รีวิวระยอง :: Road Trip Stories with Peugeot 3008 _ Rayong 2 Days 1 Night

ทริปนี้เราจะพาทุกคนไปเติมพลังงานให้ร่างกาย เพิ่มพลังใจให้นุ่มฟู ในเวลาแค่ 2 วัน 1 คืน กับ 6 โลเคชั่นสุดชิลในจังหวัดระยอง เพราะหลังจากที่ไม่ได้เที่ยวทะเลระยองมานาน วันนี้เลยขอเลี้ยวรถวนกลับมาอัปเดตร้านรวงใหม่ ๆ ที่พักชิล ๆ ในแบบฉบับที่เหมาะกับหนุ่มเท่สาวเก๋ ซึ่งทุกจุดท่องเที่ยวที่มัดรวมมาให้เหมาะกับคนที่อยากได้ไวป์ดี ๆ รูปถ่ายคูล ๆ ทั้งแนวคลาสซี่สวยหรู สตรีทสไตล์ ไปจนถึงฟีลมินิมอล บางโลไประยองแต่เหมือนอยู่เขาใหญ่ บางที่พาเราย้อนยุคเหมือนวาร์ปไปสมัยร้อยปีก่อน บางจุดก็มีพนักงานต้อนรับเป็นน้องหมาแสนคิวท์ ที่สำคัญเรามาพร้อมพื่อนคู่ซี้ ที่สำคัญเรามาพร้อมพื่อนคู่ซี้ ที่ทำให้การเดินทางทริปนี้ง่ายขึ้นกว่าเก่ากับ PEUGEOT 3008 LA FRANCE EDITION รถยนต์สัญชาติฝรั่งเศสที่เน้นการออกแบบจนได้รับรางวัล Reddot Award หน้าตาหล่อเหลา ดีไซน์ล้ำสมัย หรูหรา และแข็งแกร่ง ขับเลี้ยวไปที่ไหนก็มีแต่คนเหลียวมอง

ขับรถเที่ยวรอบนี้เราได้ยกระดับลุคหนุ่มคูล ให้ดูสปอร์ตโมเดิร์นขึ้นด้วยคู่หูร่วมเดินทางจากแบรนด์รถสัญชาติฝรั่งเศส PEUGEOT’ แบรนด์ที่เริ่มต้นผลิตยานพาหนะตั้งแต่ปี 1889 สมัยที่รถขับเคลื่อนด้วยไอน้ำ พัฒนาเทคโนโลยี ปรับรูปลักษณ์ เติบโตจนมาเป็นสิงโตดุดันกลางท้องถนน พร้อมโลโก้สัญลักษณ์ประจำเมือง จนกลายเป็นแบรนด์ที่ขายดีเป็นอันดับ 1 ในฝรั่งเศส และเป็นแบรนด์ผลิตรถใหญ่อันดับ 4 ของโลก เรียกว่าเป็นรถประจำชาติเลยก็ไม่ผิด เพราะกระทั่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสเองก็ยังเลือกใช้รถเปอโยต์เช่นกัน ส่วนรุ่นล่าสุดที่เราได้ขับตลอด 2 วัน 1 คืน ตะลุย 6 โลเคชั่นในวันนี้คือ ‘PEUGEOT 3008’ รถ SUV ที่พิถีพิถันด้านออกแบบด้วย French Design ระบบอัตโนมัติแสนอัจฉริยะ ที่มอบประสบการณ์การขับขี่อันไร้ที่ติ พร้อมสีให้เลือกถึง 4 สี สามารถทดลองขับได้ที่โชว์รูม PEUGEOT ทั้ง 10 สาขาทั่วประเทศและกำลังจะเปิดอีก1 ที่เชียงใหม่ และยังร่วมมือกับ MMS Borsch Car Service & Tire อีก 13 สาขาทั่วประเทศเพื่อดูแลลูกค้าอีกด้วย

Day 1

01 หลานเอก คอฟฟี่เฮาส์ – Laan Ek Coffeehouse

เริ่มโลแรกก็ขอมาเติมกาแฟก่อนเลยที่ หลานเอก คอฟฟี่เฮาส์ คาเฟ่คลาสสิกใจกลางเมืองเก่า บนถนนจินดา อยู่ภายในอาคารเก่าแก่ 2 ชั้น อายุ 110 ปี ซึ่งเป็นการออกแบบสไตล์ชิโน-ยูโรเปียน ชั้นล่างรีโนเวทติดแอร์ ตกแต่งด้วยแชนเดอเลียร์ดูคลาสซี่ เติมความโมเดิร์นด้วยเคาน์เตอร์กาแฟทรงโค้งมนตั้งอยู่กลางร้าน เน้นใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สไตล์วินเทจ มิกซ์แอนด์แมตช์กันได้อย่างลงตัว ชั้นบนตั้งใจให้เป็นอาร์ตแกลลอรี จัดนิทรรศการหมุนเวียน เน้นโชว์งานที่เกี่ยวข้องกับชุมชนหรือจังหวัดระยอง เพื่อรักษาความเป็นตัวตนของเมือง และสนับสนุนศิลปินในพื้นที่นั่นเอง 

เอาดี ๆ ความครีเอทไม่ได้อยู่แค่ในงานออกแบบ และงานศิลปะที่จัดโชว์ แต่ซึมซับเข้ามาถึงเมนูของร้านด้วย ทั้งส่วนผสม การจัดเสิร์ฟเรียกว่ามีกิมมิกน่าสนใจ และหน้าตาเท่สุด ๆ เราลองสั่งเค้กมะตูม เป็นเค้กผลไม้เนื้อแน่นหนึบหนับ มีกลิ่นหวานหอมเอกลักษณ์ของมะตูม พร้อมหน้าตาที่ออกโทนยุโรปคลาสสิกเบา ๆ กินคู่กับกาแฟที่มีเมล็ดให้เลือกมากมายทั้งจากดอยช้าง คั่วกลาง, ปางขอนคั่วเข้ม และเมล็ดนอกผสมออกโทนสดชื่น

02 Baanpat – บ้านพัฒก์

ร้านต่อมาที่เราตั้งใจจดใส่ลิสต์เป็นอันดับต้น ๆ Baanpat คาเฟ่ที่มองแล้วสบายตา อยู่แล้วสบายใจ ด้วยสถานที่ตั้งอยู่เลียบธารนำ้ธรรมชาติ ล้อมรอบไปด้วยความเขียวฉ่ำทุกองศา มีอาคารสีขาวทรงยาวยืนโดดเด่น พร้อมลานหญ้ากว้างใหญ่น่าวิ่งเล่น พร้อมจุดถ่ายรูปเช็กอินที่เหล่าฮอปเปอร์สามารถมาครีเอทมุม โพสท่าถ่ายได้อย่างอิสระ ความชอบคือที่นี่เขามีพนักงานต้อนรับเป็นน้องหมาดัชชุนตัวยาวขาสั้น คอยวิ่งเอาใจแขกอย่างซุกซน แน่นอนว่าที่นี่เป็น Pet Friendly สามารถพาน้องหมาน้องแมวของตัวเองเข้ามาเดินเล่นได้ด้วยเช่นกัน

ว่าด้วยเรื่องเมนูเขามีทั้งเครื่องดื่ม ขนมอบอย่างครอฟเฟิล และไอศกรีมหน้าตาน่ารักน่าหยิก ส่วนรสชาติเรียกว่าสดชื่นแบบตราตรึง เราสั่งชีสซีโน่ ที่เป็นอเมริกาโน่ท็อปด้วยครีมชีสนัว ๆ เค็ม ๆ มีเท็กซ์เจอร์ครีมมี่ไม่น่าเบื่อ คู่กับครอฟเฟิลชุ่มฉ่ำไปด้วยเนย รสชาติไม่หวานเหมาะกินคู่น้ำผึ้งและไอศกรีมสุด ๆ

03 หาดแสงจันทร์

เช็กอินสปอตประจำระยองที่ถูกใจคนรักทะเลมากที่สุดคงหนีไม่พ้น หาดแสงจันทร์ ชายหาดที่มีลักษณะพิเศษเป็นรูปครึ่งวงกลมคล้ายเกือกม้าหลาย ๆ วง ยาวกว่า 10 กิโลเมตร เกิดจากการสร้างแนวหินกั้นคลื่นที่จะมากัดเซาะชายฝั่ง ตรงข้ามถนนหน้าหาดนั้นจะเต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ เรียงราย พร้อมกิจกรรมทางทะเลให้เราได้ใช้บริการ หรือจะขับรถหามุมถ่ายรูปเลียบชายหาดก็ไม่ติด เพราะมุมเยอะมาก ทั้งต้นมะพร้าวเล็ก ๆ ที่ขึ้นอย่างน่ารัก โขดหินที่ยื่นออกไปนอกทะเล หรือจะแค่นั่งกินลมชมวิวอยู่ในรถก็แสนชิล 

และด้วยสีของรถ PEUGEOT 3008 ที่เราเอามาก็เข้ากับทริปทะเลแบบเกินต้าน กับสีขาวมุก (Pearl White) เป็นสีที่ตัดกับทะเลแล้วดูสดใสสบายตา แกมมากับความเท่สมาร์ทไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าคมเข้มดั่งเขี้ยวสิงโต เป็น LED Daytime running lights ส่วนไฟท้ายเป็นไฟ LED แรงบันดาลใจจากเล็บสิงโตสามมิติยาวต่อเนื่องถึงไฟเลี้ยวทำให้ดูสปอร์ตยิ่งขึ้น กระจังหน้าใหม่ไร้ขอบแบบ Fameless Grille พร้อมล้ออัลลอย ที่เสริมความหรูหราโดดเด่นยิ่งขึ้น ต่อด้วยด้านในที่เน้นความเรียบโก้โทนเข้มทรงเสน่ห์ พวงมาลัยแบบซูเปอร์คาร์ เป็นแบบมัลติฟังก์ชั่นใช้งานได้อย่างคล่องตัว ทำให้เรารู้สึกสมูท มั่นใจทุกการเคลื่อนไหว

04 Salt Beach Hotel

ไวป์การเดินทางดี ร้านกาแฟเท่ มุมถ่ายรูปคูลแล้ว ก็ถึงเวลาของที่พัก ที่เราเลือกโรงแรมน้องใหม่ล่าสุดเลียบหาดแสงจันทร์ Salt Beach Hotel ที่ออกแบบดูเบาสบาย เน้นสีขาวแซมด้วยน้ำตาล ฟีลลิ่งโคซี่น่าอยู่อาศัย แม้จะขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็สามารถจัดสรรพื้นที่ได้อย่างดี ตรงล็อบบี้จัดวางชุดโต๊ะเก้าอี้เหมือนอยู่ห้องนั่งเล่นบ้านเพื่อนเลย แล้วข้าง ๆ กันยังมีร้านกาแฟให้เราไปนั่งชิล จิบเครื่องดื่มอร่อย ๆ ก่อนขึ้นห้องด้วย 

ห้องนอนเขามีให้เลือกเยอะถึง 7 ไทป์ แตกต่างกันที่ขนาด เลือกได้ทั้งวิวทะเลและวิวแม่น้ำ ไฮไลต์ของทุกห้องคือกระจกบานใหญ่ที่เผยให้เห็นวิวภายนอนตลอดทั้งวัน จะปังมากช่วงพระอาทิตย์ตกและฟ้าเปิด มีมุมนั่งเล่น เตียงนอนนุ่มสบาย เฟอร์นิเจอร์เน้นงานไม้ งานสานเป็นหลัก กระทั่งหมอนอิง ผ้าปูเก้าอี้ ก็เลือกใช้วัสดุฟีลงานคราฟต์ จัดวางแบบมินิมอล กวาดตามองไปทางไหนก็ชอบไปหมด 

เราใช้เวลาช่วงเย็นในการเอนหลังพักกายยืดเส้นสายกันในห้อง ก่อนออกมาเดินสำรวจจนมาเจอมุมสระว่ายน้ำวิวแม่น้ำ เขียวฉ่ำไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของป่าโกงกาง เป็นอีกจุดชิล ๆ ที่น่าเอาหนังสือมานอนอ่าน พร้อมขนมเครื่องดื่มเป็นอย่างยิ่ง แต่ถ้าอยากหากิจกรรมทำ เขาก็มีบริการพายเรือคายัคให้เล่นด้วยเช่นกัน

Day 2

เทคไทม์ไปแบบเต็มอิ่ม… ก็ถึงเวลาของเช้าวันที่ 2 กับมื้ออาหารเช้าที่เสิร์ฟกันถึงห้องนอน โดยเขายกมาวางอย่างสวยงามที่โต๊ะริมระเบียง กินไปรับวิตามินยามเช้าไปแบบชิล ๆ พร้อมลมทะเลเอื่อย และเสียงนกยามเช้า เป็นการปลุกร่างกายให้ตื่นได้อย่างเต็มที่ ด้านอาหารเขามีให้เลือก 3 แบบ คือข้าวแกงแบบไทย ๆ เซตไก่กระเทียมไข่ดาว และอเมริกันเบรกฟาสต์ จัดมาแบบสวยงามอลังการอย่างที่เห็นนี่เลย ปริมาณคือจุกอิ่มไปถึงเที่ยงแน่นอน

ได้เวลาออกเดินทางอีกครั้ง อยากจะบอกว่ายิ่งได้ขับ เราก็ยิ่งหลงรักรถคันนี้ เพราะนอกจากดีไซน์สวย การใช้งานยังค่อนข้างง่าย ตั้งแต่กุญแจรถที่เป็นแบบ Keyless เพียงมีกุญแจอยู่กับตัวก็สามารถเข้าไปนั่ง โดยไม่ต้องกดปลดล็อก พร้อมช่วงล่างนิ่มนั่งสบายแล้ว การยึดเกาะถนนดีเยี่ยม ผ่านฉลุยได้ทุกสภาพถนนและสภาวะอากาศ ด้วยระบบ Advanced Grip Control ที่เราสามารถปรับรูปแบบการขับขี่ได้ถึง 5 โหมด เพียงหมุนเลือกปุ่มโหมดที่แผงควบคุมตรงกลาง และยังมีระบบ Hill Assist Descent Control ช่วยควบคุมรถขณะลงทางลาดชัน ลดความเสี่ยงในการลื่นไถล แถมเขายังมีรางวัลการันตีความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป อย่าง EURO NCAP ระดับ 5 ดาวเลยทีเดียว ตอบโจทย์คนชอบเดินทางอย่างเราเป็นที่สุด 

ส่วนฟังก์ชั่นในการใช้งานยังล้ำสมัย ตั้งแต่เทคโนโลยีห้องโดยสารแบบ i-Cockpit® เอกสิทธิ์เฉพาะเปอโยต์ พร้อมหน้าจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ เพลิดเพลินได้กับทุกแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนที่รองรับ Apple Car Play™ หรือ Android Auto™ มีระบบชาร์จไฟไร้สายเพียงวางสมาร์ทโฟนไว้บริเวณช่องชาร์จไฟ พร้อมสวิตช์แบบPiano Key ปรับการทำงานระบบต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

 มาในเรื่องของห้องโดยสารค่อนข้างกว้างสบาย สามารถเดินทางได้แบบครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง ส่วนที่ชอบมาก ๆ คือ Panoramic Sunroof ที่ช่วยกรองแสงธรรมชาติเข้ามาในรถ ช่วยเพิ่มความโปร่งสบาย หรือจะเปิดขึ้นไปยืนรับลม ถ่ายรูปสวย ๆ ก็ไม่มีใครว่า อีกอย่างที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้คือระบบการเปิดปิดประตูหลังด้วยการแตะผ่านเซนเซอร์ และที่เก็บของยังกว้างขวางเหมาะออกทริปได้ยาว ๆ เรียกว่าพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ครบทุกความต้องการจริง ๆ 

05 Haus Coffee and Space

ลัดเลาะกินลมชมวิวบนถนนเลียบทะเลมาเรื่อย ๆ ก็มาถึงสปอตที่กลายเป็นไอคอนของระยอง ร้านกาแฟริมหาดรูปแบบฟู้ดทรัคเจ้าแรก ๆ Haus Coffee and Space ตั้งอยู่ริมหาดแหลมเจริญ ความโดดเด่นแรกที่ใครเห็นต่างต้องอมยิ้ม คือทรงรถสีเหลืองครีมน่ารัก พร้อมของตกแต่งที่คุมโทนด้วยสีขาว น้ำตาล เป็นเอิร์ธโทนคลีน ๆ ตัดกับฟ้าและน้ำทะเลได้ไม่ขัดตา พอถ่ายรูปออกมาแล้วได้ความมินิมอล เหมือนงานเพ้นท์ศิลปะที่ดูเหงา ๆ แต่สดใส โดยเมนูของร้านก็จะมีทั้ง coffee, tea, non-coffee, ขนมปังปิ้งหน้าต่าง ๆ ซึ่งขายในราคาน่ารักเริ่มต้นที่แก้วละ 45 บาทเท่านั้น เรียกว่าคุ้มค่า คุ้มราคาแบบไม่ควรพลาดเลยทีเดียว 

06 โอบบ์ Farm & Cafe

ส่งท้ายด้วยพิกัดที่รับรองได้ว่าโดนใจสายป่าเขาเคล้าธรรมชาติกันบ้าง ที่ร้าน โอบบ์ Farm & Cafe เป็นคาเฟ่ฟีล Glamping  ให้เรามานั่งแอบอิงอยู่ใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ มีมุมเอาท์ดอร์ให้เลือกมากมาย พร้อมจุดถ่ายรูปเช็กอินอีกเพียบ! ประหนึ่งสตูดิโอถ่ายภาพกลางแจ้ง ตั้งแต่มุมอาคารหลักของร้านที่ทำจากไม้ฟีลบ้านกลางทุ่ง มีรถบ้านเล็ก ๆ ตกแต่งอยู่ด้านข้าง สะพานไม้ที่ทอดยาวไปด้านหลัง หมู่โต๊ะเก้าอี้กลางแจ้งให้เลือกนั่งอย่างอิสระ

หลังจากถ่ายรูปจนได้เซตภาพไปอัพจนเต็มอิ่ม ก็มานั่งหลบมุมพร้อมจิบเครื่องดื่มกันสักหน่อย ร้านนี้เราขอขีดเส้นใต้กาดอกจันให้ทุกคนได้ลองคือ ชาเขียวมัทฉะ ไม่ว่าจะเป็นแบบใสหรือใส่นมก็เลิศ เพราะเขาเลือกใช้ตัวที่มีความเขียวเข้มข้น ขมปลาย และมีความอูมามิหน่อย ๆ กินคู่กับชีสเค้กหน้าไหม้เนื้อหนึบหนับ หวานอ่อน ๆ แล้ว ให้รสชาติที่สงบ ผ่อนคลาย ดีต่อใจจริง ๆ

ตลอดทั้งทริปต้องบอกว่าประทับใจกับ PEUGEOT 3008 คันนี้มาก เพราะเป็นคันที่เข้ากับทุกสถานที่ จะถ่ายรูปกับธรรมชาติกรีน ๆ ก็โดดเด่น มาจอดถ่ายริมชายหาดเติมความสมาร์ทได้เนียน ๆ ยิ่งอยู่ในเมืองเก่ายิ่งเท่คูลจนหยุดมองไม่ได้ ใครอยากเป็นเจ้าของก็ไปจับจองกันได้ในราคา 1.699 ล้านบาท พร้อมบริการหลังการขายที่สามารถเอาเข้าศูนย์เปอโยต์ใกล้บ้านได้เสมอ ที่สำคัญราคาอะไหล่ไม่แพง มีโปรแกรม PEUGEOT CARE ครอบคลุมทุกบริการ พิเศษ !! ฟรีค่าบำรุงรักษา ฟรีการประกันสินค้า และฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ผ่านบริการคอลเซ็นเตอร์ที่เบอร์ 1488 บริการจุกอกจุกใจขนาดนี้สามารถทดลองขับได้ที่โชว์รูม PEUGEOT ทั้ง 10 สาขาทั่วประเทศและกำลังจะเปิดอีก 1 สาขาที่เชียงใหม่ และยังร่วมมือกับ MMS Borsch Car Service & Tire อีก 13 สาขาทั่วประเทศเพื่อดูแลลูกค้าอีกด้วย

เมื่อไหร่ที่เริ่มมีวันว่างแล้วไม่อยากปล่อยเวลาให้ผ่านไปเฉย ๆ เราอยากให้ทุกคนเตรียมชุดเท่ ๆ คว้ากุญแจรถ ขยับแข้งขยับขา ออกมาตามรอยถ่ายรูปเล่นกันที่ระยองแบบนี้บ้าง แล้วจะพบเจอความสงบ จนไม่อยากเชื่อว่านี่คือทะเลใกล้กรุง เจอผู้คนเทสต์ดีที่ช่วยเพิ่มอินสไปเรชั่น เติมเอเนอร์จี้บวก ๆ ให้เราเริ่มต้นวันใหม่ได้อย่างร่าเริง