รีวิวเชียงใหม่ :: Rainy Season in Chiang Mai __ 2023 Guide

ถ้าเพื่อน ๆ ตื่นมาแล้วคิดถึงความเขียวสดชื่นของต้นไม้ใบหญ้าที่ฉ่ำด้วยเม็ดฝน ก้มมองจอแล้วคิดถึงการเดินทาง มองแก้วกาแฟแล้วคิดถึงคาเฟ่สุดเก๋ บอกได้เลยว่า … ยินดีด้วยครับ เพราะ 3 วัน 2 คืน ต่อจากนี้ เราจะพาทุกคนบินลัดฟ้าสู่ 𝐂𝐡𝐢𝐚𝐧𝐠 𝐌𝐚𝐢 กับแพลนเที่ยวชิคเก๋ คาเฟ่ฮอปปิ้งแบบจัดเต็ม เอาใจทั้งสายชิคเก๋เน้นซิตี้ สายกรีนอยากคลีนปอด และสายอาร์ตที่ต้องการเทคไทม์แบบฉ่ำ ๆ โดยไม่ลืมที่จะแทรกธรรมชาติสีเขียวใจกลางเมือง เวิร์กช็อปสุดคูล ไร่ชาสวย ๆ ลงไปในแพลนแต่ละวันให้ชิลสุด ๆ เข้าไปอีก ทริปนี้การรันตีเลยว่าทั้ง 12 โลเคชั่น ที่บรรจงคัดสรรมา ทุกอย่างจะเก๋ จะปัง จะสับ จะจึ้งกว่าที่ผ่านมา ด้วย 𝐏𝐫𝐨𝐦𝐩𝐭 𝐏𝐨𝐬𝐭 แอปที่จะทำให้การเดินทางไม่ซ้ำและจำเจอีกต่อไป แค่ #คิดถึงก็คลิกถึง กันได้ง่ายๆ

มาดูกันว่าเชียงใหม่หน้าฝนฉบับ 2023 มันน่าเที่ยวตามขนาดไหน เริ่มเลย!!!!!!

โดยปกติเวลาออกเดินทางท่องเที่ยวแล้วได้เจออะไรที่น่าจดจำ เรามักจะแชร์สิ่งเหล่านั้นให้คนสำคัญด้วยข้อความน่ารัก ๆ ผ่านโปสการ์ดที่เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงว่าเรามาถึงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นวิวสวย ๆ คาเฟ่เก๋ ๆ หรือแม้กระทั่งพวกงานอาร์ตงาม ๆ  … แน่นอนว่าก่อนเริ่มทริปต้อนรับฤดูฝนที่เชียงใหม่ครั้งนี้ ทางเราขอแนะนำ Prompt Post แอปพลิเคชันเก๋ ๆ ที่จะทำให้การเดินทางครั้งหน้าของเพื่อน ๆ มีเรื่องราวสนุกๆ มากขึ้น ทำโปสการ์ดพิเศษที่มีแบบเดียวในโลก อัพไอจีหรือส่งให้เพื่อน ๆ เราได้ทั้งทางออนไลน์แล้ว หรือใครที่ยังชอบแบบคลาสสิก ๆ ก็เลือกส่งไปรษณีย์ก็ได้ ง่ายมาก

เอาดีๆ … ​ Prompt Post เป็นแอปที่ใช้งานง่ายมากนะ แบบคนใช้งานครั้งแรกอึ้ง กรรมการอึ้ง ฉันก็อึ้ง 555 .. หลังจากใช้เวลาไม่กี่นาทีลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อย เราก็สามารถกด ‘สร้างโปสการ์ดใหม่’ แล้วออกแบบตามสไตล์ของตัวเองได้เลย ทั้งเลือกกรอบ ภาพเกร๋ๆ ของเรา ตกแต่งด้วยสติกเกอร์หรือข้อความ และสุดท้ายเขียนความในใจลงไปเป็นอันคอมพลีท ส่วนขั้นตอนการส่งนั้น ก็เลือกได้ทั้งแบบแชร์ผ่านอีเมล หรือฝากพี่ไปรฯ พิมพ์ให้แล้วส่งให้ถึงมือผู้รับได้เลย ต้องบอกว่าเป็นการส่งโปสการ์ดแบบใหม่แบบสับแบบปังของจริง สายเที่ยวไม่มีติดเครื่องไม่ได้แล้วนะ อันนี้พูดจริง!

Day 1 :: CHIC DAY IN CITY

01 Me&Bacon

เปิดพิกัดแรกที่ Me&Bacon ร้านขายอาหารเช้าที่จัดเสิร์ฟยันบ่าย ที่บอกเลยว่าสายเบคอนจะต้องจดลิสต์ ร้านนี้ตั้งอยู่ย่านสันป่าข่อย ใช้โครงตึกเก่ามารีโนเวทเป็นชั้นโล่ง ๆ นั่งสบาย กั้นผนังด้วยไม้อัดสีน้ำตาลนวล ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ฟอร์มต่าง ๆ ตัดกับผ้าม่าน-เบาะที่บุผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงิน แซมกับโคมไฟสีส้ม จัดวางอาร์ตเวิร์ก-ดอกไม้สีเหลือง กลายเป็นภาพรวมสุดคิวท์ที่มองไปมุมไหนก็ครีเอตรูปงาม ๆ ได้ไม่หยุด

มื้อแรกทางเราเลยขอจัดคาร์บหนัก ๆ กับซิกเนเจอร์ ‘Big Bacon & Silky Eggs’ ขนมปังไข่ข้นที่วางทับด้วยเบคอน มีมันแทรกอยู่กับชิ้นเนื้อหนาเต็มปากเต็มคำ กลิ่นย่างหอมคละกับไข่ข้นนัว ๆ กินพร้อมขนมปังที่ช่วยเบลนด์ทุกอย่างให้เข้ากันพอดี และ ‘Italian Carbonara’ เส้นสปาเกตตีเหนียวนุ่ม ผัดจนซอสคาโบนาราเคลือบเส้น สร้างความกลมกล่อมทุกอณู กินตัดกับเบคอนหนึบหนับ และอิตาเลียนพาร์เมซานส่งกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ บอกเลยพอได้อาหารอร่อย ๆ ในร้านที่มีแดดยามเช้าสาดแสงมางาม ๆ คลอเคล้ากับเพลงเพราะ ๆ มันก็กลายเป็นบรรยากาศมื้อเช้าสุดจึ้งที่ทุกคนควรมาโดนจริง ๆ

02 Apt04.CNX

พิกัดต่อมาบอกได้คำเดียวว่าเก๋ กับคาเฟ่วิวเมืองเก่า ที่ตั้งบนชั้น 4 ของอาคารพานิชย์ละแวกช้างม่อย Apt04.CNX กับการออกแบบที่น่าจะถูกใจคนชอบสไตล์  Industrial loft เน้นความเปลือยตั้งแต่เพดาน การเดินสายไฟ ปูพื้นด้วนพรมสีน้ำเงินเข้มเข้ากับเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่มีโครงเป็นโลหะ เกิดเป็นโทนคูล ๆ นุ่มลึกบาดใจ ผนังด้านหนึ่งติดตั้งกระจกบานใหญ่ให้ร้านดูมีมิติ พร้อมมาสคอตประจำร้าน น้องไข่ใบโตตั้งอยู่ในรังขนาดยักษ์ รอเราเข้าไปเซลฟี่ด้วย

การครีเอตหน้าตาแต่ละเมนูนั้นบ่งบอกถึงความเทสต์ดีขั้นสุด ชูโรงมาด้วย ‘egg e egg egggg’ พุดดิ้งไข่เนื้อเนียนละไม กลิ่นนมเน้น ๆ กลิ่นไข่อ่อน ๆ รสชาติหวานนิด ๆ ไม่แหลมคอ รับรู้ถึงคุณภาพของวัตถุดิบที่ใช้ อีกชิ้นคือ ‘mountain salt crumble’ ที่ช็อกโกเลิฟเวอร์จะต้องกรี๊ดตาแตก กับเนื้อเค้กดาร์กช็อกเข้มข้นหวานน้อย กานาชที่ราดอยู่ด้านบนมีความครีมมี่หอมหวาน และปลายรสมีความเค็มกลมกล่อม เติมเท็กซ์เจอร์กรอบ ๆ ด้วยครัมเบิลเป็นอันเสร็จพิธี และแก้วสวย ๆ ที่เห็นนี้คือ ‘apt04’ ซิกเนเจอร์ที่ต้องลอง เป็นกาแฟม็อกเทลเน้นความสดชื่นจากชากาแฟและน้ำผลไม้   

03 Millilit Cafe

ยังคงมูฟออนจากคาเฟ่ไม่ได้จริง ๆ เพราะเพียงก้าวขาไม่กี่ก้าวเราก็จะได้เช็กอินกันที่ Millilit Cafe คาเฟ่สีส้มแสนอินเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นอาร์ตเวิร์กเอย การตกแต่งเอย มันมีความเรโทรสุด ๆ แม้ร้านจะมีพื้นที่แค่ 2 คูหา แต่บอกเลยว่ามุมถ่ายรูปเยอะมาก ตั้งแต่หน้าร้านวางเก้าอี้เขียวส้ม พร้อมกราฟฟิกลายกระต่าย ครีเอตมุมถ่ายรูปได้เป็นสิบ เดินเข้าไปหาเฟรมถ่ายได้อีกร้อย แถมยังมี Photobooth ไว้คอยบริการ แนะนำว่าแต่งหน้าฉ่ำ ๆ มาสร้างคอนเทนต์กันได้เลย

ว่าด้วยเรื่องเมนูหน้าตาคูลคิดส์ จัดวางซะน่ารักจนไม่กล้ากิน ไม่ว่าจะเป็น ‘Tiramisu’ เค้กกาแฟชุ่ม ๆ ที่ท็อปมากับครีมหวานละมุนโรยผงโกโก้นุ่มละไม ตักกินพร้อมกันแล้วความหวานซ่านอยู่ในปาก พอหยิบ ‘Latte Vanilla Oatmilk’ มาจิบก็พบเจอกับความเข้ากั๊นเข้ากัน ทั้งรสหวาน ขม และกลิ่นหอมยวนใจ อีกเมนูคือ ‘Cookies’ ชิ้นโตสไตล์โฮมเมด ที่มีน้องหมีนอนทักทายอยู่ตรงกลาง กัดไปแล้วเจอวานิลลาชุ่มเนย เพลินสุด ๆ   

04 อ่างแก้ว มช

อิ่มเอมกับสามคาเฟ่สามสไตล์แบบชิลขั้นสุดไปแล้ว เราขอมาตัดจบวันแรกให้เต็มฟิลลิ่งด้วยการนั่งผึ่งลมรับอากาศบริสุทธิ์ใจกลางเมืองเชียงใหม่ที่ อ่างแก้ว ในรั้วมช. ที่ได้มากี่ครั้งก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเบื่อ ถึงแม้อากาศร้อนขนาดไหนก็เย็นได้ เพราะได้รับความสดชื่นชื้นปอดจากอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ มองไปอีกฝั่งเจอความเขียวสบายตา เห็นภูเขาปกคลุมไปด้วยป่า มีนกสีขาว นกเป็ดน้ำบินกระจัดกระจายอย่างอิสระ บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ สำหรับใครที่มาเป็นครั้งแรก เราแนะนำให้แต่งตัวมาให้ชิคและชิลที่สุด ชาร์จแบตกล้องมาให้เต็ม เพราะมีมุมไฮไลต์อยู่เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นผืนหญ้าลาดลงสู่สวนสาธารณะ ให้ไปนั่งชิลฟีลวัยรุ่นเจียงใหม่ หรือจะยกกล้องมุมเสยไปที่ริมอ่างเก็บน้ำได้ภาพแบบมินิมอล เดินมาโพสท่าใต้ต้นไม้ยักษ์ที่แผ่กิ่งก้านอลังการ

เที่ยววันแรกจนฉ่ำใจ …. เลยอยากบอกทุกคนว่าคนที่ชอบแชร์เรื่องราวผ่านโปสการ์ดแบบเราแฮปปี้สุด ๆ เมื่อมี Prompt Post ติดเครื่องอ่ะ เพราะบางที่เที่ยว บางคาเฟ่ที่เราชอบมาก ๆ มันไม่ได้อยู่ในโปสการ์ดให้เราเลือกซื้อเสมอไป แต่พอมีแอปนี้เท่านั้นล่ะ.. เราจะอยู่ริมอ่างแก้ว หรือจะเขา จะทะเล คาเฟ่ชิคๆ ฉบับสายฮอปแบบเรา รูปเยอะนักใช่มะ ก็เอามาทำเป็นโปสการ์ดเก็บไว้เอง หรืออวดเพื่อน ส่งให้แฟน ก็ทำได้ คือมันมีแบบเดียวในโลกอ่ะ ทำง่าย ได้หลายแบบไม่ซำกันด้วย เก๋สุด!

อีกอย่างที่ชอบคือบรรยากาศของคนเมืองที่ต่างคนก็ต่างมาทำกิจกรรม มีการพบปะพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ที่ออกมาวิ่ง หนุ่มสาวที่พาน้องหมามาเดินเล่นพร้อมเจอเพื่อนใหม่ ๆ ครอบครัวมานั่งปิกนิกกับลูกน้อย พักสายตาด้วยการเงยหน้ามองท้องฟ้าที่กำลังเปลี่ยนสี มันเต็มไปด้วยพลังบวก ที่เราอยากจะดื่มด่ำอยู่นาน ๆ ถือเป็นโลเคชั่นจบวันที่มอบความฟินได้อยู่เสมอจริง ๆ

Day 2 ::  GREEN DAY AROUND CHIANG MAI

05 Early Owls・เออร์ลี่ อาวส์

วันนี้ขอคุมคอนเซปต์ ตั้งให้เป็นกรีนเดย์กรีนใจ เพราะทุกพิกัดที่คัดมา ล้วนวิ่งเข้าหาความเขียวของต้นไม้ ใบหญ้า และดอกไม้ ผลพวงจากสายฝนอันชุ่มช่ำต้อนรับฤดูกาลอย่างสมมง ว่าแล้วก็ขอปักหมุดจุดแรกไปที่ Early Owls・เออร์ลี่ อาวส์ คาเฟ่บ้านไม้ในสวนใจกลางเมือง พื้นที่กว้างขวาง ถ้ามาช่วงเช้า ๆ จะเจอน้องเป็ดมาเดินทักทาย คนที่ชอบคาเฟ่ฟีลโฮมมี่ ถ้าได้มาเช็กอินก็อาจจะลืมร้านโปรดร้านอื่น ๆ ไปได้เลย

เดินเข้าใกล้ตัวบ้านเรื่อย ๆ เราจะเริ่มเห็นความสะอาดสะอ้าน เป็นบ้านไม้เนื้อสวยที่เราใฝ่ฝัน เปิดประตูเข้าไปจะเจอกับเคาน์เตอร์กาแฟส่งกลิ่นหอมกรุ่นสดชื่น ด้านข้างเขาได้ต่อเติมโซนที่นั่ง ใช้กระจกเป็นผนัง ทำให้แสงธรรมชาติสามารถลอดเข้ามาสร้างเฉดแสงเงาที่สวยงาม มองกี่ทีก็รู้สึกนุ่มนวล ความหลากหลายของเมนูนั้นเรียกว่านั่งตั้งแต่เช้า สั่งไล่เมนูทั้งวันก็ยังกินไม่หมด มีทั้งขนม เครื่องดื่ม และอาหารแบบ all day brunch สปาเกตตี โยเกิร์ตโบล์ว ฯลฯ 

เราลองสั่ง ‘black forest float’ อเมริกาโนคั่วกลาง เบลนด์เมล็ดระหว่างภูทับเบิกและแม่สะเรียง ความขมนุ่มเข้าคู่กับไอศกรีมฟอเรสต์เบอร์รี่ที่ถูกวางอยู่ด้านบน จะจิบกาแฟแล้วค่อยตักไอศกรีมหรือรอมันละลายให้เนื้อผสมกันก็ได้รสชาติที่สดชื่นทั้งนั้น ส่วนขอเค้กเลือกเป็น ‘macadamia & cashew nut pie’ ซิกเนเจอร์ที่พี่พนักงานแนะนำ แป้งพายไส้หนุบหนับท็อปด้วยแมคคาเดเมียกรุบกรอบให้มาแน่น ๆ เสริมความหวานด้วยคาราเมลซอสที่โชยตีขึ้นจมูกทุกครั้งที่เคี้ยว เป็นแคลอรีที่เหมาะสมแก่การเอาเข้าร่างจริง ๆ 

06 FAR AWAY

ขับรถกินลมชมวิวออกนอกเมืองกันสักนิด เพื่อไปเก็บเช็คลิสต์อีกคาเฟ่ฟีลบ้านสวนนามว่า FAR AWAY ร้านที่มีความคราฟต์กับโครงร้านที่สร้างด้วยไม้เก่า ติดกระจกคละแบบ คละไซส์และขนาดเกิดเป็นมุมถ่ายรูปเช็กอินประจำร้าน เดินเข้าไปจะเห็นว่าทุกอย่างเปิดโล่งให้มีลมพัดผ่านได้อย่างทั่วถึง แม้จะมาช่วงเที่ยง แต่อากาศกลับเย็นสบาย เพราะได้พึ่งพิงเงาไม้จากต้นไม้ใหญ่ ถ้าให้นิยามก็เหมือนตะโกนคาแลกเตอร์ของวัยรุ่นเชียงใหม่สายชิล สายแคมป์ได้อย่างดี

นอกจากจะเป็นร้านที่เน้นความชิลเป็นแกนหลักแล้ว เรื่องกาแฟก็ไม่เป็นรองใครเช่นกัน โดยเมล็ดจะมีทั้งคั่วเข้ม และกลางจากดอยช้าง และคั่วอ่อนจากแม่แจ๋ม บางช่วงจะมีเมล็ดพิเศษ ๆ มานำเสนอด้วย เช่นช่วงที่เรามาจะมี Light Roast เป็นการเบลนด์ระหว่างเมล็ดจากผาฮี้, เทพเสด็จ และลาว เรียกว่าคอกาแฟมาแล้วไม่ผิดหวัง หรืออยากได้เครื่องดื่มที่เน้นความหวานสดชื่น เขายังมีเมนูชา โกโก้ และอิตาเลียนโซดาหลากรส ส่วนขนมมีเพียงปังปิ้งเลือกหน้าได้ เราเลือกเป็นโรยนมน้ำตาล ซึ่งก็สามารถกินคู่กับกาแฟแล้วลงตัวใช้ได้เลย

07 Araksa Tea Garden

พิกัดต่อมาคือไร่ชายืนหนึ่งในเชียงใหม่ที่ให้เราได้สัมผัสโลกของชาตั้งแต่เริ่มต้นยันจบกระบวนการ เป็นการเข้าไร่ชมสวนแบบลูกคุณ ไม่ต้องเดินป่าให้เหนื่อย ขึ้นเขาให้วุ่นวาย แถมยังให้ vibe แสนดีฟีลเอิร์ธโทน Araksa ชื่อจากภาษาสันสกฤต แปลว่า ‘รักษาให้คงอยู่’ เป็นที่ที่ปลูกไร่ชามายาวนานกว่า 50 ปี เสิร์ฟชาอัสสัมชั้นยอดแก่ผู้คนมากมาย โดยเราสามารถมาทัวร์ไร่ชาของเขาได้ ใช้เวลาไม่เกิน 2 ชม. บอกเคล็ดลับการเก็บชา ขั้นตอนการทำจนได้ใบชาที่สมบูรณ์แบบที่สุด เป็นคอร์สที่เต็มอิ่มทั้งเรื่องชา และเต็มอิ่มกับการถ่ายรูปไปด้วยในตัว

หลังจากที่สนุกสนานกับการทำ ก็ได้เวลามาดื่มด่ำกับชากลิ่นหอมที่โหยหา เหมือนเป็นจิตวิทยาที่เวลาได้เห็นทุกขั้นตอนแบบนี้ ทำให้เรารู้สึกหลงใหลเรื่องของชามากขึ้นหลายเท่าตัว โดยเมนูที่เขาจัดให้จะเป็น Preserve Green Tea ทั้งแบบร้อนและแบบเย็น จิบคู่กับข้าวแต๋นออร์แกนิกจัดเสิร์ฟแสนคราฟต์จนใจฟู แต่ถ้าใครอยากมาลองชิมเมนูอาหารของที่นี่ เราว่าก็เลอค่าไม่แพ้กัน เน้นเป็นอาหารเหนือเพื่อสุขภาพ ใช้ผักปลอดสาร และยังครีเอตสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นยำใบชา ใช้ใบชาทอดกรอบรสจัดจ้าน กินคู่กับข้าวยำสมุนไพรครบเครื่อง ก่อนจะสั่งแกงฮังเลและไก่ย่างตะไคร้มากินคู่กัน กลายเป็นมื้อที่อิ่มหนำอย่างมีคุณภาพ

08 ไร่แม่เหียะ

ออกจากไร่ชาวกกลับมาเอ็นจอยโมเมนต์ช่วงเย็นในเมืองกันต่อที่ ไร่แม่เหียะ หรือศูนย์วิจัย สาธิตและฝึกอบรบการเกษตรแม่เหียะ แห่งมช. อีกหนึ่งอ่างเก็บน้ำที่มีความชิลขั้นสุด เหมาะกับการมาเดินเล่นยืดเส้นสายช่วงบ่ายแก่ ๆ ไปถึงเย็น ใครอยากได้ภาพมุมนี้ สามารถมานั่งรอแสงเย็นกันที่ Fernpresso Cafe at Lake คาเฟ่เปิดโล่งสบาย ๆ มีเมนูอาหาร-เครื่องดื่มไว้รอบริการครบครัน

บริเวณข้าง ๆ จะมีแปลงเกษตรปลูกผักสวนครัว รวมถึงมีสวนดอกไม้สีสดใสสลับกันไปตามฤดู พร้อมฉากหลังที่เป็นทิวเขาลูกใหญ่ทับซ้อนไกลสุดลูกหูลูกตา หนึ่งในนั้นคือดอยสุเทพ แถมไม่มีเสาไฟฟ้าหรือสิ่งปลูกสร้างที่รกตา  เว้นแต่บ้านและอาคารสีขาวทรงน่ารัก พร้อมสะพานไม้ยื่นออกไปกลางน้ำ เติมเต็มให้ภาพถ่ายนี้ดูสมบูรณ์ เหมือนได้มาพักตากอากาศในเมืองนอกสุด ๆ

Day 3 ::  Nature, Art and Workshop

 09 Taryn Tara Cafe and Stay

เริ่มต้นวันสุดท้ายของทริปด้วยการขับรถออกจากเมืองประมาณชั่วโมงนิด ๆ เพื่อมาสัมผัสกับอากาศเย็นฉ่ำริมสายธารในโซนแม่กำปอง กับพิกัดใหม่ล่าสุดที่เราตั้งใจมาเช็กอิน Taryn Tara Cafe and Stay ที่พักและคาเฟ่โคซี่สีขาว แทรกตัวอยู่ในแมกไม้เขียวชอุ่ม ที่แม้จะนั่งริมระเบียงยามสาย แดดก็ไม่เลียผิว เพราะความร่มเย็นปกคลุมแทบทุกอณู ที่ชอบมาก ๆ คือเสียงน้ำตกที่คลออยู่ตลอดเวลา มีเสียงนกเสียงค่างโผล่มาเป็นระยะ เป็นการฟังเพลย์ลิสต์จากธรรมชาติที่เพลิดเพลินไม่มีวันสิ้นสุด ส่วนด้านในร้านก็มินิมอลสุด ๆ ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อน ติดตั้งกระจกให้แสงลอดผ่านพร้อมตัวหนังสือเก๋ ๆ มองมุมไหนก็ถ่ายรูปเป็นสาวโคเรียหนุ่มนิปปอนได้สบาย ๆ

เมนูน่ารักน่าหยิกที่เห็นนี้คือ ‘บลูเบอร์รี่ชีสเค้ก’ ที่มีความบลูเบอร์รี่แบบตะโกนตั้งแต่กลิ่น สี และรสชาติที่ออกเปรี้ยวหวานอ่อน ๆ กำลังดี นอกจากนี้ยังมีชีสเค้กหน้าไหม้ สตรอว์เบอร์รี่ชีสเค้ก และพานาคอตต้าให้เลือกสั่ง โดยเค้กของเขาเป็นแบบโฮมเมดทำเอง สั่งมากินคู่กับ ‘T&T Cream Latte’ ใช้กาแฟคั่วกลาง ที่เบลนด์จากเมล็ดของลาวและบราซิล มีความหอมเจือนัตตี้ผสมกับนมเนื้อครีมเข้มข้น เป็นคาเฟ่ที่ถ่ายรูปสวยแล้วกาแฟขนมอร่อยไม่ผิดหวังจริง ๆ 

10 Chamai Art workshop cafe

เจอร้านนี้ไป คอกาแฟสายอาร์ตจะต้องใจเต้นกับร้าน ชะม้าย ที่เราชม้อยช้อนตาไปตรงไหนก็จะเจอแต่มุมที่ใช่สไตล์ที่ชอบ คาเฟ่กึ่งสตูดิโอที่ออกแบบได้ถูกต้องทุกตรง ตั้งแต่การฉาบผนังเป็นสีเขียวมอส คัดโต๊ะเก้าอี้คละสไตล์มาจัดวางเป็นองค์ประกอบสุดโมเดิร์น มีตู้ไม้ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ศิลปะเรียกสายตาให้เราจ้องมองได้ไม่หยุดหย่อน ไหนจะงานอาร์ตที่ติดตามผนัง ต้นไม้ที่ห้อยระย้าลงมาจากเพดานทรงสูง แสงธรรมชาติลอดเข้ามาจากกระจกทุกบาน รวมแล้วกลายเป็นคาเฟ่ที่มอบความรู้สึกเป็นมิตร และอุ่นใจทุกชั่วขณะที่อยู่

นอกจากจะมาเพื่อกาแฟแล้ว อีกเป้าหมายหลักของเรา คืออยากมาใช้เวลาอยู่กับตัวเองเงียบ ๆ สร้างผลงานศิลปะสักชิ้น เพราะที่นี่เขามีเวิร์กช็อปให้เราได้ร่วมกิจกรรม 2 แบบด้วยกันคือ Water color (สีน้ำ) และ Monoprint (ภาพพิมพ์สีน้ำ) ลองคิดดูสิว่า..การได้อยู่ในห้องโล่งโปร่ง ตกแต่งอย่างดี สว่างไปด้วยแสงธรรมชาติ พร้อมแอร์เย็นฉ่ำ มีกาแฟ 1 แก้วอยู่ข้างกาย มีเวลาถมเถให้ละเลงเรื่องราวในใจ มันจะเป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลายขนาดไหน? ถ้ายังนึกภาพตามไม่ออก แนะนำให้มาตามรอยกันสักรอบ และจะอยากมาซ้ำอีกแน่นอน 

11 Playworks.cafeart

Playworks.cafeart คาเฟ่ชิคเก๋ตรงแยกห้างเมย่าที่เราแอบมาซ้ำอยู่บ่อย ๆ เพราะชอบตั้งแต่การออกแบบหน้าร้าน ให้อารมณ์มินิมอลนิปปอนสุด ๆ ด้านหนึ่งเป็นร้านขายน้ำแบบ take away วางคอมโพซิชั่นสวย ไว้ถ่ายรูปเช็กอินได้ เปิดเข้าไปเจอกับเคาน์เตอร์กาแฟทำด้วยไม้ แบ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นโซนขายของ ได้แรงบันดาลใจจากร้านชำสไตล์ญี่ปุ่น ส่วนชั้น 2 สว่างไสวไปด้วยโทนสีขาว รับแสงจากกระจกถึง 3 ด้านคือด้านข้างและเพดาน วางโต๊ะเก้าอี้ห่างกันกำลังดีให้ฟีลไพรเวท วันธรรมดาร้านเงียบ ๆ น่ามานั่งทำงานหาอินสไปเรชั่นอยู่เหมือนกันนะ

สารภาพตามตรงว่าเราแฟนคลับผลงานของ Playworks อยู่แล้ว เพราะเขาออกแบบของใช้สไตล์เอาท์ดอร์เหมาะกับสายท่องเที่ยวอย่างเราสุด ๆ ที่ร้านจึงเต็มไปด้วยเสื้อผ้า กางเกง หมวก กระเป๋าแนวที่วัยรุ่นชอบ และยังมีของฝากน่ารักไม่ซ้ำใคร เช่น กระเป๋าทำมือ สติกเกอร์ลายกราฟฟิก โปสเตอร์ ฯลฯ ส่วนเมนูกาแฟ เราขอแนะนำ ‘Black Lychee’ หวานฉ่ำด้วยลิ้นจี่สดเข้าคู่กับกาแฟเข้ม ๆ เหมาะเป็นเมนูเติมคาเฟอีนยามบ่ายสุด ๆ ออ แล้วอย่าลืมสั่งขนมเค้ามาทานด้วยละ

12 CINDER AND SMOKE

ส่งท้ายทริปด้วยร้านอาร์ทโทนดำสนิท เหมาะกับเอาท์ฟิตของเราวันนี้มาก ๆ CINDER AND SMOKE ร้านที่เขาตั้งใจคิดออกแบบให้เข้ากับตัวตนเจ้าของที่สุด ผ่านการวางแผนที่เนี้ยบที่สุด จนได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นอาคารที่มีกลิ่นอายนิวยอร์กแสนคลาสสิกเข้ามาด้วย ภายในวางขายของแนว Concept Store ทุกอย่างที่นำมาจะคัดสรรให้มีสีสัน กลิ่นอายความวินเทจไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น เทียนหอม ก้านน้ำหอมแพ็กเกจเรียบหรู กระเป๋า สมุด สติกเกอร์ เครื่องเขียน ฯลฯ พร้อมทั้งขายกาแฟแบบ Slow bar ให้แก่ผู้มาเยือน ด้านหลังมีสวนหลังบ้านให้ไปนั่งชิล หรือใครหาพื้นที่จัดอีเวนท์ เวิร์กช็อป ประชุมงาน บนชั้นสองเขาเปิดใช้เช่าด้วยเช่นกัน

จะเก็บความทรงจำทั้งทีเก็บรูปไว้แค่ในมือถือ ส่งผ่านไลน์มันธรรมดาเกินไปใช่มั้ย ครั้งนี้เราลองประมวลภาพถ่ายที่ชอบที่สุด ทำเป็นโปสการ์ดผ่านแอป Prompt Post ตกแต่งให้เป็นโปสการ์ดสไตล์ตัวเอง เขียนข้อความเก๋ ๆ ลงไป หลังจากนั้นก็จะได้ผลลัพธ์มาเป็นโปสการ์ด 2 หน้า ส่งผ่านอีเมล หรือให้ทางไปรษณีย์ปริ้นต์ส่งก็ได้ทั้งหมด แค่นี้ก็ได้แชร์ความรู้สึกดี ๆ ให้แก่คนสำคัญได้แบบน่าประทับใจสุด ๆ แล้ว

แปลกแต่จริงที่ว่ามาเชียงใหม่กี่ครั้งก็ยังไม่เคยรู้สึกพอ วันหยุดที่มีของทั้งปีก็แพลนมาเที่ยวที่นี่ไปแล้วครึ่งหนึ่ง รอบนี้มาเก็บคาเฟ่ เดี๋ยวรอบหน้าเราอาจจะพาขึ้นดอย เข้าป่า นอนโฮมสเตย์อีกสักกรุบ จะได้ส่งโปสการ์ดอีกสักคอลเลกชันให้กับคนสำคัญ รอติดตามกันได้เลย 🧡