็บบรรยากาศและหาเข้าเย็นกิน

ไฮลท์ที่ 4 : ร้านวันจันทร์ แว๊นกลับเข้าเมืองอีกครั้งจอดมอไซ์ เข้า google พิมพ์ ร้านดังเมืองภูเก็ต ผมเจอร้านค่อนข้างเยอะ แต่ที่ถูกใจสุดมีอยู่ร้านหนึ่งชื่อว่า “ร้านวันจันทร์” และเมนูสุดแซบที่ผมสั่งก็คือ * ใบเหลียงผัดไข่ * แกงส้มปลามง * น้ำพริกกุ้งเสียบ * ข้าวสวยร้อนร้อน เมื่ออาหารทุกอย่างมาเสิร์ฟที่โต๊ะ ก็เตรียมจัดทันที แต่เดี๋ยวก่อนยังไม่ได้ถ่ายรูปมือขวากล้องรีบถ่ายทันที ( ทรมานตัวเองไปอีก ) เมื่ออิ่มท้องก็ถึงเวลาเดินเล่นชิวชิวชมเมืองภูเก็ตยามค่ำคืนเพื่อย่อยอาหาร พอเดินไปเดินมาก็ปาเข้าไปจะสี่ทุ่มล่ะ กลับโรงแรมอาบน้ำนอนสิครับ เพราะวันที่สองต้องทำอะไรอีกเยอะ วันที่สอง : ตื่นตั้งแต่ตีห้าอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน แล้วแว๊นมอไซไปกินติ่มซำ เช้านี้โชคดีไม่มีฝน แต่ความครึ้มฟ้าครึ้มฝนก็มีอยู่มาก ฟ้าสีเทาไปอีก ขับชิงชิวจากโรงแรม 5 นาทีก็มาถึงร้านบุญรัตน์ติ่มซำ วิธีการออเดอร์ง่ายมาก นั่งเฉยเฉยก็จะมีพนักงานยกมาให้เลือก เราอยากกินอะไรก็จิ้มจิ้มเอา รสชาติผมว่ากลางกลางราคาไม่แพงมาก อิ่มท้องก็แว๊นกลับโรงแรมเพราะผมนัดเจอน้องที่รู้จักหนึ่งคนเพื่อไปเที่ยวด้วยกัน

ไฮไลท์ที่ 5 : Hanuman World ประมาณ 7 โมงครึ่งรถจาก Hanuman world มารับผมกะน้องอีกคนไปเล่นกิจกรรมแนว advanture และด้วยเวลาที่จำกัดทำให้เราเล่นกิจกรรมอยู่สามอย่าง คือ 1. ZIPLINE ความเสียวระดับประถม 2. ROLLER ZIPLINEความเสียวระดับมหาลัย ด้วยระยะทาง 800 เมตร ผมนี่แหกปากลั่นป่าเลยครัช 3. SKY WALK เดินถ่ายรูปเล่นบนสะพานต้นไม้ รับลองได้ภาพชิคชิคคูลคูลแน่นอน ** ระหว่างทำกิจกรรมฝนตกตกหยุดหยุดตลอดเวลาทำให้ได้ภาพมาไม่ค่อยเยอะ แต่การันตีความมันว่าสุดขีด

ไฮไลท์ที่ 6 : บานาน่าบีช เกาะเฮ จาก hanuman wolrd ไปต่อที่ทะเลกันบ้าง และอย่างที่ทราบ ภูเก็ตมีเกาะน้อยใหญ่เยอะ หาดก็เยอะมากมาย ซึ่งมันสร้างความลำบากใจให้ผมเป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายผมก็เลือกไปบานาน่าบีทที่เกาะเฮ สาเหตุที่เลือกที่นี่เพราะเป็นเกาะที่ตัวผมเองไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน และกิจกรรมบนเกาะก็น่าสนใจมาก ไม่ว่าจะเป็นดำน้ำลึกน้ำตื้น เรือกล้วง คายัคกระจกอันนี้เจ๋งมาก และที่ผมชอบสุดก็เป็น parasailing มีความเสียวมากจริงจริง


ย้อนกลับไปวันเดินทางเลยครับ ตามวิถีทางของมนุษย์เงินเดือนอย่างผมก็คือ วันศุกร์ หอบเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าแบกไปออฟฟิศ ทำงาน ทำงาน พอเข็มสั้นชี้เลขห้าเข็มยาวชี้เลขสิบสองเท่านั้นแหล่ะ เด้งจากเก้าอี้ขับรถตรงดิ่งไปสุวรรณหภูมิทันที ผมยอมจ่ายค่าเครื่องแพงหน่อยเพื่อเลือกสนามบินที่ใกล้ที่ทำงานเพราะจะได้ไปทันขึ้นเครื่อง ( ผมทำงานยุชลบุรี ) 1 ชั่วโมงกว่าเครื่องบินก็พาผมบินลัดฟ้ามายังภูเก็ต เวลาตอนนั้น 5 ทุ่ม ผมเดินมึนมึนไปขึ้นรถของโรงแรมที่มารอรับ จากหนามบินไปโรงแรมประมาณ 40 นาที มันนานพอที่จะทำให้ผมเมาท์มอยหาข้อมูลที่เที่ยวจากพี่คนขับได้มากพอสมควร ถึงโรงแรมก็ทำการเช็คอินเข้าห้องอาบน้ำนอนพักผ่อน

ผมพักที่โรงแรม recenta phuket suanlung จริงจริงมีโรงแรม recenta suite phuket อีกอันที่เป็นเครือเดียวกัน

วันแรก : ตื่นแต่เช้าเพราะคิดว่าจะไปดูแสงแรกแล้วไปจัดติ่มซำต่อแบบชิวชิว สรุปฝนแรกของภูเก็ตก็มา Say Hi ผมจนได้ แผนต้องเปลี่ยนหมด จากติ่มซำก็เป็นทานข้าวเช้าที่โรงแรมเพื่อรอให้ฝนหยุดตก ซึ่งหลังจากทานข้าวเสร็จฝนก็ยังคงตกตกหยุดหยุด ต้องยอมรับเลยว่าตอนนั้นคือเซงมาก แต่ก็ยังพอโชคดีที่โรงแรมมีสระน้ำ สปา ฟิตเนส ให้ได้เล่นแก้เบื่อ และช่วงที่ฝนตกตกหยุดหยุดผมก็เลยถือโอกาสเดินสำรวจ เก็บภาพบรรยากาศภายในโรงแรมมาแบ่งปันด้วย เผื่อใครสนใจจะไปพักบ้าง แอบกระซิบตรงนี้เลยว่าราคาอยู่ที่คืนล่ะ 1200-1500 บาท ( รวมอาหารเช้าแล้ว ) ประมาณ 11 โมงฝนหยุดตกก็ถึงเวลาแว๊นมอไซท์เที่ยวในเมืองภูเก็ตสักที

           

           

           

           

ไฮไลท์ที่ 1 : Phuket Old Town

ผมแว๊นมอไซมาจอดทิ้งไว้ที่ซอยซอยหนึ่งที่เลือกซอยนี้เพราะตึกสวยมากเหมือนอยู่ต่างประเทศเลย แต่ผมจำชื่อซอยไมไม่ได้ จากนั้นผมก็เดินชิวชมเมืองภูเก็ต ตึกส่วนมากจะค่อนข้างเก่าแนวชิโนโปรตุกีสที่แฝงไปด้วยความงาม บางซอยตึกก็มีการทำสีใหม่ street art บนผนัง ผมว่าคนที่ชอบถ่ายรูปจะเพลินมาก

           

           

           

           

ไฮไลท์ที่ 2 : Street Art ( Madee )

จากไฮท์ไลค์ที่หนึ่ง ถ้าพูดถึง street art ต้องยกให้น้องมาร์ดีเป็นพระเอกเลยครับ ผมไม่ทราบที่ไปที่มาของน้องมาร์ดี รู้แค่ว่าน่ารักก็เลยตั้งใจจะเดินตามเก็บภาพน้องมาร์ดีให้ครบ 3 ภาพ
ภาพแรก ผมเจอตอนเดินเก็บภาพ ณ Phuket Old Town นั่นแหล่ะครับ
ภาพสองก็เดินมั่วมั่วหาเอา จนไปเจอภาพที่ Down Town Market
และตามลิสที่ผมมีอยู่ในมือตอนนี้ผมยังขาดอีกหนึ่งภาพ นั่งก็คือภาพน้องมาร์ดีถือกล้อง ซึ่งเดินอยู่นานมากหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ก็เลยลองถามคนแถวนั้น ซึ่งคำตอบก็คือภาพสามที่ผมตามหาอยู่ที่ foto hotel นอกเมือง ผมไม่พลาดอยู่แล้วไกลแค่ไหนก็ต้องไป เพราะถ้าไม่ไปเก็บภาพที่สามคงอารมณ์เหมือนขี้ไม่สุดอ่ะ พูดถึงขี้นี่ก็ปาเข้าไปบ่ายสองข้าวเที่ยงยังไม่ตกถึงท้องเลยสักเม็ด ณ เวลานี้ต้องตามสั่งง่ายง่ายแล้วครับ ตรงที่ผมจอดมอไซมี mango cafe’ อยู่ร้านหนึ่ง ตรงดิ่งเข้าไปจัดกระเพราะหมูสับเผ็ดเผ็ด+ไข่ดาวหนึ่งจาน น้ำมะม่วงปั่นหนึ่งแก้ว ยัดสิรออะไร!! เมื่ออิ่มเรียบร้อยก็แว๊นต่อไปหาน้องมาร์ดีภาพสุดท้าย ขับมาได้ประมาณ 20 นาที ขออุทานดังดังว่า “เอี้ย” ฝนมาจากไหนไม่รู้คือหนักมากหนักจริงจริง ต้องจอดหาที่หลบฝัน ประมาณชั่วโมงหนึ่งฝนหยุดจากนั้นก็ค่อยค่อยแว๊นต่อไปจนมาถึง Foto Hotel เก็บภาพน้องมาร์เรียบร้อย ขอแว๊นต่ออีกสักหน่อยไปแหลมพรหมเทพ

           

           

           

           

ไฮท์ไลท์ที่ 3 : แหลมพรหมเทพ

จาก Foto Hotel ไปแหลมพรหมเทพ คือไม่ไกลเลย มันก็เลยง่ายที่ผมจะตัดสินใจแว๊นมอไซด์ไป และในส่วนของแหลมพรหมเทพนั้น น่าจะถือว่าเป็นแลนมาร์คหลักแลนมาร์คสำคัญที่ใครมาภูเก็ตแล้วต้องแวะไปเก็บภาพ เพราะเด๋วจะโดนแซวว่ามาไม่ถึงภูเก็ต อากาศวันนั้นที่ผมไปต่อให้รอจนเย็นก็คงจะไม่เห็นแสง เก็บภาพจนอิ่มพอถึงห้าโมงผมก็แว๊นกลับเข้าเมืองอีกครั้งเพื่อเก็บบรรยากาศและหาเข้าเย็นกิน

           

           

           

ไฮลท์ที่ 4 : ร้านวันจันทร์

แว๊นกลับเข้าเมืองอีกครั้งจอดมอไซ์ เข้า google พิมพ์ ร้านดังเมืองภูเก็ต ผมเจอร้านค่อนข้างเยอะ แต่ที่ถูกใจสุดมีอยู่ร้านหนึ่งชื่อว่า “ร้านวันจันทร์” และเมนูสุดแซบที่ผมสั่งก็คื

* ใบเหลียงผัดไข่
* แกงส้มปลามง
* น้ำพริกกุ้งเสียบ
* ข้าวสวยร้อนร้อน


เมื่ออาหารทุกอย่างมาเสิร์ฟที่โต๊ะ ก็เตรียมจัดทันที แต่เดี๋ยวก่อนยังไม่ได้ถ่ายรูปมือขวากล้องรีบถ่ายทันที ( ทรมานตัวเองไปอีก ) เมื่ออิ่มท้องก็ถึงเวลาเดินเล่นชิวชิวชมเมืองภูเก็ตยามค่ำคืนเพื่อย่อยอาหาร พอเดินไปเดินมาก็ปาเข้าไปจะสี่ทุ่มล่ะ กลับโรงแรมอาบน้ำนอนสิครับ เพราะวันที่สองต้องทำอะไรอีกเยอะ

           

           

วันที่สอง : ตื่นตั้งแต่ตีห้าอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน แล้วแว๊นมอไซไปกินติ่มซำ เช้านี้โชคดีไม่มีฝน แต่ความครึ้มฟ้าครึ้มฝนก็มีอยู่มาก ฟ้าสีเทาไปอีก ขับชิงชิวจากโรงแรม 5 นาทีก็มาถึงร้านบุญรัตน์ติ่มซำ วิธีการออเดอร์ง่ายมาก นั่งเฉยเฉยก็จะมีพนักงานยกมาให้เลือก เราอยากกินอะไรก็จิ้มจิ้มเอา รสชาติผมว่ากลางกลางราคาไม่แพงมาก อิ่มท้องก็แว๊นกลับโรงแรมเพราะผมนัดเจอน้องที่รู้จักหนึ่งคนเพื่อไปเที่ยวด้วยกัน

ไฮไลท์ที่ 5 : Hanuman World

ประมาณ 7 โมงครึ่งรถจาก Hanuman world มารับผมกะน้องอีกคนไปเล่นกิจกรรมแนว advanture และด้วยเวลาที่จำกัดทำให้เราเล่นกิจกรรมอยู่สามอย่าง คือ
1. ZIPLINE ความเสียวระดับประถม
2. ROLLER ZIPLINEความเสียวระดับมหาลัย ด้วยระยะทาง 800 เมตร ผมนี่แหกปากลั่นป่าเลยครัช
3. SKY WALK เดินถ่ายรูปเล่นบนสะพานต้นไม้ รับลองได้ภาพชิคชิคคูลคูลแน่นอน
** ระหว่างทำกิจกรรมฝนตกตกหยุดหยุดตลอดเวลาทำให้ได้ภาพมาไม่ค่อยเยอะ แต่การันตีความมันว่าสุดขีด

            

           

           

           

           

ไฮไลท์ที่ 6 : เกาะเฮ

จาก hanuman wolrd ไปต่อที่ทะเลกันบ้าง และอย่างที่ทราบ ภูเก็ตมีเกาะน้อยใหญ่เยอะ หาดก็เยอะมากมาย ซึ่งมันสร้างความลำบากใจให้ผมเป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายผมก็เลือกไปบานาน่าบีทที่เกาะเฮ สาเหตุที่เลือกที่นี่เพราะเป็นเกาะที่ตัวผมเองไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน และกิจกรรมบนเกาะก็น่าสนใจมาก ไม่ว่าจะเป็นดำน้ำลึกน้ำตื้น เรือกล้วง คายัคกระจกอันนี้เจ๋งมาก และที่ผมชอบสุดก็เป็น parasailing มีความเสียวมากจริงจริง

           

           

           

           

           

           

           

           

          

ทั้งหมดก็คือ 6 ไฮไลท์ กับทริป 2 วัน 2 คืนของผม ถ้าไม่ติดว่ามีฝนตกตลอดทั้งทริปคงเก็บที่เที่ยวได้มากกว่านี้ เอาเป็นว่าภูเก็ตต้องมีการซ้ำแน่นอนในวันฟ้าใส


ข้อมูเพิ่มเติมดูได้จาก :
ที่พัก : www.recentahotels.com
กิจกรรม Advanture : Hanuman World
เกาะเฮ : Banana Beach