ขออนุญาตใช้พื้นที่นี้คิดถึงช่วงเวลาอันแสนสุขที่เราได้ใช้เวลาบนเกาะ ที่เต็มไปด้วยเจ้าเหมียวขี้อ้อน จอมซนแบบเต็ม ๆ วัน พิกัดสวรรค์ของเหล่าทาสแมวนี้อยู่ที่จังหวัดฟุกุโอกะ (Fukuoka) บนเกาะไอโนะ (Ainoshima) หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า Nekonoshima เกาะเล็ก ๆ ที่มีประชากรแมวกว่าร้อยตัว
จากใจกลางเมืองฟุกุโอกะ เราใช้รถไฟสาย JR ไปที่สถานี Fukko Daimae เป็นสถานีเล็ก ๆ ที่หน้าสถานีจะมีป้ายรถบัสไปยังท่าเรือ Shingu Port จากนั้นก็ตีตั๋วเรือที่ตู้อัตโนมัติไปที่เกาะไอโนะ (Ainoshima) ได้เลย การเดินทางรวม ๆ แล้วจะประมาณ 40 นาทีเท่านั้น โดยเรือที่พาเราไปเป็นเรือเฟอร์รี่ขนาดกลาง มีสองชั้น ชั้นล่างเป็น indoor และ ชั้นบนเป็น outdoor ให้เรารับลมเย็น แสงแดดสีสดใส พร้อมนั่งสูดกลิ่นทะเลแสนบริสุทธิ์ได้เต็มที่
ก่อนจะไปเดินดูแมว เรามาดูข้อมูลของเกาะกันก่อน.. เกาะไอโนะ (Ainoshima) อยู่ห่างจากชายฝั่งไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองฟุกุโอกะ (Fukuoka) เพียง 7 กม.เท่านั้น เป็นเกาะเล็ก ๆ ขนาด 1.25 ตารางกิโลเมตร มีเส้นถนนเที่ยวรอบเกาะ 6 กม. และประชากรที่อาศัยอยู่ที่นี่เพียง 300 คน แต่มีจำนวนแมวเยอะถึง 100 ตัวเลยทีเดียว ซึ่งอาชีพหลักของคนบนเกาะคือการประมง และการเลี้ยงแมวก็ช่วยแก้ปัญหาเรื่องก้างปลา กำจัดหนู แต่เมื่อทาสแมวอย่างเรามาพบเจอ จากเกาะธรรมดา ๆ ก็กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดูมีสีสัน และน่าหลงใหลขึ้นมาทันที
ตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินลงเกาะมา ฉันอยากจะร้องกรี๊ด.. เพราะน้องแมวเยอะมาก อยู่กันอย่างเป็นธรรมชาติ นอนกลิ้ง นัวเนียกันเป็นกลุ่มก้อน จนเราอยากจะคุกเข่าไปถ่ายรูปด้วย น่ารักขนาด CNN สำนักข่าวระดับโลก ได้จัดที่นี่ให้เป็น ” 1 ใน 5 สถานที่ชมแมวทั่วโลก” (ปี2013) เล่นซะคาเฟ่แมวชิดซ้ายไปเลยฮะ
น้องคุ้นชินกับท้องทะเล สายลม แสงแดดขนาดไหน น้องก็คุ้นชินกับมนุษย์อย่างเรา ๆ ขนานนั้นเช่นกันค่ะคุณ.. เพราะน้อง ๆ เขามีเจ้าของคือผู้คนบนเกาะนี้นั่นเอง คนบนเกาะเขาให้อาหารน้องทุกวันประหนึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงเลยล่ะ เวลามีนักท่องเที่ยวเหล่าแมวน้อยจึงไม่หนี ไม่ตื่นตกใจ แต่กลับเข้ามาออกอ้อนจนใจบางกันไปเป็นแถว
ลักษณะของแมวที่นี่ส่วนใหญ่ก็เป็นแมวสายพันธุ์ญี่ปุ่นขนสั้นสีพื้น ๆ อย่าง สีขาว สีส้ม สีดำ หรือลายปลาสลิด อย่างที่บอกว่าแมวที่นี่มีอาหารกินอยู่ตลอด น้อง ๆ จึงดูอ้วนท้วนสมบูรณ์ สุขภาพดีน่าฟัดน่ากอด และอีกอย่างที่เราประทับใจคือทุกจุดของเกาะดูสะอาด ปราศจากกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ไม่รู้ทำได้ยังไง.. เหมือนแมวที่นี่ถูกฝึกให้เข้าห้องน้ำเป็นที่เป็นทาง ทำให้เรากล้าลงไปนั่งเล่นกับน้อง ๆ ได้แบบไม่กลัวเปื้อนเลย
แต่บนเกาะนี้ใช่ว่าจะมีแค่แมวเหมียวให้เราเซย์ไฮอยู่เพียงอย่างเดียว เขามีกิจกรรมไฮไลท์ให้เราได้ทำด้วย นั่นคือการเช่าจักรยานปั่นชมทัศนียภาพรอบเกาะ ด้วยเส้นทางประมาณ 6 กม. ให้เราแวะเที่ยวแบบชิล ๆ ได้เกือบ 2 ชม.เลยล่ะ เพราะทางเราเผื่อเวลาไว้เล่นกับแมวเอาไว้ด้วย เราซอกแซกไปทุกซอกซอยของหมู่บ้าน ทำให้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเกาะแท้ ๆ ในญี่ปุ่น เจอทั้งโรงเรียน สุสาน คาเฟ่ริมทะเล จุดชมวิวบนเนินเขา บ้านเรือนชนบทที่เราเคยเห็นแค่ในอนิเมะ รู้สึกตัวอีกทีเราก็หลงรักบรรยากาศของที่นี่ไปเสียแล้ว
ส่วนใครที่อยากอยู่เที่ยวยันเย็น แต่กลัวเรื่องปากท้อง ไม่ต้องห่วงนะเพราะเขามีร้านอาหารไว้คอยบริการเราด้วย บรรยากาศร้านส่วนใหญ่เป็นบ้าน ๆ กันเอง ๆ มีทั้งอาหารทะเล ข้าวหน้าปลาดิบราคาน่ารัก อุด้ง ราเมน แฮมเบอร์เกอร์ น้ำแข็งใส ฯลฯ ซึ่งวัตถุดิบส่วนใหญ่มาจากทะเลที่ชาวบ้านหามาได้วันต่อวัน ทำให้รสชาติอาหารที่นี่อร่อยและสดใหม่อยู่เสมอ ถ้าใครอยากมาค้างคืนจากที่ดูรอบ ๆ เราเห็นว่ามันมีบ้านบางหลัง เปิดเป็นห้องเช่าเล็ก ๆ ให้ค้างแรมได้ แต่ไม่ค่อยมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากเท่าไหร่ ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องห้องพักมากก็ลองมาเปลี่ยนบรรยากาศแบบบ้าน ๆ ดูบ้างก็ได้นะ
สำหรับขากลับเราก็นั่งเรือ ต่อรถบัส กลับรถไฟเหมือนกับขามา ซึ่งรอบเรือจะมีทุก ๆ 2-3 ชม.ตลอดวัน เริ่มตั้งแต่ 7:50 น. และหมดตอน 17:50 – 18:10 น. แต่ให้ชัวร์ขอให้เช็กตารางการเดินเรือทุกครั้งก่อนออกเดินทาง เผื่อมีเหตุสุดวิสัยใด ๆ จะได้เตรียมตัวกันถูกเนอะ
แม้จะได้เที่ยวเกาะสวาท หาดสวรรค์ของทาสแมวเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่ที่นี่ก็ยังคงสวยงามในความทรงจำของเราเสมอ น้องแมวที่นั่งรอเหล่านักท่องเที่ยวตรงท่าเรือทุกวัน เฝ้ามองผู้คนในทุกการกลับมาของเรือเทียบท่า เห็นภาพนี้แล้วคิดถึงใจจะขาด บอกเลยว่ากลับไปฟุกุโอกะเมื่อไหร่ ฉันจะดิ่งไป Ahinoshima แล้วมอบ Big hug แก่เหล่าแมวน้อยแน่น ๆ เลย >,<
