คอนนิจิวะ… สวัสดีจ้าทุกคน วันนี้เราจะพาไปเที่ยวญี่ปุ่นกันแบบ 2 วัน 1 คืน โดยไม่ต้องบินข้ามประเทศ ไม่ต้องนั่งเครื่องให้เมื่อยหลัง แม้ตอนนี้จะอยากนั่งมากก็ตาม เพราะ Little Japan อยู่ใกล้บ้านเราแค่เอื้อม ตรง ศรีราชา นี่เอง อย่างที่รู้ ๆ กันว่าแถวนี้คนญี่ปุ่นอาศัยอยู่ค่อนข้างเยอะ เลยทำให้มีคาเฟ่ฟีลคาวาอี้ ร้านอาหารรสชาติออริจินอล รวมถึงที่พักแบบมีออนเซ็นกระจายอยู่ทุกซอกซอย ฉะนั้นนอกจากสถานที่ที่เขาจัดได้เหมือนแล้ว บรรยากาศก็ยังเอื้ออำนวย เหมือนเราได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นขนาดย่อม ๆ ให้หายคิดถึงได้เลยทีเดียว
จะให้ได้ฟีล เราลองเลียนแบบไลฟ์สไตล์ชาวเมืองญี่ปุ่นที่เวลาไปเที่ยวส่วนใหญ่ เขาจะไม่ค่อยพกกล้อง เน้นชื่นชมบรรยากาศ ถ่ายรูปพอเป็นเมโมรี่ด้วยกล้องมือถือ โดยครั้งนี้เครื่องบันทึกความทรงจำคู่กายที่เราเลือกคือ Vivo V20 กล้องความละเอียดสูง 64 MP มีกล้องหลักถึงสามตัว ระยะครอบคลุม เซลฟี่ด้วยโหมด Eye Auto Focus โฟกัสแม่นไม่มีหลุด ถ่ายภาพละลายหลังสวยงามด้วยโหมด Portrait พร้อมฟีเจอร์ที่อัดมาอีกเต็มเครื่อง ให้เราสนุกกับทุกมุมมอง แถมน้องยังมีดีไซน์สวย หนาเพียง 7.38 มม. หนักแค่ 171 กรัม สะดวกต่อการพกพา มากับแบตเตอรี่ 4000mAh ถ่ายทั้งวันก็ยังไหว
Day 1
001 White House Beach Café Restaurant
ประเดิมโลเคชั่นแรกของทริปด้วยร้านสุดชิล White House Beach Café Restaurant บ้านไม้สีขาวหลังใหญ่ ตั้งสวยสง่าอยู่ริมทะเล มีป้ายบอกทางฟีล Aloha นิด ๆ จัดพื้นที่ได้สะอาดตา บวกกับอากาศเย็นสบาย บอกถึงการเริ่มเข้าฤดูหนาว ใครจะไปคิดว่าบรรยากาศอย่างนี้ อยู่แถวบางพระนี่เอง ถ่ายรูปลง เพื่อนนึกว่าได้อภิสิทธิ์ว๊าปไปโอกินาว่าแบบไม่ต้องกักตัว
ฟีลชิล ๆ ริมทะเลแบบนี้ เครื่องดื่มต้อนรับความสดใสของเราคงหนีไม่พ้นบลูฮาวาย และสตรอว์เบอร์รี่ปั่น สีตัดกัน ดูจัดจ้านรสชาติสดชื่น และเพิ่มความหอมหวานด้วยเค้กมะพร้าวอ่อนละมุน เนื้อสัมผัสดี๊ดี เริ่มต้นทริปได้อย่างท๊อปฟอร์มมากแม่
เจอสถานที่ที่ชอบแบบนี้ต้องมีการเซลฟี่เป็นที่ระลึกสักหนึ่ง ซึ่งความเป๊ะปังของน้อง Vivo V20 ก็ต้องยกนิ้วให้พร้อมกับพูดสามครั้งพร้อม ๆ กันว่า เยี่ยมจริง ๆ เยี่ยมจริง ๆ เยี่ยมจริง ๆ เพราะกล้องหน้าน้องมากับความละเอียด 44 MP แถมมีระบบ eye auto focus โฟกัสที่ตาของเราได้แม่นยำ สร้างมิติให้ภาพมีความชัดตื้นลึกได้อย่างสวยงาม ถ่ายยังไงก็ไม่หลุดจ้า
002 The Baristro at Sriracha
ถือเป็นคาเฟ่สุดป๊อป มีชื่อเสียงตั้งแต่เชียงใหม่จนมาถึงศรีราชาเลยล่ะสำหรับ The Baristro at Sriracha การตกแต่งยังคงคุมธีมทุกสาขา เน้นสีขาว เฟอร์นิเจอร์ไม้ ปูนเปลือยให้ดูดิบ ๆ สบาย ๆ แต่แฝงไปด้วยความสะอาดเรียบร้อย มีความโมเดิร์น ออกแบบเป็นหลังคาสูง ติดกระจกบานใหญ่เพื่อรับแสงธรรมชาติได้เต็ม ๆ ทำให้ร้านดูโปร่งสบายตา ฟีลคาเฟ่มินิมอลในโตเกียวเด๊ะ! แล้วยังมีรถโฟล์คสุดคลาสสิคตั้งไว้ให้เราได้ถ่ายรูปคิ้วท์ ๆ เล่นกัน
จากภาพที่เห็นทุกคนอาจจะไม่เชื่อว่าเราใช้กล้องมือถือถ่าย แต่มันคือความจริงจ้า เพราะด้วยความที่กล้องหลักของน้อง Vivo V20 ตัวนี้มีความละเอียดสูงถึง 64 MP จึงทำให้เราเก็บรายละเอียดทุกจุดในภาพได้คมกริบ แต่งสีแต่งแสงได้ง่าย ได้ภาพปัง ๆ มาลงเพียบ!
ขอออกตัวก่อนเลยว่า ทางเราเป็นแฟนคลับของร้านนี้มานานมาก เพราะกาแฟเขามีมาตรฐาน หอมละมุนถูกจริต ครั้งนี้ก็เช่นเคยเราสั่งเครื่องดื่มมาหลายเมนูมาก แต่ละอย่างมีพรีเซ้นท์สวยงาม ถ่ายรูปสวยสมมง The baristro ส่วนรสชาติก็คือเต็มสิบไม่หักเหมือนเดิมจ้า
003 Balcony Seaside
เที่ยวศรีราชายังไงให้เหมือนนอนโรงแรมออนเซ็นในญี่ปุ่น ขอแนะนำที่นี่เลยค่ะคุณพี่.. น่ารักตั้งแต่การต้อนรับ ใส่ใจดูแลรายละเอียดการบริการได้ดีพอ ๆ กับญี่ปุ่นเลย ที่สำคัญลูกค้าชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในไทยก็ใช้บริการกันเยอะมากเช่นกัน อาหารเช้ามีเสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นแบบจุก ๆ ทั้งข้าวโรยผงปรุงรส โซบะ เทมปุระ มีบริการรถรับ-ส่งไปถึงแหล่งช้อปปิ้งตามที่ที่พักกำหนด มีของว่างบริการตลอด แถมยังมีหาดเล็ก ๆ ส่วนตัวไปอี๊กกกก อันนี้ปลื้มมาก Feel like Japan ได้สมบูรณ์แบบสุด ๆ
จุดเด่นของที่นี่คือมีออนเซ็นที่เหมือนญี่ปุ่นแท้ ๆ แยกชาย-หญิง สำหรับคนขี้อายอาจจะต้องใจกล้าหน่อยเพราะต้องถอดหมด แต่บอกเลยว่าแช่แล้วสบายตัวหายเมื่อย ออกมามีชาร้อนกลิ่นหอมเสิร์ฟเพิ่มความสดชื่นให้ด้วย บอกเลยว่าฟินแท้
004 Prave Cafe
ร้านที่สบายหูสบายตาที่สุดทางเราขอยกให้ Prave Cafe ด้วยความมินิมอล เน้นโทนขาวดำสุดเก๋ ฝั่งร้านที่หันไปทางทะเล เป็นกระจกบานใหญ่ทั้งสองด้าน ให้เรามองวิวได้แบบพาโนราม่า ด้วยความที่ทะเลศรีราชาผู้คนจะไม่ค่อยจอแจ บรรยากาศรอบด้านดูสุขสงบ เหมือนอยู่ริมทะเลแถวคานากาว่าเลยแหละ ไม่เชื่อลองไปเปิดรูปเทียบกันได้ ส่วนคนที่อยากเน้นถ่ายรูปมุมสวย ๆ เขาก็มีจัดให้หลายจุดเลย เรียกว่าถ่ายได้ทั้งแบบนิปปอนเกิร์ลเบา ๆ หรือคาเฟ่ฮอปเปอร์ชิค ๆ ก็ไม่ขัด
ช่วงพระอาทิตย์กำลังตกแบบนี้ ขอสั่งเมนูจัดเสิร์ฟสวย ๆ อย่าง Peach Mocktail มาชนแก้วยามอาทิตย์อัสดง พร้อมกับ Blue Prave Cake เค้กชิ้นโตสีฟ้าสดใส ซิกเนเจอร์ของทางร้าน รสชาติหวานอมเปรี้ยว เนื้อเค้กแน่นนุ่มตัดกับครีมชีสอร่อยได้มาตรฐาน
005 Oden Kungchan
อีกหนึ่งโลเคชั่นที่ทำให้เราเข้าใกล้ความเป็นญี่ปุ่นเข้าไปอีก Oden Kungchan เค้าเป็นร้านโอเด้งเล็ก ๆ ที่เปิดตอนกลางคืนเท่านั้น ตกแต่งเหมือนซุ้มยาไต แถบฟุกุโอกะ ร้านอาหารสไตล์สตรีทฟู้ดอันเป็นเอกลักษณ์ ใช้ป้ายผ้าญี่ปุ่นประดับ พร้อมเคาน์เตอร์เล็ก ๆ กับที่นั่งรอบซุ้มดูอบอุ่น ลูกค้าส่วนใหญ่ที่แวะเวียนมาทานจะเป็นคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในศรีราชา
เมนูโอเด้งที่นี่ค่อนข้างจะกลมกล่อม ฟีลออริจินอลญี่ปุ่นแท้ ๆ เพราะสามีของเจ้าของก็มาจากญี่ปุ่นจริง ๆ ทั้งไข่ เส้นบุก เต้าหู้ มีน้ำซุปซึมเข้าไปแบบชุ่ม ๆ กินแล้วอุ่นท้องกำลังดี เหมาะจะเป็นมื้อเบา ๆ ก่อนนอน ส่วนเรื่องภาพที่ได้จาก Night mode คือสีดีงาม ไม่มีเพี้ยนแม้สภาพแสงจะน้อย และถ้าอยากได้ภาพที่แต่งสำเร็จ ก็มีโหมดเปลี่ยนสี ทำให้รูปสดใส แปลกใหม่ขึ้น ต้องบอกเลยว่าโหมดกลางคืนของน้อง Vivo V20 ดีงามมาก
Day 2
006 อ่างเก็บน้ำบางพระ
ตื่นแต่เช้าพร้อมผิวหน้าที่สดชื่น ผิวกายแสนสบายจากการแช่ออนเซ็น เราก็รีบแต่งหน้าอ่อน ๆ ให้ดูเนเจอร์ ๆ เข้ากับสถานที่แรกของวัน นั่นก็คือ อ่างเก็บน้ำบางพระ อีกหนึ่งวิวสุดขอบฟ้า ที่มีทั้งบ่อน้ำ ถนนสวย ภูเขาเขียว ธรรมชาติแสนสบายตา และลงตัวที่ได้รับการดูแลอย่างดี อุดมสมบูรณ์จนเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่าน้อยใหญ่ และนกถึง 130 ชนิด ส่วนจุดถ่ายภาพที่เป็นแลนด์มาร์กเด็ดคือ ถนนเส้นยาวบนสันเขื่อน ให้เราถ่ายรูปนำสายตาลึกไปด้านหลัง เป็นภาพเท่ ๆ ที่ใครเห็นจะต้องอยากมาตามรอย
007 One Day Crazy Coffee Lab
สาย ๆ แดดเริ่มแยงตา เราก็หนีเข้าที่ร่ม คาเฟ่ฮอปปิงกันต่อ โดยเริ่มที่ One Day Crazy Coffee Lab ร้านน้องใหม่ ที่เปิดไม่ถึง 3 เดือน ด้วยความคิ้วท์ของทางเข้า ก็ทำให้เราเริ่มถ่ายรูปไม่หยุด ร้านเล็ก ๆ ใช้โทนสีเทา ดำ เขียว ฟ้าออกน้ำทะเล เน้นความดิบ ทั้งเปลือยอิฐและปูนเปลือย ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ ดูเท่ก็ได้ น่ารักก็ดี
เมื่อเปิดประตูเข้าไป เราจะเจอกับเคาน์เตอร์บาร์ เป็นทางเดินแคบ ๆ เข้าไปถึงข้างในจะเป็นโซนที่นั่ง แม้จะมีไม่กี่โต๊ะ แต่ก็ให้ความเป็นส่วนตัวได้ดี เรื่องมุมถ่ายภาพไม่ต้องเป็นห่วงเพราะกล้องหลักของน้อง Vivo V20 ตัวนี้เขามีเลนส์วายที่สามารถถ่ายมุมกว้างได้ถึง 120 องศา ทำให้เราถ่ายภาพในที่แคบได้แบบไม่ต้องถอยชิดติดกำแพง วายจนเก็บรายละเอียดได้ทั้งหมด เปลี่ยนร้านเล็ก ๆ ให้ดูกว้างขึ้นได้ถนัดตา
เครื่องดื่มที่เราสั่งคือ Dirty เมนูที่กำลังเป็นกระแส นมสดเย็น ๆ มีเอสเปรซโซ่ช็อตเป็นเลเยอร์อยู่ด้านบน ชูรสกาแฟขึ้นมาได้กลมกล่อม อโรม่าดีงาม เป็นแก้วที่เราแนะนำเลย เพราะทร้านนี้เค้าเด็ดที่เมนูนี้จริง ๆ จ้า
008 Evergreen never blue
ร้านสีเขียว ที่เขียวสมชื่อ Evergreen never blue จากการแต่งแต้มสีสันด้วยต้นไม้ตั้งแต่หน้าร้าน ดูร่มรื่น แต่งโทนสีขาว ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ใช้สีของไม้แท้ ๆ ไม่ทาทับ ไม่เคลือบซ้อน แม้จะอยู่ติดถนนสุขุมวิท แต่กลับเงียบสงบ เหมือนหลุดมาอยู่คาเฟ่แถบชนบทในญี่ปุ่นเลย มีขายทั้งเครื่องดื่ม ของว่าง ที่ทุกอย่างจะเป็นวัตถุดิบเพื่อสุขภาพ เน้นความเป็นออร์แกนิค และยังมีงานคราฟน่ารัก ๆ วางขายอีกด้วย
มุมถ่ายรูปที่ร้านก็มีเยอะมาก ทั้งหน้าร้าน ภายใน และสวนด้านนอก ตรงที่วางของขาย มีการจัดวางเหมือนอยู่ในแกลลอรี่ ตามร้านกาแฟบ้าน ๆ ที่นางาโนะเลย ตรงนี้ถ้าเราใส่เสื้อเอิร์ธโทนหนาว ๆ ใส่หมวกทรงแม่บ้านญี่ปุ่น ก็พอหลอกเพื่อนได้ว่าแอบหนีมาเที่ยวเจแปนนะ
เมนูซิกเนอเจอร์ที่เขาแนะนำให้สั่งคือ Evergreen Oasis เป็นน้ำผักและผลไม้ที่ปั่นรวมกัน มีสรรพคุณช่วยในการ Detox ตอนแรกคิดว่ารสชาติน่าจะแปลก ๆ แต่กลับลงตัว รสเปรี้ยว หวานอ่อน ๆ มีกลิ่นผักเล็กน้อยแต่รับรู้ได้ถึงความเฟรซ ส่วนโหมด Portrait ที่เราได้ลองใช้ถ่ายเครื่องดื่มและบุคคล ต้องบอกเลยว่าน้อง Vivo V20 เค้าทำได้ดีมาก รูปละลายหลังงาม เบลอเนียน ภาพดูมีมิติขึ้น โบเก้สวยอย่างที่เห็นนี่แหละจ้าพี่จ๋า
009 J Park
พักเบรคจากการกินสักแป๊บ แล้วมาเดินช้อปปิ้งที่คอมมูนิตี้มอลล์ ธีมญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น เอาใจนิปปอนเลิฟเวอร์กันหน่อยที่ J Park ที่เขาสร้างเลียนแบบหมู่บ้านญี่ปุ่นสมัยเอโดะ ทั้งบ้านเรือน ลำคลองใสสะอาด ต้นซากุระฟรุ้งฟริ้ง มีแม้กระทั่งวัดทองของเกียวโต โคมยักษ์แบบอาซากุสะ เสาแดง Inari ตู้คีบตุ๊กตา รวมถึงตู้หยอดเหรียญ มุมถ่ายรูปเยอะจนได้ถ่ายรูปกันแบบจุก ๆ ไปเลย
นอกจากมุมถ่ายรูปจะเยอะแล้ว ที่นี่ยังเต็มไปด้วยร้านอาหารญี่ปุ่น ทั้งกินแบบจริงจัง ซูชิสายพาน ราเมน ชาบู และของทานเล่น ฟีลสตรีทฟู้ดโซนคันไซ อย่างขนมปลาไทยากิ ทาโกะยะกิ เที่ยวที่เดียวเอาซะคลายความคิดถึงที่มีต่อญี่ปุ่นลงไปได้เยอะเลย
010 Sriracha Nakorn “Little Osaka”
เป็นอีกย่านที่คนชอบทานอาหารญี่ปุ่นจะต้องหลงรัก Sriracha Nakorn “Little Osaka” ตรงใกล้ ๆ กับโรบินสันศรีราชา เขาจัดให้คล้ายกับโอซาก้า เมืองที่เป็นเหมือนโรงอาหารของภูมิภาคคันไซ ซึ่งตรงนั้นมีอะไร ที่นี่ก็มีให้เลือกเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทาโกะยะกิ อิซะกะยะ ยะกินิคุ คุชิคัตสึ ฯล มีร้านคาราโอเกะยามค่ำคืน บาร์สไตล์ญี่ปุ่น ประดับตกแต่งด้วยป้ายไฟภาษาญี่ปุ่น โปสเตอร์เครื่องดื่ม โคมแดง มันให้ฟีลเหมือนอยู่นัมบะน้อย ๆ เลยเธอ
011 Sushi Sriracha
ร้านสุดท้ายขอจบสวย ๆ กับร้านซูชิที่จัดว่าเด็ดสุดในย่านนี้ Sushi Sriracha ร้านที่เราประทับใจตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้าไป เพราะเจอแต่ประชาชนคนญี่ปุ่นเกือบ 90% ของทั้งร้าน การตกแต่งก็คือร้านซูชิแถวชินจุกุเลยแม่ แนะนำว่ามาถึงที่ต้องนั่งสั่งตรงเคาน์เตอร์บาร์ ออเดอร์ทีละคำ นั่งดูเชฟทำอย่างละเมียดตั้งใจ ได้ยินเสียงคนญี่ปุ่นคุยกันแว่ว ๆ ตลอดมื้อ เหมือนนั่งอยู่ที่ญี่ปุ่นจริง ๆ
ไม่ใช่แค่ความสดของวัตถุดิบที่ทำให้เราติดใจ แต่เขาใช้ของที่หาได้จากในพื้นที่ นำมาจัดสรรเป็นเมนูแสนครีเอทีฟ อย่างเมนูที่เรายกให้เป็น must try ของร้าน คือ ซูชิกั้ง กั้งพร้อมไข่กั้งสด ๆ ที่โป๊ะอยู่ด้านบน หวานกรุบและมีความนัวของไข่ ไม่มีกลิ่นคาว เป็นคำที่เลิฟมาก อุไมสุด ๆ จนต้องแย่งกับเพื่อนกินจนคำสุดท้ายเลย
ภาพสุดปังทั้งหมดของทริปนี้ ขอยกความดีให้กับ Vivo V20 และถ้าหากเพื่อน ๆ กำลังมองหาโทรศัพท์ดี ๆ ถ่ายรูปสวยสักเครื่อง ก็สามารถไปจับจองเป็นเจ้าของน้องได้ที่ Vivo Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ในราคาเพียง 11,999 บาทเท่านั้น มีให้เลือก 2 สี คือ Midnight Jazz และ Sunset Melody ข้อมูลประกอบการตัดสินใจเพิ่มเติมดูได้ที่ >>> http://www.vivo.com/th/products/v20
เสาร์อาทิตย์นี้คงรู้แล้วสินะ!!! ว่าจะแพลนไปเที่ยวไหนกันดี.. ยิ่งใครที่กำลังคิดถึงญี่ปุ่น ยิ่งห้ามพลาด และสำหรับทริปสบาย ๆ อยากถ่ายรูปเก็บบรรยากาศ ขอแค่รูปเก๋ ๆ ไว้ลงโซเชียล เราแนะนำน้อง Vivo V20 ตัวนี้เลย ทั้งความบางและเบา พกพาสะดวก อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ ตอบโจทย์ทุกมุมมอง เรามั่นใจว่าต้องได้รูปเด็ดทุกโลเคชั่นแน่นอน