รีวิวนครปฐม :: “Nakhon Pathom” Feel like Japanese With vivo V20 Pro 5G

เชื่อว่าตอนนี้ … หลายคนคงกำลังคิดถึงญี่ปุ่นกันอยู่

วันนี้เราจึงขอเสนอ Mini Guide พาเที่ยว “นครปฐม” ยังไงให้ได้ฟีลเจแปน เอาใจสายฮอปปิ้ง ด้วย 5 คาเฟ่สุดน่ารักชวนใจละลาย ที่จะมาเปลี่ยนสาวเมืองกรุงฯ ให้เป็นโอเนซังน้อยตะมุตะมิ พร้อมรับบทฟาร์มเมอร์ เช็คอินในที่พักสไตล์ฟาร์มสเตย์แนวรักษ์โลกที่ทั้งดีต่อใจ ดีต่อสิ่งแวดล้อม งานนี้การันตีเลยว่าใครตามรอยเที่ยวทริปนี้จะต้องอุทานว่าคาวาอี้ในทุกโลเคชั่น สำหรับ 2 วัน 1 คืนนี้ แค่มีเดรสมินิมอลคุมโทนสไตล์สาวยุ่น กับท่าโพสต์คิ้วท์ ๆ ที่เตรียมมาจากบ้าน ก็ได้กดชัตเตอร์กันสนั่น โพสต์ลงโซเชี่ยลกันสนุก รับภาพปัง ๆ ไว้นั่งปลื้มกันยาว ๆ แน่นอน!!

ออกไปครีเอทคอนเท้นต์ปัง ๆ ทั้งที การมีสมาร์ทโฟนดี ๆ อย่าง Vivo V20 Pro 5G ถือว่าถูกต้องที่สุด เพราะน้องเค้ามากับฟังก์ชันที่เลอค่า สเปกที่จัดเต็ม มีกล้องหน้าที่ละเอียดสูงถึง 44 MP ส่วนกล้องหลัง 3 เลนส์ มีความละเอียดสูงสุดถึง 64 MP แถมยังมีฟีเจอร์ดี ๆ ที่ช่วยให้เราถ่ายภาพได้สวยขึ้น อย่าง AI Image Matting ที่สามารถแยกภาพเราเป็นเลเยอร์ออกจากฉากหลังได้อย่างแนบเนียน ไม่ว่าจะปรับแสง เปลี่ยนท้องฟ้า ก็ทำได้อย่างสุดปัง ส่วนอีกฟีเจอร์ที่เด็ดไม่แพ้กันขอยกให้ Super Night Mode ตัวช่วยที่จะทำให้ภาพถ่ายกลางคืน รวมถึงในที่แสงน้อยยังคงดูสวยสดงดงาม นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมีดีไซน์เก๋ มีความบางเฉียบ น้ำหนักเบา ถือจับได้ถนัดมือ หยิบมาถ่ายตอนกลางวันหรือกลางคืนก็มั่นใจว่าภาพสวย และใช่จ้าทุกคน … ทุกรูปในทริปนี้เราใช้ Vivo V20 Pro 5G สี Moonlight Sonata สีขาวบริสุทธิ์ราวกับแสงจันทร์ที่ตกกระทบบนท้องทะเล นำพาความสงบสู่ก้นบึ้งหัวใจของคุณ ถ่ายทั้งหมดเลย

001 : Simple Plan x River

ภายใต้โกดังเก่าสีขาวที่ภายนอกดูลึกลับ แต่พอก้าวเข้าไปในร้าน กลับกลายเป็นคาเฟ่ที่แสนเรียบง่ายแต่มีสไตล์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีนตรงกับชื่อร้านว่า Simple Plan x River โดยมีกิมมิคอยู่ที่ตัวร้านเป็นแบบ Open Air ไร้เครื่องปรับอากาศ แต่ไม่ร้อนอบอ้าว เพราะได้ความเย็นจากหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดโล่งรับลมได้อย่างเต็มที่ ทำให้อากาศภายในร้านปลอดโปร่ง บวกกับการตกแต่งสไตล์ลอฟท์ปผนังปูนเปลือยและเฟอร์นิเจอร์ไม้ทุกชิ้น ยิ่งทำให้ร้านดูมีเสน่ห์อบอุ่นมาก

เราเลือกนั่งโต๊ะเล็ก ๆ ริมหน้าต่างบานใหญ่ เพื่อจะได้มองเห็นวิวแบบเต็มตา ทั้งท้องฟ้าสดใส สายน้ำที่ไหลเรื่อย ๆ แสงแดดช่วงสายของวันที่สาดส่องเข้ามาในร้าน ทำให้มุมนี้สวยจนอดไม่ได้ที่จะหยิบ Vivo V20 Pro 5G ออกมาเซลฟี่ ซึ่งความดีงามที่เราชอบมาก ก็คือกล้องหน้าที่มีความละเอียดถึง 44 MP รูรับแสง f/2.0 มาพร้อม Eye Auto Focus ที่สามารถจับโฟกัสดวงตาเราแบบอัตโนมัติ แม่นยำ จะหันหน้ามุมไหนองศาไหนก็เป๊ะไปหมดจ้า

กินลมชมวิวสักพัก เมนูที่เราสั่งก็ทยอยมาเสิร์ฟ สำหรับเครื่องดื่มเค้ามีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกาแฟสด กาแฟฟิลเตอร์ หรืออย่าง Simple Plan Coffee ตัวซิกเนเจอร์ ที่ทางร้านเลือกใช้เมล็ดกาแฟคั่วกลางกำลังพอดี มิกซ์กับนมสด และน้ำมะพร้าว ที่นอกจากจะได้รสชาติเข้ม ๆ ของกาแฟแล้ว ยังได้ความละมุนกลมกล่อมของนมสด ตามด้วยความเฟรชสดชื่นจากน้ำมะพร้าวอีกด้วย ส่วนเมนูขนมก็ไม่น้อยหน้า เอาใจสาว ๆ ที่รักสุขภาพแบบสุด ๆ เพราะส่วนผสมนั้นปราศจากไขมันทรานส์ 100 เปอร์เซ็นต์เลย งานนี้ต่อให้กินหมดชิ้นก็ไม่รู้สึกผิด

002 : MOO YOO

ครัวซองต์เลิฟเวอร์ต้องร้องกรี๊ด! ให้กับร้าน MOO YOO คาเฟ่ฮอตฮิตแห่งใหม่ ที่เปิดตัวมาพร้อมกับดีไซน์ร้านไม่ซ้ำใคร เอาใจสายฮอปแบบสุด ๆ ที่สำคัญเมนูครัวซองต์ของเค้าคือทีเด็ดยืนหนึ่งมาก แถมการตกแต่งร้านก็ได้ใจเราไปเต็ม ๆ ไม่ว่าจะผนังสีขาวกับกระจกใสบานใหญ่รอบด้าน ที่ทำให้ร้านดูโล่งโปร่ง รับแสงจากธรรมชาติแบบเรียบง่าย และจัดวางเลเอ้าท์ของพื้นที่ให้เราได้สัมผัสบรรยากาศของทุ่งนาสีเขียวสบายตา มีมุมเก๋ ๆ อย่างหน้าต่างวงกลมสุดฮิตให้เราไปนั่งถ่ายรูปแกล้ง ๆ เหม่อมองวิวนาข้าวได้อีกด้วย ให้ฟีลญี่ปุ่นคาวาอิ้มาก

กลิ่นหอมของเบเกอรี่ที่ถูกอบมาใหม่ ๆ ทำให้เราอดใจไม่ไหวต้องรีบหยิบบถาดไปเลือกขนมในทันที สำหรับเมนูขนมของทางร้านล้วนได้รับแรงบันดาลใจมาจากรสชาติของเบเกอรี่เกาหลี ที่คัดสรรวัตถุดิบมาอย่างดี มีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเดนิชคาราเมลแมคคาเดเมีย ชิ้นใหญ่หอมหวานคาราเมล หรือจะเป็นคาเนเล่ ขนมฝรั่งเศสที่หาทานได้ยาก แต่ทีเด็ดที่ห้ามพลาดคือครัวซองต์ชิ้นโต ๆ การันตีเลยว่าดีงาม ทั้งตัวแป้งแต่ละชั้นและเนยที่หอมในทุกคำ ทานคู่กับ Yuzu Sparkling หรือ Moo Yoo Signature มัทฉะลาเต้ก็ดีงามไปหมด นอกจากนี้ยังมีมุม Tea Testing เอาใจคนรักชาต่าง ๆ ให้มาลิ้มลองรสชาติกันได้อีก ในส่วนของร้านนี้เราขอให้เต็มสิบไม่หัก

ณ จุดนี้ การถ่ายรูปหน้าร้านกว้าง ๆ เก็บวิวแบบจุก ๆ ตั้งแต่พื้นยันฟ้า จะบอกว่าแค่ Vivo V20 Pro 5G ก็เอาอยู่ เพราะน้องมีโหมด Super Wide-Angle ที่สามารถเก็บวิวได้กว้างถึง 120° ซึ่งสามารถเก็บภาพและบรรยากาศได้อย่างครบถ้วน แถมภาพที่ถ่ายออกมาก็มีความคมชัดและสวยงามอีกต่างหาก

003 :: Machill Home Farmstay

คอนนิจิวะยามบ่าย แดดเริ่มอ่อน ลมเย็นเริ่มพัดมา ถึงเวลาสวมบทเป็นแม่บ้านญี่ปุ่น เช็คอินเข้าที่พักสุดคาวาอี้ Machill Home Farmstay ที่พักแนวฟาร์มสเตย์ออแกนิคเล็ก ๆ เหมาะกับคนที่อยากไปใช้ชีวิตเรียบง่าย พักผ่อนสบาย ๆ ฟังเสียงธรรมชาติ กิมมิคของที่นี่คือเค้าจะสร้างทุกอย่างให้เป็นมิตรกับธรรมชาติแนวรักษ์โลก Eco-friendly ตัวบ้านพักก็สร้างจากดิน ที่พี่ ๆ เจ้าของลงมือลงแรงกันเองทุกหลัง แถมยังเป็นฟาร์มสเตย์แบบ Zero Waste Living ที่ใส่ใจถึงเรื่องขยะล้นโลก เลยมีการคัดแยกจัดขยะที่ Green Station อย่างถูกต้อง ซึ่งบอกเลยว่าทางเราชอบแนวคิดนี้มาก รู้สึกเลยว่ามาพักที่นี่ได้ช่วยลดปริมาณขยะได้อีกเยอะเลย

คอนเซ็ปต์ของที่นี่ว่าน่ารักแล้ว ภายในห้องพักแต่ละหลังก็น่ารักไม่แพ้กันนะ อย่างห้องที่เราพักชื่อว่า The Bird House ให้ฟีลเหมือนรังนกน้อย ๆ ที่แสนจะอบอุ่น มีหน้าต่างกลมบานใหญ่ให้เราไปนั่งเล่น นอนเล่นได้อย่างชิล ๆ ทั้งวัน เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างก็คุมโทนดูละมุนไปหมด มีของกินเล่นเป็นกล้วยฉาบ ส่วนน้ำดื่มนั้นทางที่พักจะเตรียมกระติกเก็บความเย็นไว้ให้คนละหนึ่งกระติก ซึ่งเราก็สามารถเติมน้ำดื่มได้ไม่อั้น แถมยังลดปริมาณการใช้แก้วพลาสติกและหลอดที่เป็นขยะฟุ่มเฟือยอีกด้วย

ยังไม่หมดเท่านี้ ของใช้ภายในห้องน้ำ และห้องอาบน้ำนั้น ก็รักษ์โลกไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นสำลีที่ทำจากฝ้าย 100% สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ หรืออย่างการใช้ผ้าแทนกระดาษทิชชู่ ยอมรับว่าเค้าใส่ใจในทุกรายละเอียดจริง ๆ

เพื่อให้สัมผัสความเป็นฟาร์มสเตย์มากยิ่งขึ้น พี่ ๆ เจ้าของจึงพาเราไปเก็บผักปลอดสารพิษจากแปลงที่ปลูกอยู่รอบ ๆ บ้านพัก มีทั้งวอเตอร์เครส, มะเขือเทศลูกลม, ผักสลัดต่าง ๆ รวมถึงพริก กระเพรา โหระพา เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีกิจกรรมเก็บไข่ไก่จากแม่ไก่อารมณ์ดีมาไว้ทำไข่ดาวมื้อเช้าของอีกวันด้วย บอกเลยว่าเป็นกิจกรรมที่สาวชาวกรุงฯ แบบเราไม่ค่อยได้ทำเท่าไหร่ แต่พอได้ลองก็เกิดอยากปลูกผักเลี้ยงไก่ไว้เก็บไข่ตามบ้างเลยทีเดียว

วัตถุดิบทั้งหมดที่เราเก็บมานั้น ก็จะกลายมาเป็นมื้อเย็นของเรานั่นเอง และอีกกิจกรรมที่น่าสนใจคือการทำพิซซ่าโฮมเมทอบจากเตาดิน โดยเราจะได้ลงมือทำในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การนวดแป้งไปจนถึงขั้นตอนการอบ อยากทำพิชซ่าหน้าอะไร ใส่เครื่องเยอะน้อยขนาดไหน เราก็สามารถทำได้ตามใจชอบเลย ทำเองกินเองรับรองว่าอร่อยฟินแน่นอนจ้า รับรองว่าเป็นมื้อดินเนอร์ที่มีความสุขที่สุดอีกมื้อเลยล่ะ

ยามเย็นพระอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า ถึงแม้ว่าแสงรอบตัวจะน้อยลง แต่ภาพของเราก็ยังสวยถูกใจได้ง่าย ๆ เพราะแค่ใช้ Super Night Mode ภาพที่ได้ก็ยังสว่างและคมชัด โดยไม่จำเป็นต้องพกแฟลชหรือขาตั้งกล้องเลย หรือถ้าใครถ่ายออกมาแล้วยังรู้สึกว่าฟ้าไม่สวยดั่งใจ อยากให้เป็นสีวานิลลาสกาย หรืออยากได้แสงอุ่น ๆ ที่ดูโรแมนติคขึ้น เราก็สามารถเปลี่ยนท้องฟ้าได้ง่ายด้วย AI Image Matting คราวนี้แหละไม่ว่าไปไหนก็ฟ้าสวยไม่มีนกแน่นอน

นอกจากภาพสวยคมชัดแล้ว ก็ยังมีอีกอย่างที่ทำให้ถ่ายสนุกขึ้นมาก คือเจ้า Super Night Mode ยังมีฟิลเตอร์สำหรับถ่ายภาพกลางคืนให้เลือกใช้ได้ถึง 4 แบบ 4 สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นโทนสี Black & Gold, Blue Ice, Green Orange หรือ Cyberpunk ทุกแบบล้วนทำให้ภาพดูมีเสน่ห์และน่าสนใจแปลกใหม่กว่าภาพทั่วไปได้มากเลยทีเดียว ต้องยอมรับเลยว่าโหมดกลางคืนของ Vivo V20 Pro 5G เค้าไม่ธรรมดานะเธอ

ส่วนถ้าใครอยากถ่ายดาวบนท้องฟ้า ก็แค่เพียงปรับไปที่โหมด Pro ตั้ง Shutter Speed สัก 5 วินาทีขึ้นไป ก็สามารถถ่ายดาวได้แล้ว ไอเดียนี้ก็ยังสามารถเอาไปถ่ายไฟเย็นแบบเก๋ ๆ หรือรถที่วิ่งบนถนนในยามกลางคืนได้อีกเช่นกัน บอกเลยว่างานนี้ย่ิงถ่ายยิ่งสนุกจ้า

DAY 2

เสียงไก่ขันทักทายยามเช้าวันใหม่ เราตื่นออกมาสูดอากาศดี ๆ ในฟาร์มสเตย์ และทานมื้อเช้าออร์แกนิค ชุด Breakfast ไข่ดาวจากไข่ของแม่ไก่อารมณ์ดีที่เก็บเมื่อวาน และไส้กรอกหมูโฮมเมทที่พี่ ๆ เจ้าของทำกันเอง ทานคู่กับสลัดผัก ตบท้ายด้วยมัจฉะลาเต้ บราวนี่ชาเขียว และเลม่อนชีสเค้กที่ทางพี่เจ้าของ ๆ ใจดีแบ่งมาให้เราได้ลองชิมกัน ซึ่งพี่ ๆ บอกเราว่าในอนาคตนี้จะแบ่งบางส่วนของบ้านให้เป็นคาเฟ่เล็ก ๆ สไตล์ญี่ปุ่น โดยขนมทุกอย่างพี่ ๆ จะอบเองจากในบ้านและใช้วัตถุดิบที่มีจากในฟาร์ม บอกเลยว่าดีงามไม่แพ้คาเฟ่ไหน ๆ แน่นอน

004 :: Lemon Me Cafe

ยามสายแดดยังไม่แรงมาก ขอพามาฮอปกันต่อที่ Lemon Me Cafe คาเฟ่เปิดใหม่สุดน่ารักในสวนเลม่อน บรรยากาศของที่นี่มีกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นแบบมินิมอล เรียบง่ายลงตัวไปหมด แถมแต่ละมุมภายในร้าน ตกแต่งได้น่ารักจนเราหยิบมือถือมารัวภาพได้ไม่ยั้ง ทั้งมุมกำแพงรูปวงกลมสีขาวที่ซ้อนเรียงกันจนกลายเป็นมุมถ่ายภาพสุดคูล หรือจะมุมหน้าร้านที่จัดเป็นสวนเลม่อนเล็ก ๆ แบบบ้านญี่ปุ่น งานนี้แค่แต่งตัวคิ้วท์ ๆ หยิบเดรสพลิ้ว ๆ ใส่ทับกับเอี๊ยมสักตัว รองเท้าผ้าใบสักคู่ ก็ดูดีทุกท่วงท่าแน่นอน

ถึงแม้วันนี้โชคจะไม่ช่วยเรื่องท้องฟ้า แต่ภาพเราก็สวยปังด้วย AI Image Matting ฟีเจอร์สุดเก๋ที่สามารถแยกตัวบุคคลออกจากฉากหลังได้อย่างแนบเนียน และแยกเลเยอร์ภาพถ่ายได้ภายในไม่กี่วินาที โดยจะมีป้ายบอกชื่อขึ้นที่หน้าจอ เช่น พื้นหลัง บุคคล ท้องฟ้า แล้วเราก็เลือกว่าอยากปรับแสงสีตรงไหน หรืออยากลบบุคคลออกจากภาพ เคลื่อนย้ายตำแหน่งวัตถุสิ่งของได้ตามที่ต้องการ ที่พีคสุดคือเปลี่ยนท้องฟ้าได้เลยจ้า ไม่ต้องมานั่งไดคัท ตัดต่อผ่านแอพไหน ๆ ให้เสียเวลา อย่างรูปนี้เราก็เปลี่ยนวันฟ้าหม่นให้สดใสภายในไม่กี่วินาทีเท่านั้นเอง

สำหรับเมนูเครื่องดื่มและเค้ก ทางร้านก็จะเน้นให้มีเลม่อนเป็นส่วนผสมหลัก อย่างตัว Signature ของทางร้าน ก็จะเป็น Lemon Me Matcha ที่มิกซ์ส่วนผสมลงตัวระหว่างมะนาวที่สดใหม่จากสวน กับมัทฉะชั้นดีจากเมือง Shizuoka เพิ่มความซ่าด้วยโซดา และท็อปด้วยไอศครีมวานิลลา เป็นอะไรที่เข้ากันได้แบบลงตัวสุด ๆ ไปเลย

005 :: Whispering cafe

กดหัวใจรัว ๆ ให้กับ Whispering cafe คาเฟ่ที่กดเซฟไว้ในอินสตาแกรมทุกครั้งเมื่อเห็นคนโพสต์ผ่านตา เพราะทางเราประทับใจในการตกแต่งออกแบบที่กลมกลืนกับธรรมชาติ ซ่อนตัวอยู่ภายในพื้นที่ Whispering Land ดินแดนเสียงกระซิบ ด้านนอกร้านเป็นบ้านสไตล์ฟาร์มเฮาส์ สีขาว ตัวผนังใช้การปาดสีให้เกิดเป็นเท็กซ์เจอร์แบบหยาบ ๆ ส่วนภายในร้านตกแต่งเป็นโทนสีขาว-น้ำตาล พื้นเป็นกระดานไม้สไตล์วินเทจ โต๊ะและเก้าอี้ก็เป็นสีไม้ธรรมชาติ มีเพดานสูงทำให้เรารู้สึกสบาย บวกกับการประดับด้วยต้นไม้สีเขียว ยิ่งดูสดชื่น

ประทับใจในทุกดีเทลของร้านขนาดนี้ ก็ต้องถ่ายรูปเก๋ ๆ ชิค ๆ อัพลงโซเชียลกันสักหน่อย โดยรอบนี้ขอเลือกไปที่ Portrait Mode ดูบ้าง อู้หูวอีกแล้วจ้าแม่ ดีงามเหมือนเดิม น้องสามารถละลายฉากหลังได้อย่างเป็นธรรมชาติ ให้เราดูโดดเด่นมากขึ้น แถมยังเลือกปรับ โบเก้เพิ่มได้ตามที่ต้องการ คราวนี้เวลาไปคาเฟ่หรือไปเที่ยวไหนก็ตามที่รู้สึกว่าถ่ายแล้วฉากหลังรกเกินไป รู้สึกคนไม่เด่นพอ ก็ใช้โหมดนี้ถ่ายได้เลยจ้า รับรองว่ารอดทุกสถานการณ์แน่นอนค่ะซิส

มาถึงมุมฮอตฮิตที่ชาว Instagramer ทั้งหลายต้องแวะเวียนกันเข้ามาถ่าย มุมพายเรือไม้ในบึงเล็ก ๆ หลังร้านพร้อมเกาะกลาง ซึ่งถ้าโชคดีก็จะมีน้องเป็ดว่ายแวะเวียนมาทักทายด้วย และเพื่อความเป๊ะปังของรูป ท้องฟ้าจะขาวแบบฝนกำลังจะตกไม่ได้ เราขอใช้ฟีเจอร์ AI Image Matting เปลี่ยนสีท้องฟ้าให้กลับมาสดใสเหมือนมีแดดจ้า ซึ่งฟีเจอร์นี้มันเนียนมาก เพราะไม่ใช่เปลี่ยนฟ้าเฉย ๆ เท่านั้น แต่มันยังปรับโทนสีโดยรวมทั้งหมดของภาพให้อิงตามแสงจากท้องฟ้าที่เราเลือกเปลี่ยนด้วย เลิศมาก!!

ถ่ายรูปจัดเต็มจนครบทุกมุมที่เล็งไว้ ก็ถึงเวลามานั่งชิล ๆ ดื่มด่ำกับรสชาติอาหาร ซึ่งนอกจากจะเป็นคาเฟ่ที่มีเค้กสารพัดอย่างให้เลือกสั่งแล้ว เค้าก็มีเมนูอาหารคาวที่ดีงามไม่แพ้กัน เราขอแนะนำออเดิร์ฟเบา ๆ เป็น Mushroom Soup ซุปเห็ดที่รสชาติกลมกล่อม มีเท็กซ์เจอร์เป็นเห็ดบดละเอียด เคล้าไปกับน้ำมันมะกอกทำให้อร่อยลงตัว ส่วนจานหลักอย่าง Cappellini with Homemade Ham, Fresh Tomatoes and Rosemary สปาเกตตี้ที่ใช้เส้นพาสต้าแบบพิเศษ ผัดด้วยน้ำมันมะกอก คลุกเคล้าด้วยความสดใหม่ของมะเขือเทศลูกเล็ก ใช้แฮมเห็ดหอม ๆ มาตัดรสชาติของเส้น พร้อมทั้งโรยด้วยโรสแมรี เพื่อให้มีกลิ่นหอมของสมุนไพร อร่อยมงลงไปเลยจ๊ะแม่

006 :: คาเปเดี๊ยม

ช่วงบ่ายแก่ ๆ ก่อนกลับเข้ากรุงฯ เราขอไปเติมคาเฟอีนกันต่อกับร้าน คาเปเดี๊ยม ที่มาในสไตล์โฮมมี่ ให้อารมณ์แบบบ้านชนบทของญี่ปุ่น ด้วยความที่ร้านตั้งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยศิลปกร เลยทำให้มีนักเรียน นักศึกษา แวะเวียนกันมานั่งจิบกาแฟทานขนมคึกคักกันตลอดทั้งวัน ตัวร้านตกแต่งแบบง่าย ๆ อบอุ่นเป็นกันเอง แฝงงานทำมือและศิลปะเอาไว้ มันจึงเป็นความเรียบแต่เก๋และมีเสน่ห์มาก ๆ ส่วนมุมไฮไลต์จะอยู่ตรงประตูทางเข้าร้านที่ถูกประดับไปด้วยต้นไม้ และไม้เลื้อย

จุดเด่นของเมนูในร้านจะเป็นเมนูกาแฟ โดยทางร้านจะคิดค้นสูตรและเมนูขึ้นมาเอง ใช้เมล็ดกาแฟคัดพิเศษจากหลากหลายโรงคั่วทั้งในไทยและต่างประเทศ ส่วนเบเกอรี่ก็ทำแบบโฮมเมดวันต่อวัน แต่ละวันจะมีเมนูขนมที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามวัตถุดิบ นอกจากนี้ทางร้านยังแอบกระซิบบอกเราว่า จะมีการปรับตกแต่งโซนและมุมใหม่ ๆ ในทุกเดือน ทำให้ใครที่แวะมาร้านนี้ จะมีมุมถ่ายรูปไม่ซ้ำกันแน่นอน

ส่วนมุมที่เราชอบมากที่สุดก็คือโต๊ะไม้ริมหน้าต่าง ที่นั่งปุ๊บเหมือนอยู่ญี่ปุ่นขึ้นมาในทันที แถมมีเจ้าเหมียวขี้เซามานอนข้าง ๆ ด้วย เป็นมุมที่มั่นใจเลยว่าถ้าลงรูปไปในโซเชียลต้องมีเพื่อนเข้าใจผิดคิดว่าแอบบินไปเจแปนมาชัวร์เลย

ทั้งหมดนี้ก็คือ Mini Guide ตอบโจทย์เที่ยวนครปฐมยังไงให้ได้ฟีลเจแปน กับ 5 คาเฟ่สุดคิ้วท์น่าเช็คอินสไตล์ญี่ปุ่น และอีกหนึ่งที่พักฟาร์มสเตย์ที่จะมาเปลี่ยนวันหยุดสุดสัปดาห์ให้สดชื่น คลายความคิดถึงญี่ปุ่นลงไปได้บ้าง และสำหรับใครที่อยากออกไปถ่ายภาพสวย ๆ กับสมาร์ทโฟนดี ๆ สเปกแรง แต่ราคาไม่แพง Vivo V20 Pro 5G ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากทีเดียว เพราะนอกจากจะ กล้องหน้า กล้องหลัง จะมีความละเอียดสูงแล้ว ยังมาพร้อมกับโหมดและฟีเจอร์ที่จะช่วยตกแต่งภาพที่เราถ่ายให้สวยแจ่มในทุกโลเคชั่น ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน ดีจริงรีบไปจับจองเป็นเจ้าของกันได้เลยกับราคาใหม่สุดน่ารักเพียง 12,999 บาท ที่ Vivo Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศจ้า