มีคนถามเราว่าจันทบุรีมีเสน่ห์ที่ตรงไหน เรานิ่งคิดสักสามวิก่อนจะตอบแบบอมยิ้มเพราะคิดว่าคำตอบมันดูชวนฝันเกินไป แต่ก็นั่นแหล่ะมันคือคำตอบที่เรารู้สึกทุกครั้งที่มาจันทบุรี เราชอบท้องฟ้ากับต้นไม้ที่อยู่ใต้ท้องฟ้าของจันทบุรี ไม่รู้เราคิดไปเองรึเปล่า เราว่าท้องฟ้าของที่นี่สีมันแตกต่างจากที่อื่น ๆ รวมถึงเมฆก้อนใหญ่ที่ลอยอยู่พวกนั้น มันดูขาวอวบ หนาแต่ไม่ทึบ แน่นแต่ไม่น่ากลัว กับเหล่าต้นไม้ที่เหมือนพร้อมใจกันแตกดอกออกใบสร้างสีสรรให้เข้ากับท้องฟ้าที่โอบล้อมพวกมันราวกับจงใจ สองความงามที่ลงตัวยิ่งช่วยส่งเสริมให้สิ่งต่าง ๆ ภายใต้ท้องฟ้าของจันทบุรีดูสวยงามขึ้นไปอีก
เราเลยคิดว่าถ้ามีเวลาแค่สองวันหนึ่งคืนและอยากใช้มันกับการไปเที่ยวชิว ๆ แต่เต็มอิ่ม เราว่าจันทบุรีมันครบเลยนะ ทั้งกิจแรรมแอดแวนเจอร์ กิน เที่ยว ดื่มทั้งเช้าจนค่ำก็ยังไม่เบื่อ กับ 10 สถานที่ที่เราอยากนำเสนอ
001 ต้นนาโฮมสเตย์
ที่พักย่านแหลมสิงค์ที่พวกแกต้องระวังจะอิ่มจนพุงแตก และโดนอัดกิจกรรมแน่นเฟร่อจนร่างเกือบพัง ที่สำคัญกำเงินไปแค่คนละ 1,700 แกก็จะได้รับบริการทั้งหมดนี้แบบจัดหนักจัดเต็มกันเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่จอดรถรับกุญแจ เก็บกระเป๋าเปลี่ยนผ้าแล้วพาตัวเองไปล่องแพเปียกดูเหยียวแดง กลับมากระโจนลงน้ำ ไถลตัวลงสไลเดอร์ โดดแทมโพลีน โดดหมอนน้ำ พายเรือหน้าบ้านพัก
ในแพคเกจ 1,700 บาทต่อคน พวกแกจะได้กินอาหารไม่อั้นทั้ง 3 มื้อ เที่ยง-เย็น-เช้า ครบ!!! ถ้ากลัวกินเยอะแล้วจะติดคอเค้ายังก็เตรียมมิกเซอร์โซดา&น้ำแข็ง&น้ำอัดลมให้แบบไม่อั้นอีก คือมันครบและมันคุ้มค่าในราคาอย่างมาก โดยเฉพาะสายพุงแตก แกจะต้องต้องระวังตะลึงตาแตกกับกุ้งแชบ๊วยตัวเท่าหน้า และระวังมือแตกกับกองทัพปูที่พาเหรดกันมาจากท้องทะเลมุ่งสู่เตานึ่งก่อนถูกเสริฟขึ้นจานแบบนอลสต๊อป
002 จุดชมวิวลานหินสีชมพู
โขดหินสุดหวานใจกลางเขตห้ามล่าสัตว์คุ้งกระเบน อำเภอท่าใหม่ จ่ายค่าเข้าคนละ 20 รถคันละ 100 เดินต่อจากที่จอดรถอีกประมาณสิบห้าถึงยี่สิบนาทีหรือหนึ่งชั่วโมงขึ้นอยู่กับความสามารถในการเดินและอารมณ์ของการหยุดแวะถ่ายรูป การเดินก็ยากประมาณหนึ่งแต่ถ้าใส่รองเท้าผ้าใบก็จะสบายมากขึ้นหน่อย ที่นี่คือฟีลแบบแรกเห็นอาจจะหรี่ตาเพ่งมองนิดนึงว่าเอ๊ะมันชมพูป่าววะ แต่พอยิ่งเดินเข้าไปเรื่อย ๆ ก็จะยิ่งเห็นความหวานแหววขึ้นเรื่อย ๆ โขดหินสีชมพูที่เบื้องหลังคือต้นไม้สีเขียวเข้มสลับน้ำตาล เบื้องหน้าคือกระแสคลื่นที่ม้วนตัวเป็นเกลียวกระทบโขดหิน และผืนฟ้าเบื้องบนอันสดใส มันอเมซิ่งว่ะแกเอาจริง ๆ มันอึ้ง มันสวย มันต้องมา แต่ถ้าอยากมาเห็นความอลังแบบเต็มที่ก็แนะนำให้มาช่วงน้ำลงจะดีสุดเพราะทะเลจะยอมเผยให้ได้เห็นความมหัศจรรย์นี้มากขึ้นอีกสักสองสามเมตร
003 เนินนางพญา
จุดชมวิวเลื่องชื่อ ถนนโค้งตัวเอสเลียบชายหาดที่ลงตัวเป๊ะ จริง ๆ ที่นี่มันก็ไม่มีไรมากนะแก คือแบบมาถ่ายรูปกับจุดชมวิวเฉย ๆ อะไรประมาณนั้น แต่เก็ทป่ะแค่ชื่อก็คือนางพญาละอ่ะ ความไม่มีอะไรมันเลยมีอะไรจนทำให้ผู้คนต้องมาจุดชมวิวนี้กันเป็นจำนวนมาก เพราะวิวทะเลและถนนที่สวยหมดจด ท้องฟ้าและน้ำทะเลยิ่งช่วยขับให้เนินนางพญาแห่งนี้สวยสมชื่อเข้าไปอีก อารมณ์แบบแม่ก็คือแม่ อยู่เฉย ๆ ก็ดูเก๋ดูดีมีสไตล์ เฮ้ย งงแต่ก็ต้องยอมนาง
ที่สำคัญตรงทางขึ้นมีไข่ปลาหมึกปิ้งอร่อยเด็ดอยู่ด้วย ไข่เด้ง แน่น สด ย่างหอม ๆ พอให้ผิวนอกตึง ๆ แต่ด้านในชุ่มฉ่ำ ราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดสไตล์ชาวจันทบุรีที่ใส่ส้มมะปี๊ดลงไปด้วยยิ่งทำให้ความหอมของส้มช่วยกลบกลิ่นปลาหมึกไปได้มากทีเดียว นอกจากนี้ยังมีน้ำดื่ม ผลไม้สดอาหารทานเล่นอื่น ๆ ให้เลือกอีกหลากหลาย สรุปว่าไอ้ที่คิดว่าไม่เห็นมีไรเลยก็หมดเวลาลงอย่างรวดเร็วเพราะมัวแต่กินนู่นกินนี่เอาขึ้นมาเดินเล่นชมวิวเพลินจนลืมเวลาซะงั้น
004 จุดชมวิวเจดีย์บ้านหัวแหลม
สะพานแห่งความเชื่อที่ทอดโยงระหว่างความศรัทธาและความศักดิ์สิทธิ์ ที่สุด ณ ปลายสะพานนั้นแม้จะเชื่อมไม่ถึงตัวเจดีย์แต่กลิ่นควันธูปและพวงมาลัยดาวเรืองก็ได้ทำหน้าที่เชื่อมทางต่ออย่างสมบูรณ์ เราเดินเข้าไปนมัสการเจดีย์กลางน้ำ เลือกอธิษฐานหนึ่งข้อ ก้มกราบนมัสการอีกครั้ง ก่อนลุกเดินขึ้นเพื่อนถ่ายวิวรอบ ๆ ที่สวยงามจับใจ ความเหมาะเจาะลงตัวทั้งด้านซ้ายที่เป็นแนวเทือกเขา และด้านขวาที่เป็นสุดขอบฟ้า ความงามและความศรัทธาที่ผสานกันอย่างกลมกลืนทำให้เราตะลึงกับความจงใจอันแสนธรรมชาตินี้อย่างมาก เพราะฉะนั้นเราขอกล่าวคำนี้อีกครั้งว่าแกต้องมาให้ได้นะเว้ย สะพานไม้ยาว 50 เมตร นี้ตั้งอยู่ที่ชุมชนบ้านหัวแหลม ปลายแหลมอ้าวคุ้งกระเบน ถ้าแกอยากมาก็ขับเลยจากเนินนางพญามาจนสุดไม่เกินห้านาทีเท่านั้นล่ะ
005 อาสนวิหารพระแม่ปฏิสนธนิรมล
โบสถ์คาทอลิคริมแม่น้ำจันทบูรอายุ 200 กว่าปี สร้างตามแบบโบสถ์นอตเทอร์ดามในประเทศฝรั่งเศส ทำให้โบสถ์แห่งนี้มีความโดดเด่นจากโบสถ์อื่นๆ คือ มีหน้าต่างโค้ง ประดับด้วยลายฉลุรอบโบสถ์ มีหอคอยด้านหน้าทั้งสองข้าง และภายในประดับตกแต่งด้วยกระจกสีเป็นรูปนักบุญต่าง ๆ รอบโบสถ์ รวมถึงรูปปั้นแม่พระและนักบุญที่ถูกสร้างและตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามโดยที่ทุกอย่างนี้เกิดขึ้นมาจากความเชื่อความศรัทธาที่มีต่อองค์พระเยซูเจ้า พระบุตรผู้เป็นที่รักของพระบิดา จากเสียงลืออื้ออึงของหลาย ๆ คนที่ได้มาจึงทำให้อาสนวิหารแห่งนี้เป็นสถานที่ ๆ มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมากตลอดทั้งปี ดังนั้นเวลาเข้ามาถ่ายรูปหรือเดินชมก็อย่าลืมว่าที่นี่คือศูนย์รวมจิตใจของชาวคาทอลิคเราควรอยู่ในความสำรวมและแต่งกายให้สุภาพด้วยนะแก
006 ชุมชมริมแม่น้ำจันทบูร
จากโบสถ์คริสต์สามารถเดินข้ามสะพานมายังชุมชนริมฝั่งน้ำจันทบูร ชุมชมริมแม่น้ำแห่งนี้มีประวัติศาสตร์มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 อายุอานามก็ตกเกือบร้อยปี ถ้าเป็นคนก็เรียกได้ว่าผ่านร้อนมาหนาวมาจนเกินพอดี ที่นี่จึงมีร่องรอยประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์ และวิถีชีวิตแทรกซึมดำเนินควบคู่ไปกับโลกปัจจุบันได้อย่างกลมกลืนและมีเสน่ห์
บ้านไม้สลับกับปูนขึ้นเรียงสลับกัน สีสันความเก่าใหม่มีให้เราเห็นตลอดเส้นทางการเดิน เป็นเสน่ห์ที่ต้องบ่มเพาะกันเกือบร้อยปีกว่าจะออกมาลงตัวขนาดนี้ได้ เพราะมันดูจริง ดูเรียล ดูไม่ประดิจนประดักประเดิด หรือพยายามจนเสียจริตแบบตลาดพยายามโบราณทั่ว ๆ ไป
ร้านค้าเองก็มีความหลากหลาย ขายทั้งของใหม่ ของเก่า งานฝีมือ อาหาร เครื่องดื่ม ไปจนถึงร้านสมุนไพรโบราณเลยล่ะ แม้วันนี้เราต้องเดินกลางแดดแรงจ้าจนต้องหยี๊ตาเดิน แต่ความสวยงามก็สะกดให้เราหยุดมองและถ่ายรูปจนลืมเวลากับเหงื่อที่ซึมไปทั้วทั้งร่างได้เลย เสริมนิดถ้าไม่ได้มาจากฝั่งโบสถ์แม่พระปฏิสนธินิรมลก็สามารถมาได้จากฝั่งเชิงสะพานวัดจันทร์มาได้นะแก
007 ร้านก๋วยเตี๋ยวป้านกแก้ว
เที่ยวจนเพลิน เดินจนเหนื่อยพวกเราขอพักผ่อนด้วยการกินแบบไม่พักกระเพาะตามสไตล์กันดีกว่า เริ่มต้นกันแบบบ้าน ๆ สุดคลาสิคร้านแรกคือร้านก๋วยเตี๋ยวป้านกแก้ว ที่ตั้งอยู่ที่ตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ เมนูเด็ดคือเย็นตาโฟทะเล ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟเครื่องทะเลแน่น กุ้ง ปลาหมึก สดหวานเข้ากันดีกับน้ำซุปสีชมพูอ่อนรสหวานนำ และอีกจานคือก๋วยเตี๋ยวเนื้อเปื่อย น้ำซุปหอมเนื้อเข้มข้น เนื้อเปื่อยขนาดพอดีคำนุ่มนิ่มเข้ากันดีกับเส้นเล็กเหนียวนุ่ม นอกจากนี้ภายในร้านยังมีเมนูอาหารตามสั่ง กล้วยปิ้ง และเครื่องดื่มอื่น ๆ ให้เลือกอีกครบครัน แถมราคาสบายกระเป๋าอีกด้วยนาจาาาา
008 ก๋วยเตี๋ยวกั้งเจ๊อี๊ด
ร้านถัดมายังคงความบ้าน ๆ แต่แอดว๊าชเครื่องเข้าไปอีกนั่นคือร้านก๋วยเตี๋ยวกั้งเจ๊อี๊ดในย่านชุมชนริมน้ำจันทบูร ก๋วยเตี๋ยวบ้าน ๆ แต่ในจานระดับมหาสมุทร ใครใคร่สั่งข้าวก็มีข้าว ใครสั่งก๋วยเตี๋ยวก็มีก๋วยเตี๋ยว อยากได้หมู ไก่ ทะเล ปูล้วน กุ้งล้วน กั้งล้วน ก็แล้วแต่ชอบไม่มีบังคับจิตใจ รสชาติร้านนี้จะมีความเผ็ดจัดจ้านเพราะฉะนั้นใครไม่กินเผ็ดโปรดระวังไว้ให้ชิมก่อนปรุง นอกจากนี้น้ำจิ้มซีฟู้ดของชาวจันทบุรีมักจะใส่ส้มมะปี๊ดแทนมะนาวทำให้ได้รสเปรี้ยวแหลมและกลิ่มหอมของส้มมะปี๊ดเป็นเอกลักษณ์ที่ต้องลองมาชิมดูสักครั้ง
009 Mililin Cafe&Eatery
ของหนักก็มากแล้วมาถึงอะไรเบา ๆ กันบ้างดีกว่า เราเลือกร้าน Mililin Cafe&Eatery ที่เปิดให้นั่งกันได้ยาว ๆ ตั้งแต่ 7 โมงถึงห้าทุ่ม แถมเสริฟครบทั้งอาหารคาว หวาน ขนม นมเนย ไอศกรีม ชา กาแฟ ผลไม้สด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เอาง่าย ๆ แกอยู่ที่นี่ได้ทั้งวันอ่ะ แล้วเอาจริง ๆ นอกจากความครบครันแล้ว ความชิคเกร๋ก็สิบเต็มสิบ เพราะร้านแต่งด้วยโทนขาวดำ สะอาด สงบ ละมุนมาก
เราเลือกไอศกรีมลอดช่องที่ถูกเสริฟในมุมมองใหม่ ด้านล่างเป็นแครกเกอร์กรอบ ๆ เค็ม ๆ ตรงกลางคือน้ำกะทิที่แช่เย็นจนเป็นไอศกรีม ท้อปบนสุดด้วยตัวลอดช่อง แถมน้ำกะทิกวานหอมให้ราดเพิ่มเติม ตัวลอดช่องจะใหญ่ ๆ ไปหน่อย แต่ตัวไอศกรีมเราชอบที่ความหวานหอมกำลังดี ยิ่งตัดไปจนถึงแครกเกอร์กรุย ๆ ด้านล่างช่วยเพิ่มเทกเจอร์ให้มีความน่าสนใจมากขึ้นไปอีก เหมาะกินคู่กับกาแฟลาเต้อาร์ตหอมเข้มกาแฟและฟองนมนุ่ม ๆ เบา ๆ ทำให้เราต้องสั่งขนมปังอบไส้ไข่เค็มมาทานคู่ด้วยสักหน่อย ไข่เค็มข้น ๆ เยิ้ม ๆ ที่ถูกประกบไว้ระหว่างขนมปังอบสองแผ่นพอผ่าแล้วจึงไหลเยิ้มออกมายั่วน้ำลาย นอกจากนี้ที่ร้านยังมีเมนูแปลกทั้งคาว หวาน และเครื่องดื่มให้เลือกลองอีกหลายเมนูมาก ๆ แต่ถ้าลองหมดก็เดี๋ยวจะเปลี่ยนไปนอนที่โรงพยาบาลแทนดังนั้นหากพวกแกมากินแล้วชอบเมนูไหนก็มาแบ่งปันกันด้วยล่ะ
010 Diaphragm(ได อะ แฟรม)
ร้านต่อมาที่มีความแกรม ความครีเอท และความชิคจนเราอดไม่ได้ที่จะแว๊บเข้าไป ร้าน Diaphragm (ได อะ แฟรม) เป็นคาเฟ่เล็ก ๆ ใกล้ ๆ หัวสะพานในชุมชนริมน้ำจันทบูร เมื่อเราเริ่มเดิมมาจากฝั่งโบสถ์แม่พระร้านนี้ก็เป็นร้านสุดท้ายปิดจบเส้นทางการเดินเล่นในชุมชนได้แบบลงตัวม๊ากกกก ตัวร้านสีเขียวเข้มเข้ากันได้ดีกับเฟอร์นิเจอร์สีขาว ประดับด้วยต้นไม้เล็ก ๆ ที่ห้อยบ้างวางบ้าง ด้านหน้ามีป้ายเล็กบอกเมนูแนะนำเช่น โซดามะกรูด ชาไทยมะปี๊ด ฯลฯ ทำให้เราตัดสินใจไม่ยากเลยที่จะเลือกเข้าร้านนี้เพื่อหาอะไรมาดับร้อนแบบแปลกใหม่สักหน่อย
ชาวจันทบุรีมีความครีเอทกันมาก เพราะจากที่ไล่ ๆ ดูคาเฟ่ก็มีมากมายหลายร้านซึ่งแต่ละร้านจะมีเมนูหรือรูปแบบการนำเสนอที่น่าสนใจและไม่ซ้ำกัน ซึ่งมันเก๋ มันคลูมากในการเป็นตัวเอง
กลับมาที่เมนูมะกรูดโซดาของเราดีกว่า มันก็จะแบบมีความซ่า ๆ หอม ๆ เปรี้ยว ๆ คือซ่ามะกรูดด้วยซ่าโซดาด้วย จะบอกว่าอร่อยมันก็ยังไม่เชิง แต่จะบอกว่าไม่อร่อยก็ไม่ได้ มันคือรสชาติที่ไม่คุ้นเคยเท่านั้นเอง แต่สุดท้ายมันชื่นใจนะ ชื่นใจในความครีเอทีฟด้วยชื่นใจมะกรูดด้วย อีกสองแก้วพวกเราเลือกเป็นชาไทยมะปี๊ดและเฉาก๋วย ชาไทยมะปี๊ดจริง ๆ ก็อารมณ์ชามะนาวนั่นล่ะ แต่ส้มมะปี๊ดจะเด่นกว่าในเรื่องของกลิ่นหอมและความเปรี้ยวโดดหน่อย ๆ ส่วนเฉาก๋วยนมสดก็อร่อยได้มาตราฐานเฉาก๋วยที่ดีคือหนึบ แน่น เหนียว หวานน้อย กลมกล่อม เป็นการเพิ่มแรงกายแรงใจในการเดินวนกลับไปที่จอดรถได้อีกมากทีเดียวล่ะ
เป็นอย่างไงบ้างกับ 10 โลเคชั่นที่เราเสนอไปแบบครบเครื่อง ครบรส แต่เอาเข้าจริงนะจันทบุรียังมีอีกกลายจุดหลายมุมอีกมากที่น่าสนใจ น่าค้นหา และน่าลื้มลอง และไปกี่ครั้ง ๆ ก็มีอะไรใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นอยู่เสมอ ที่สำคัญคือมันไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก เดินทางง่ายยังไม่ทันเหนื่อยก็ถึงละ ก็อยากบอกพวกแกว่าให้ไปเถอะ เพราะการเดินทางมันให้อะไรเรามากกว่าจุดหมายปลายทาง บางที่ที่แกอยากไปแกอาจจะไปไม่ถึง แต่บางที่ที่แกไม่ได้คาดหวังแกอาจจะรักมันกว่าที่คิด ก็เหมือนกับชีวิตคนเรานั่นแหล่ะ อย่าไปเถรตรงกับมันมาก ลองสนุกกับสิ่งตรงหน้าให้มากกว่าเดิมดู แล้วจะรู้ว่าการเดินทางมันก็ทำให้ชีวิตมีความตื่นเต้น เลือดสูบฉีดกว่าการเดินถนนขึ้นรถไปทำงานเป็นไหน ๆ และสุดท้ายต้องขอบคุณ KTB Care เช่นเคยที่ทำให้เรามีทริปดี ๆ แบบนี้ออกมาแบ่งปันกันอยู่เรื่อย ๆ และเหนือสิ่งอื่นใดไปเที่ยวแบบนี้พกบัตรเดบิตวีซ่าของธนาคารกรุงไทยติดตัวไว้ ได้รับส่วนลดร้านอาหารเด็ดทั่วประเทศและสิทธิพิเศษดี ๆ ตลอดทั้งปี อยากรู้ว่ามีดีลอะไรบ้าง คลิ๊กเลย
