รีวิวน่าน :: Discover Nan’s charms on a 3-day journey! with DUTCHIE BIO Pineapple & Guava

น่านนคร จังหวัดที่ทำให้หลายคนตกหลุมรักและเคลิบเคลิ้มไปกับความเนิบจากทั้งสถานที่ ผู้คน และธรรมชาติ กลับมาเที่ยวช่วงปลายปีครั้งนี้เราตั้งใจมาใช้เวลาช้า ๆ 3 วัน รับลมหนาวผ่าน 9 พิกัดสุดชิล ไล่มาตั้งแต่แหล่งพักใจแสนสงบของสายอาร์ต คาเฟ่หน้าใหม่สตอรี่ดีดีไซน์เก๋ ร้านพิซซ่าสุดเท่กลางทุ่งนากับบริการแสนดิบรสชาติแสนดี ก่อนเข้าสวนไปเก็บผลโกโก้พร้อมเวิร์กช็อปทำของฝากกินได้ ส่วนเรื่องหลับนอนบอกเลยว่าโฮมมี่โฮมใจสาแก่ใจหนุ่มสาวชาวมินิมอลเป็นที่สุด และไม่ลืมพาไปชมวัดทรงล้านนากลางเมืองพร้อมภาพจิตรกรรมฝาผนังไทยลื้ออันเลื่องชื่อ แน่นอนว่าทั้งหมดนี้จะเป็นแพลนส่งท้ายปีที่จึ้งที่สุด ได้โปรดตามรอยเราไป!!!!

แม้จะเที่ยวหนักกินเบา เน้นแลนด์มาร์กเด็ด ๆ โลเคชั่นปัง ๆ ทางเราก็สู้ไหว เพราะมีไอเท็มที่ตอบโจทย์สำหรับสายเที่ยวที่ใส่ใจสุขภาพ ซึ่งก็คือ ดัชชี่ไบโอ ที่ตอนนี้เขาออกรสใหม่! รสสับปะรดและฝรั่ง รสใหม่ แถมช่วยดูแลลำไส้เราได้ดีเหมือนเดิม เพราะน้องเขามีโพรไบโอติกกว่า 20,000 ล้านตัว มี LGG ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และ B.Lactis ช่วยปรับสมดุลลำไส้ ทำให้ขับถ่ายดีขึ้น คือจะบอกว่า 70% ของภูมิคุ้มกันอยู่ที่ลำไส้ การเติมโพรไบโอติกดี ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ เราเลยอยากให้ทุกคนได้ลองกินดัชชี่ไบโอในทุก ๆ วัน

Day 1

001 inlamai coffee

ทริปนี้เราเริ่มต้นกันแบบปล่อยจอย ด้วยการบินออกจาก กทม. ตอนเที่ยง ๆ ถึงน่านช่วงบ่าย ๆ หาน้ำเงี้ยวข้าวซอยกินให้หายกึ๊ดเติงรสเมืองเหนือ แล้วก็ปักหมุดมายังร้านกาแฟน้องใหม่ใจกลางเมืองน่านที่โด่งดังในหมู่คาเฟ่ฮอปเปอร์ ‘inlamai coffee’ ยกให้เป็นร้านที่ละไมทุกมุม เริ่มจากตัวบ้านสีขาวผสมงานไม้ มีต้นไม้แซมกับน้ำพุหินทรงคลาสสิกเล็ก ๆ น่ารัก หน้าร้านมีเก้าอี้สำหรับคนที่อยากนั่งรับลมเย็น ๆ พอเปิดประตูเข้าไปก็จะเจอการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างละเมียดลงตัว พร้อมกับกลิ่นกาแฟหอมฟุ้งลอยมาแตะจมูก ปลุกวิญญาณนักชิมให้อยากลิ้มลองซะเดี๋ยวนี้

ด้านเมนูนั้นค่อนข้างหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกความชอบทั้ง Coffee ที่มีเมนูซิกเนเจอร์ถึง 2 แก้ว และ 3 แก้วสำหรับ Non-Coffee เราลือกสั่ง My Name เมนูกาแฟผสมน้ำพีชหมักเข้มข้น บวกกับโทนิกน้ำมะนาวเพิ่มความเปรี้ยวซ่า และ Rose Blossom แก้วที่หอมฟลอร่าเหมือนไปยืนดื่มกลางทุ่งดอกไม้ รสชาติหวานฉ่ำ ปลายเปรี้ยวเล็กน้อย กินคู่กับเลมอนทาร์ต เป็นเหล่าเมนูที่เน้นมอบความสดชื่น นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมล็ดกาแฟแบบสเปเชียลให้เลือก มีของเก๋ ๆ ให้ช็อป อย่างหมวก กระเป๋าผ้า หากใครไม่เร่งรีบ เราอยากให้ลองใช้เวลาให้สมกับสโลแกนน่านเนิบ ๆ กันดู บอกเลยว่าเธอจะหลงรักการปล่อยเวลาให้ไหลไปกับการนั่งละเมียดชิมกาแฟ พร้อมคิดอะไรเพลิน ๆ อย่างแน่นอน 

002 บ้านพระจันทร์

หลังจากได้กาแฟมาฮีลใจ ก็ได้เวลาปักหมุกมาเอนหลังฮีลกายกันบ้างที่ ‘บ้านพระจันทร์’ บ้านพักหลังน้อยทรงคอตเทจสไตล์ยุโรป ห้อมล้อมด้วยต้นไม้สูงปกคลุมสร้างร่มเงา มีดอกไม้แซมให้ดูชื่นใจ มองไปตรงไหนก็ล้วนเป็นมุมถ่ายรูปได้หมด แถมความเงียบสงบชวนพักผ่อนก็ยังถูกเติมเต็มด้วยความน่ารักของเจ้าหมาคอร์กี้ 5 ตัว ที่เอเนอร์จี้เต็มแมกซ์ กรูกันเข้ามาเล่นกับเราอย่างเป็นมิตร ฟีลลิ่งเหมือนมานอนเล่นบ้านเพื่อนเลย แค่นี้ก็ช่วยเติมความอบอุ่นในทริปเราให้เพิ่มขึ้นอีกร้อยเท่า 

ห้องพักของที่นี่จะเป็นบ้านแยกหลังกันอย่างชัดเจน ตัวอาคารเน้นสีขาวน้ำตาล ติดตั้งกระจกทรงคิวท์รอบด้าน ทำให้ถ่ายรูปสวยทั้งด้านนอกและภายใน มีโซนนั่งเล่นจิบชา ชั้นลอยเป็นเตียงนอน เรียกว่าเป็นบ้านขนาดกระทัดรัดเหมือนบ้านในฝัน ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย สมแล้วที่ตั้งใจจองมาเพื่อพักผ่อน ช่วยชาร์จพลังงานให้กับร่างกายได้แบบไม่ผิดหวังเลย

Day2

หลังจากที่หลับเต็มตื่น ลืมตามาอย่างสดใส พร้อมแดดรำไรที่สาดเข้ามาปลุกเราถึงในบ้าน ไม่รอช้ารีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อออกไปเล่นกับน้องหมาและเดินสำรวจบรรยากาศยามเช้า แต่ก่อนอื่นขอรองท้องกันสักหน่อยด้วย DUTCHIE BIO Pineapple & Guava ที่เราซื้อมาแช่เย็นไว้ เพราะโยเกิร์ตกินตอนเย็นฉ่ำจะอร่อยที่สุด แถมรสนี้ไม่มีแลคโตส มีแต่เนื้อสัปปะรดเปรี้ยวหวานหนึบหนับ แซมมากับชิ้นฝรั่งหอม ๆ อุดมด้วยวิตามิน ใยอาหาร ช่วยเรื่องการย่อยอาหาร ปรับสมดุลลำไส้ให้ขับถ่ายดี สบายท้องแต่เช้าเลยเรา

จากที่ตั้งใจไว้ว่าจะรีบตื่นเช้าแล้วออกไปเที่ยว กลายเป็นว่าเราใช้เวลาช่วงเช้าที่นี่ไปนานเกินคาด มัวแต่เล่น มัวแต่ถ่ายรูปไม่หยุด จนมาจบที่ห้องอาหารที่ยังคงคุมโทนความโฮมมี่ กับชุดขันโตกอาหารเหนือเซตใหญ่ พร้อมไลน์บุฟเฟต์ มีดอกไม้ที่คุณลุงตั้งใจเก็บมาบรรจงวางแซมตกแต่งอยู่ทั่ว ทำให้รวม ๆ แล้วดูน่ารักน่าหยิบกินขึ้นอีกหลายเท่าตัว 

003 วัดภูมินทร์

สปอตในเมืองที่ไม่ควรพลาด ‘วัดภูมินทร์’ วัดประจำจังหวัดที่อยู่คู่เมืองน่านมานานกว่า 427 ปีนับแต่วันเริ่มสร้าง เป็นวัดแรกของประเทศไทยที่สร้างทรงจตุรมุข ด้วยสถาปัตยกรรมแบบล้านนา ที่มีมุขยื่นออกมาทั้ง 4 ด้าน ผังเป็นรูปกากบาท มีรูปปั้นพญานาค 2 ตนทอดยาวขนาบข้างบันได ตัวอาคารเป็นทั้งพระอุโบสถและพระวิหารในที่เดียวกัน ด้วยความยูนีคนี้ ที่นี่จึงได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานอันสำคัญด้วยนั่นเอง

ส่วนด้านในวัดจะเต็มไปด้วยงานลงรักปิดทองเคลือบเงา ลายพฤกษาและช้างสีทองที่ติดอยู่บนเสาไม้สักทั้ง 12 ต้น ตรงกลางเป็นที่ประดิษฐานของพระประธานจตุรพักตร์ 4 องค์ หันหน้าออกไปยังประตูทั้ง 4 ด้าน และไฮไลต์สำคัญคือจิตรกรรมฝาผนังอันลือลั่น ‘กระซิบรักบันลือโลก’ ของปู่ม่านย่าม่าน หญิงชายที่จับไหล่ป้องมือกระซิบกระซาบอย่างใกล้ชิด กับลายเส้นแบบไทยลื้อหาชมยาก จนถูกชูให้กลายเป็นเอกลักษณ์ของเมืองน่าน

004 Hani Creativespace

เติมคาเฟอีนให้ตื่นเต็มตากันต่อที่คาเฟ่ในป่ากลางเมือง ที่แค่ข้ามแม่น้ำน่านมา เราก็จะได้พบกับร้านสไตล์ญี่ปุ่นผสานงานไม้เมืองเหนือได้อย่างแนบเนียน ‘Hani Creativespace’ ร้านโลโกจุดฟ้าสุดมินิมอล ที่ขับให้ดูโดดเด่นอยู่ท่ามกลางร่มไม้สีเขียวที่ห้อมล้อมตัวร้านอยู่ แค่ลงจากรถก็ได้กลิ่นไอดินหอมเตะจมูก พอเดินเข้าใกล้ร้านก็มีกลิ่นอะโรมากาแฟพัดมาให้เคลิบเคลิ้ม น่ามานอนอ่านหนังสือหาแรงบันดาลใจ หรือมานั่งวาดรูปทำงานอาร์ตสุด ๆ และหากใครอยากนอนค้าง เขาก็มีลานกางเต็นท์ไว้บริการเช่นกัน

โซนที่นั่งของร้านจะกระจายไปรอบ ๆ มีทั้งที่นั่งเคาน์เตอร์ฟีลคาเฟ่ โต๊ะยาว ชุดโต๊ะแบบแคมปิง ศาลากลางสวนสุดไพรเวท ด้านเมนูจะเป็นขนมเครื่องดื่มเล็ก ๆ น้อย ๆ หน้าตาเรียบง่าย แต่ถ่ายรูปออกมาแล้วญี่ปุ่นญี่ใจสุด อย่าง Matcha Terrine ขนมชาเขียวหวานอ่อน ๆ กลิ่นละมุน เนื้อนุ่มคล้ายคัสตาร์ด ที่กินตัดกับกาแฟดำได้อร่อยแบบคู่สร้างคู่สม หรือจะเป็นบัตเตอร์เค้ก กินกับลาเต้โอ๊ตมิลค์ อันนี้ก็ไม่ติดเช่นกัน 

005 หอศิลป์ริมน่าน

สวมบทจิตรกรน้อยมาตรวจงานอาร์ต เสพงานศิลป์กันหน่อยที่ ‘หอศิลป์ริมน่าน’ บ้านหลังโตที่ถูกโอบกอดด้วยร่มเงาของแมกไม้ มีพื้นที่ติดริมน้ำ ซึ่งเราสามารถไปนั่งชมได้ชิล ๆ ที่ใต้ถุน หรือจะเป็นลานระเบียงที่สร้างไว้เพื่อพักผ่อน พร้อม Installation art วางกระจัดกระจายอยู่บนพื้นที่กว่า 13 ไร่ ให้เราเริ่มถ่ายรูปได้ตั้งแต่ก้าวเท้าลงจากรถ ที่นี่ก่อตั้งโดยอาจารย์วินัย ปราบริปู ศิลปินชาวน่าน ผู้อยากมีพื้นที่สวย ๆ ให้ตัวเองได้เขียนรูป สร้างไปสร้างมาก็กลายเป็นหอศิลป์ที่เปิดมานานกว่า 19 ปีแล้ว จึงเป็นอีกที่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ศิลปินในพื้นที่ แต่ยังเป็นอีกหมุดสุดรักของอาร์ตฮอปเปอร์อย่างเราอีกด้วย

หลัก ๆ แล้วที่นี่จะแบ่งออกเป็น 2 อาคาร อาคารใหญ่จะจัดนิทรรศการหมุนเวียน ซึ่งงานส่วนใหญ่จะมีกลิ่นอายของภาคเหนือ ผสมผสานมากับลายเส้นสมัยใหม่ บ้างเป็นภาพนามธรรม ถือเป็นเวทีให้แก่ศิลปินได้โชว์ผลงาน อีกอาคารจะเป็นนิทรรศการถาวร นิทรรศการภาพถ่ายจิตรกรรมฝาผนัง พร้อมร้านกาแฟในเฮือนไม้ทรงคลาสสิก เรียกว่ามาแล้วครบจบทุกความชิลจริง ๆ

006 โรงบ่มปัว คาเฟ่ แอนด์ อีทเทอรี่

คาเฟ่ที่เปลี่ยนความทรุดโทรมให้กลายเป็นจุดเด่น กับโครงอาคารอิฐแดงสูงใหญ่ ย้อนไปราว ๆ 70 ปีก่อน พื้นที่นี้เคยเป็นโรงบ่มยาสูบมาก่อน ก่อนถูกเปลี่ยนมาเป็นคาเฟ่ฟอร์มเก๋ภายใต้ชื่อ โรงบ่มปัว คาเฟ่ แอนด์ อีทเทอรี่ตัวร้านเป็นอาคารหลังคาสูง พร้อมกระจกรอบด้าน ดูโล่งโปร่งสบาย ตกแต่งด้วยงานไม้ ของใช้ ของสะสมเก่าแก่ และที่สะดุดตาคือบรรดาป้ายจากส่วนต่าง ๆ สมัยยังเป็นโรงบ่ม ให้ฟีลเหมือนมาเดินชมนิทรรศการระดับย่อม เป็นอีกสถานที่ที่บอกเล่าวัฒนธรรมการสูบของภาคเหนือได้อย่างมีชีวิตชีวา 

มุมไฮไลต์ของร้านจะอยู่ด้านนอก ชุดโต๊ะไม้กลางลานกว้าง ที่ขนาบข้างด้วยโรงบ่มเรียงเป็นแถวตอนลึก มีน้องแพะให้เราเดินไปร่วมเฟรม ส่วนเรื่องของกินก็จะเน้นไปทางเครื่องดื่มและขนม ซึ่งส่วนใหญ่ที่ร้านจะทำเองทั้งหมด ทำให้มีความสดใหม่และรสมือเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหน 

007 DaiDib DaiDee

เราใช้เวลาเนิบช้าไปกับเมืองปัวจนถึงห้าโมงเย็น ซึ่งเป็นเวลานัดหมายที่รถอีแต๊กของชาวบ้านจะพาเราวิ่งไปบนถนนที่ถูกขบาบข้างด้วยทุ่งนาสีเขียวสลับเหลือง สัญญาณที่ทำให้รู้ว่าฤดูเก็บเกี่ยวมาถึงแล้ว ฝ่าลำธาร มีลำแสงอุ่น ๆ ต้องผิวบาลานซ์กับลมเย็น ๆ กลายเป็นอากาศสบาย ๆ จนมาถึงร้าน ‘DaiDib DaiDee’ ร้านพิซซ่ากลางทุ่งนาที่เปิดมาหลายปี แต่ยังคงความดิบ ความดีอย่างเสมอต้นเสมอปลาย กลายเป็นอีกแลนด์มาร์กของจังหวัดน่านที่คนไทยจะมาแวะกินอาหาร และชาวต่างชาติซื้อคอร์สมาอยู่เป็นวัน ๆ

ไฮไลต์ของร้านคือพิซซ่าเตาฟืน ที่จะทำเพียง 20 ถาดต่อวันเท่านั้น มีทั้งหน้าสุดป็อปและหน้าพื้นเมือง ซึ่งเราเลือกกินแบบ half ครี่งหนึ่งเป็นฮาวาเอียน อีกครึ่งเป็นไส้อั่ว เกิดเป็นถาดลูกครึ่งที่อร่อยลงตัวมากเว่อร์ นอกจากนี้เขายังมีเมนูอื่น ๆ อย่างเฟรนช์ฟราย อาหารเหนือ แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าร้านนี้ขายสำหรับคนที่จองโต๊ะมาเท่านั้น โดยจะรับจองแบบวันต่อวัน ร้านหยุดวันพุธนะจ๊ะ

ด้วยความที่โลเคชั่นอยู่ใน ต.ศิลาแลง บนผืนนากว้างไร้สิ่งปลูกสร้างรกหูรกตา มีแค่เพียงภูเขาลูกใหญ่ที่ล้อมรอบอยู่ไกล ๆ พร้อมฝูงควายมาคอยต้อนรับ เมื่อถึงเวลาพระอาทิตย์ตก แสงเย็นที่นี่ก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง ความชมพูอมฟ้ายังมีให้เห็น พร้อมอากาศที่แสนบริสุทธิ์ ถือเป็นประสบการณ์การกินที่แปลกใหม่ ฮีลใจเราได้ดี แฮปปี้สุด ๆ จนไม่อยากบอกลาวันที่ 2 ของทริปไปเลย 

รักท้องฟ้าของวันนี้จัง 🙂

Day3

วันนี้เรามีนัดไปเยี่ยมชมไร่โกโก้แต่เช้า ในชั่วโมงรีบเร่งแบบนี้ต้องหาอะไรกินรองท้องที่อร่อยดี มีโพรไบโอติก ก่อนเริ่มต้นวัน ซึ่งก็คงหนีไม่พ้น ดัชชี่ไบโอ ถ้วยเขียวถ้วยนี้ ที่ช่วยเราไว้ได้ทันเช่นเคย เพราะ 70% ของภูมิคุ้มกันอยู่ที่ลำไส้ การเติมโพรไบโอติกจากดัชชี่ทุกวัน ก็ถือเป็นการดูแลสุขภาพที่ง่ายที่สุด แล้วรสชาติใหม่นี้ก็ยิ่งทำให้เราอยากหยิบจากตู้เย็นมากินแทบทุกเช้าเลย

008 Cocoa Valley

แล้วก็ถึงเวลาที่เราจะได้โคฟเป็นสาวชาวไร่หิ้วตะกร้าสะพายใส่หลัง ออกตามล่าผลโกโก้กันใน ‘Cocoa Valley’ แหล่งปลูกโกโก้ไทยเกรดพรีเมียม ที่เกิดจากความชอบในช็อกโกแลต และอยากอยู่ในที่ที่ตัวเองมีความสุข จึงเริ่มศึกษาอย่างจริงจัง การปลูกของเขาจะมีขั้นตอนค่อนข้างละเอียด โดยไม่ใช้สารเคมี ด้วยดินที่ดีมีน้ำตลอดทั้งปี ทำให้ได้ผลสวยงาม เป็นการเปิดประสบการณ์ให้เราได้เห็น ได้ชิมโกโก้เม็ดสดแบบยังไม่ผ่านการแปรรูป ใครอยากลิ้มรสก็ตามมากันให้ไวเลย

โดยกิจกรรมชมสวนจะมาจบที่การเวิร์กช็อปทำช็อกโกแลตบาร์ เริ่มต้นด้วยการแนะนำวิธีทำจากพี่พนักงาน ตั้งแต่การปาดช็อกโกแลต เอาเข้าพิมพ์ ตกแต่งด้วยถั่ว เบอร์รี่อบแห้งตามชอบ จากนั้นก็รอรับเอากลับไปฝากคนที่บ้านได้เลย แต่หากใครเวลาน้อย ก็สามารถมาใช้บริการคาเฟ่ของทางร้านกับนานาเมนูเครื่องดื่มโกโก้ ชา กาแฟ ขนมอีกเพียบ! พร้อมโซนขายของฝาก เป็นผลิตภัณฑ์จากโกโก้ ทั้งผงชงสำเร็จ ครีมทาหน้า ลิปปาล์ม สครับผิว รวมไปถึงเครื่องประดับ เสื้อผ้าพื้นเมือง 

009 ถนนหมายเลข3

ปิดทริปด้วยการขับรถมาเช็กอินกับมุมสุดป็อปประจำเมือง ‘ถนนหมายเลข 3’ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของน่านและของไทย บนทางหมายเลข 1081 ใน อ.ปัว ทางผ่านของรูทยอดฮิต สันติสุข-ปัว-บ่อเกลือ ลักษณะจะเป็นเนินไต่ระดับขึ้นเขา ไปเป็นเส้นคดเคี้ยวยาว 300 เมตร มองจากมุมด้านล่างจะเห็นเป็นเลข 3 ขนาบข้างด้วยแมกไม้เขียว และช่วงที่เรามายังมีดอกไม้สีเหลืองบานเต็มสองข้างทางด้วย ถ่ายรูปได้คิวท์ ปิดจบทริปได้สดใสสุด ๆ

สำหรับเคล็ดลับนักเที่ยวของเราในทริปนี้.. ไม่ว่าจะเที่ยวจุกๆ ถ่ายรูปหนักๆ ไม่มีเวลาขนาดไหน เราก็ต้องดูแลสุขภาพลำไส้ให้ดีเสมอ เพราะอาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวได้ ดังนั้นการดูแลลำไส้ให้ดีสำคัญเสมอ นี่เลย! ดัชชี่ไบโอ โยเกิร์ตดีๆที่มีโพรไบโอติกคับถ้วย มีส่วนช่วยดูแลลำไส้ หาซื้อได้ง่ายที่เซเว่น พี่ๆสาวดัชมิลล์ และสาวดีไลท์ทั่วประเทศ ยิ่งกินเย็น ๆ ยิ่งอร่อย รักตัวเอง รักลำไส้ ให้กินดัชชี่ไบโอทุกวัน และอย่าลืม รสสับปะรดและฝรั่ง รสใหม่! ตัวช่วยดูแลสุขภาพลำไส้ให้เหมือนเดิมด้วยนะ

แม้จะห่างหายจากน่านไปนาน แต่ก็ถือว่าเป็นอีกครั้งที่เมืองนี้ไม่ทำให้เราผิดหวัง ยังมีความเนิบนาบแต่แอบซ่อนไปด้วยคาเฟ่เก๋ ที่พักเทสต์ดีเข้ากับยุคสมัย หอศิลป์ที่แม้จะสร้างมากว่าสิบปีแต่ก็มีดีไซน์แบบ timeless ยังดูสะอาดสบายตาไม่น่าเบื่อ ร้านอาหารกลางนากิมมิกเก๋ที่สร้างยามเย็นแสนดี ธรรมชาติข้างทางสุดปังที่นั่งรถชมวิวได้แบบไม่ต้องก้มมองโทรศัพท์ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลายคนถึงกลับมาเที่ยวน่านได้ปีละหลาย ๆ ครั้ง ใครยังไม่เคยมา หนาวนี้ก็รีบแพลนมาได้แล้วนะ