รีวิวชลบุรี :: Explore the Vibrant Summer Vibes of Bangsaen

🌊 ถ้าถามถึงความสุขของการเดินทาง … สำหรับเราก็คงเป็นการได้ขับรถไปในที่ที่ชอบ เพื่อใช้เวลาเรื่อยเปื่อยอยู่กับตัวเองแบบไม่ต้องคิดอะไร กิน เที่ยว ถ่ายรูป พักผ่อนอย่างที่ใจอยาก

และนี่ก็เป็นสุดสัปดาห์ที่เราได้กลับมาสู่อ้อมกอดของทะเลใกล้กรุงฯ อันคุ้นเคยอีกครั้ง “บางแสน” เมืองริมหาดที่มีมุมเงียบสงบให้พักผ่อน มีสถานที่ให้นั่งทิ้งตัว จิบกาแฟดี ๆ ทานไอกรีมอร่อย ๆ ให้คลายร้อน มีจุดชมวิวที่ชวนปล่อยใจไปกับสายลม แสงแดด และเกลียวคลื่นอย่างเพลิดเพลิน มีที่พักสวย ๆ ที่ทำให้ได้รูปและวิดีโอมาอัปโซเชียลเป็นร้อยเป็นพันตลอดซัมเมอร์ซั่นนี้ และอีกสิ่งที่มาเติมเต็มทริปครั้งนี้ของเราให้สมบูรณ์แบบที่สุดต้องยกให้  NEW MG VS HEV รุ่นพิเศษ “100th ANNIVERSARY SPECIAL EDITION” ที่ตอบโจทย์ทั้งความอเนกประสงค์ตามแบบฉบับรถเอสยูวี ให้ฟังก์ชันที่ได้ใช้ประโยชน์จริง ๆ ห้องโดยสารกว้างสบาย จะขับคนเดียวก็ชิล จะจัดทริปกับก๊วนเพื่อน หรือครอบครัวก็จอยสุด ๆ

เอาล่ะ!!! ถ้าพร้อมจะสนุกและดื่มด่ำกับบางแสนทริป … ก็สตาร์ทรถแล้วออกเดินทางไปพร้อมเราได้เลย go go

อย่างที่บอกว่าทริปนี้เราเน้นการปล่อยตัวปล่อยใจ จึงกลายเป็นโร้ดทริปที่ชิลระดับสิบ ยิ่งเดินทางมากับ NEW MG VS HEV รุ่นพิเศษ 100th ANNIVERSARY SPECIAL EDITION ที่ออกมาใหม่ล่าสุด ถือเป็นรถไฮบริดที่น่าสนใจไม่น้อย และคุ้มค่าด้วยความอเนกประสงค์สไตล์รถเอสยูวี ตอบโจทย์คนที่ชอบเดินทาง ท่องเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน ครอบครัวที่มีลูกหรือสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกก็ยังได้ โดยหากเทียบระหว่างฟังก์ชัน สมรรถนะการขับขี่ของเครื่องยนต์ไฮบริด กับราคาค่าตัว 789,900 บาท ก็คุ้มค่าจริง ๆ

DAY1

Unclound Coffee

เริ่มต้นพิกัดแรกในวันหยุดด้วยการเติมความสดชื่นในคาเฟ่ที่ทำเราตื่นตาไปกับความคลีนจนอะดรีนาลินในร่ายกายพุ่งสูงปรี๊ด ‘Uncloud Coffee’ ร้านนี้เน้นการออกแบบที่สื่อถึงความพริ้วไหวของคลื่นแสงเหนือ กลายเป็นสไตล์ Futuristic ดูล้ำยุคล้ำสมัย ขณะเดียวกันยังมีความโค้งมน ไม่มีเสากีดกั้นสายตาทำให้รู้สึกโปร่งสบาย มุมเด็ดคือผนัง Aurora ที่เพ้นต์สีเหมือนคลื่นสีน้ำเงินม่วงสร้างความ smooth จัดวางต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านตรงกลางคาเฟ่ เรียกว่าทุกมุมสามารถทำคอนเทนต์ได้เยอะฉ่ำสุด ๆ ไปเลย

เมนูของที่ร้านมีทั้งเครื่องดื่ม coffee, non-coffee, Mocktail และขนมอบสดใหม่ทุกวัน หากใครชอบความสวยงามลองเลือกเหล่าแก้วและเค้กซิกเนเจอร์ของร้าน รับรองพรีเซนต์ออกมาปังไม่ผิดหวัง แต่ทางเราชอบกินแบบเบสิกเลยสั่ง Pain au Chocolate ที่เขาทำชั้นแป้งได้บางเสมอกันอย่างงดงาม ส่งกลิ่นหอมอวลทั้งที่ยังไม่ได้ตักชิม เท็กซ์เจอร์มีความกรอบนอกนุ่มในชุ่มเนย และมีความหวานหอมของช็อกโกแลตแทรกมาเป็นระยะ กินคู่กับกาแฟดำแล้วมันลงตัวเป็นอย่างยิ่ง

Hidden Lab

พิกัดต่อมาที่แทบจะเป็นแลนด์มาร์กประจำบางแสนไปแล้ว ‘Hidden Lab’ คาเฟ่ในอาคารเก่าริมทะเล ที่อดีตเคยทำหน้าที่เป็นห้องแล็บแสนคลาสสิก ทางร้านยังคงเก็บทั้งโครงสร้างไปจนถึงของตกแต่งทำให้มีกลิ่นอายความดิบอันเปี่ยมมนต์ขลัง จัดวางโต๊ะเก้าอี้กระจายตามห้องต่าง ๆ จึงถ่ายภาพออกมาได้หลากมู้ดหลายอารมณ์ แต่จุดเช็กอินที่เหล่าคาเฟ่ฮอปฮิตมากที่สุดอยู่ตรงบริเวณสระน้ำริมทะเลใกล้ ๆ กัน เป็นกำแพงหินเก่าแก่ติดตั้งโคมไฟทรงตะวันตก พอมีฉากหลังเป็นทะเลแล้วมันเท่แบบจอสระอึ้งมากคุณน้า

เมนูของที่ร้านนั้นมีทั้งกาแฟ ชา ผลไม้ปั่น และสเปเชียลเมนูที่มิกซ์ออกมาได้แมตช์กันสุด ๆ สำหรับช่วงที่อากาศแตะ 40 องศาแบบนี้ ทางเราขอจิ้ม Italian Soda มาสร้างความซาบซ่าไล่ความร้อน กินกับขนมเคล้าอ่านหนังสือใช้เวลาทิ้งไปยาว ๆ กับเสียงคลื่นแสนสงบ เท่านี้ล่ะคือวันหยุดที่ต้องการ

จุดชมวิวเขาสามมุก

ก่อนเวลาจะตีเข็มไปตอนเที่ยง ก่อนที่คนจะเริ่มออกเที่ยวกันอย่างหนาตา เรารีบขับรถมาที่ ‘จุดชมวิวเขาสามมุก’ เทควิวทะเลมุมสูงสามารถทอดสายตาได้กว้างไกลไร้สิ่งปลูกสร้างบดบัง เรียกว่าเป็นอีกมุมที่มีเสน่ห์สุดในบางแสนเลยก็ว่าได้ ซึ่งเขาได้มีการปรับปรุงพื้นที่อยู่เรื่อย ๆ ไฮไลต์คืออุโมงค์เหล็กขาวความยาว  500 เมตรตั้งอยู่ริมผา หากลองบินโดรนหรือมองมาจากทะเล จะเห็นเป็นอักษรคำว่า Bangsaen Kaosammuk และข้าง ๆ กันยังมีระเบียงชมวิวสุดโมเดิร์นติดตั้งซุ้มสำหรับนั่งชิล ตกแต่งด้วยตู้โทรศัพท์สีแดงแบบยุโรให้เราได้ถ่ายรูปเท่ ๆ คูล ๆ อีกด้วย

ด้วยสีเทา ‘GRAYON GREY’ ทำให้ MG VS HEV รุ่นพิเศษนี้ ดูเรียบหรู มีระดับมากขึ้น ดีไซน์ที่ชอบสุดคือด้านหน้ารถ ทั้งกระจังหน้า ไฟหน้า ที่ดูรวม ๆ แล้วมีความล้ำสมัย แถมมีติดโลโก้ 100th ANNIVERSARY ที่ด้านท้ายรถบ่งบอกความเป็น SPECIAL EDITION ได้แบบกำลังดี

Contour Bangsaen

สำหรับสายชิลชอบความสงบแต่ยังอยากใกล้ชิดกับผู้คนและความสะดวก เราขอแนะนำให้จองที่พักโซนหาดวอนนภา ซึ่งรอบนี้เราจอง ‘Contour Bangsaen’ ที่พักคอนเซปต์ where less is truly more สามารถพรีเซนต์ความน้อยแต่มากด้วยดีเทล ครบครันพร้อมกับความสะดวกและไวบ์ที่แสนดี เรียกว่าเป็นตัวตึงของความมินิมอลก็ไม่ผิด ตัวอาคารมีเพียงชั้นเดียวฉาบทับด้วยสีขาว พร้อมความโค้งมนของช่องประตูที่นำสู่ห้องพักที่มีเพียงไม่กี่ห้อง ตัดกับสีเขียวของลานหญ้าตรงกลาง ปลูกต้นไม้ใหญ่สร้างแดดรำไรพาดทับผนัง ยามลมพัดจะเกิดเงาพริ้วไหวเหมือนกำลังร่ายรำ เดินออกมาอีกไม่กี่สิบเมตรก็พบกับชายหาดวอนนภา มีร้านค้าร้านอาหารอยู่ครบ!

ส่วนห้องพักนั้นมีให้เลือกทั้งหมด 4 ไทป์ การตกแต่งคล้ายกันทุกห้อง แตกต่างกันที่ขนาดเท่านั้น ทุกห้องจะแบ่งเป็นโซนนั่งเล่น ที่นอน ห้องอาบน้ำเป็นสัดส่วนอย่างดี ถ้าเลือกห้องใหญ่หน่อยจะมีอ่างอาบน้ำให้นอนแช่ ทั้งนี้ทั้งนั้นภาพรวมของการแต่งห้องถูกใจ Gen Y เป็นต้นไปสุด ๆ โดยเขาจะเน้นโทนขาว built-inใช้วัสดุไม้สีอ่อน เน้นการมอบพื้นที่โล่งโปร่งเหมาะแก่การพักผ่อน ไฟฝังฝ้าสีส้มนุ่มนวล พอเข้าห้องแล้วไม่อยากออกไปไหนอีกเลย

Bout bagel

ด้านหน้าที่พักเขายังเปิดคาเฟ่เล็ก ๆ ชื่อว่า ‘Bout bagel’ ร้านที่ขายเบเกิลโดยเฉพาะ แถมยังเป็นเบเกิลยีสต์ธรรมชาติทำสดใหม่ทุกวัน มีให้เลือกหลากหลายรส ทั้งแป้งธรรมดา ช็อกโกแลต มัลติเกรน แครนเบอร์รีวอลนัต เบคอนชีส ฯลฯ เราลองสั่งแบบช็อกโกแลต นอกจากเนื้อแป้งจะมีกลิ่นช็อกแบบเต็มขั้นแล้ว ข้างในยังมีช็อกชิปหวานอ่อน ๆ ปาดกินกับครีมชีส เคล้ากาแฟดำนั่งมองวิวสวนฟังเสียงนก ฟังเสียงลมแล้ว เป็นความฟินยามบ่ายที่ดีงามจริง ๆ 

หาดวอนนภา

และแล้วก็ถึงเวลาชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ตรึงสายตาคนทุกผู้ สปอตที่เราเลือกปักหมุดอยู่บริเวณ ‘หาดวอดนภา’ หาดที่มีทางเดินชมวิวยืดยาวกว่า 730 เมตร มีการจัดระเบียบเรื่องพื้นที่ได้ดีเสมอมา ยิ่งตรงที่นั่งโบกปูนทรงกลมทาทับด้วยสีขาว ตั้งอยู่ริมทะเลนี่ก็กลายเป็นมุมคูล ๆ ให้เราได้นั่งดื่มด่ำวิวอาทิตย์อัสดง พร้อมครีเอตภาพไม่ซ้ำหาดไหน ๆ เคล้าบรรยากาศรอบ ๆ ที่มีผู้คนมาปูเสื่อปิกนิกเป็นครอบครัว คู่รักที่นั่งแกว่งขาหันหน้าออกทะเลกันแบบหวานฉ่ำ ถือเป็นโลสุดท้ายของวันให้เราได้ปล่อยใจจอย ๆ สไตล์สายชิลที่ถูกต้อง

Day2

นกที่ตื่นเช้าคือนกที่ได้รูปสวยรูปปังกว่าเขากว่าใคร นี่ก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าวันหยุดจะตื่นขึ้นมาทำไม แต่พอเห็นวิวทะเลช่วงเย็นเมื่อวานแล้วก็อยากจะเห็นแสงยามเช้าของชายหาดนี้บ้าง ซึ่งอากาศตอนเช้าที่ ‘หาดวอดนภา’ จะแตกต่างจากช่วงเที่ยงแบบสุดขั้ว เราจะเห็นแสงแดดที่พาดทับต้นมะพร้าวอย่างอ่อนโยน ลมทะเลเย็นชืดจนแทบลืมว่านี่คือหน้าร้อน เป็นอากาศที่ชวนชื่นใจแถมถ่ายรูปยังออกมาสวยสดใสคนละมู้ดกับตอนเย็น ใครอยากได้รูปทริปบางแสนแบบตัวมัมต้องเก็บภาพให้ได้ทั้งเช้า-เย็น

ก่อนจะเริ่มวันที่สองของทริปแบบจัดเต็ม ขอวกมาบอกเล่าความประทับใจในส่วนของรถคู่ใจประจำทริปนี้กันสักหน่อย … ถ้าเพื่อน ๆ เป็นสายพร็อปแน่น บ้าหอบฟาง หนึ่งวันเปลี่ยน 4 ชุด แบบไม่เกินจริง เรากล้ารับรองเลยว่า NEW MG VS HEV คันนี้จะต้องตอบโจทย์อย่างแน่นอน กับหลังรถที่สามารถพับได้ 60:40 จุของได้จุใจ จะใส่ได้ทั้งกระเป๋าเดินทาง อุปกรณ์ปิกนิก ของตั้งแคมป์ หรือจะพาน้องหมาตัวโตออกมาเที่ยวด้วยก็มีพื้นที่ให้นอนกลิ้งไม่จำกัด และถ้าใครชอบรับวิตามินจากแดดยามเช้า หรือรับลมเย็นยามค่ำคืน คันนี้ยังมี Panoramic Sunroof ให้เปิดรับลมได้แบบเต็มปอด

หลังจากดื่มด่ำบรรยากาศยามเช้าจนสาแก่ใจ เรากลับมาที่พักเพื่อรับประทานอาหารเช้า ชุดแรกเป็นข้าวโอชาซุเกะ ทอดมันกุ้งชลบุรี เสิร์ฟพร้อมไข่ต้ม อีกชุดคือซาวร์โดเบเกิลอบชีสเบคอน เคียงมากับมันฝรั่งกรอบ หน้าตานอกจากจะไม่เหมือนใครแล้ว รสชาติยังกลมกล่อมอย่างไม่น่าเชื่อ จะยกมากินที่ห้องหรือเลือกกินกลางสวนก็แล้วแต่ความชอบเลย พออิ่มท้องเราก็เช็กเอาต์ไปได้อย่างสบายใจ พร้อมไปตามหาของหวานตบท้ายอีกสักหน่อย 

Sunlune

ขยับมาอัปเดตคาเฟ่ที่โซนอ่างเก็บน้ำบางพระ ดินแดนที่มีร้านกาแฟคอนเซปต์แสนฮีลใจแอบซ่อนอยู่ และยกให้เป็นร้านโนหนึ่งในใจของทริปกับ ‘Sunlune’ เจลลาโตคาเฟ่ที่ดูเริงรื่นชื่นใจตั้งแต่แรกเห็น ตั้งอยู่ในพงไพรแห่งบางพระ กับตัวร้านที่แทบจะเป็นเรือนกระจก แต่กลับเย็นฉ่ำไปด้วยร่มไม้ที่ขึ้นปกคลุมอยู่รอบ ๆ ผนวกกับตัวร้านที่เป็นโทนเขียวตุ่นอ่อน ๆ ดูแนบเนียนไม่ขัดตา ตัดด้วยสีแดงจากโลโก้ร้าน และของตกแต่งเพิ่มความน่ารักมีเสน่ห์ มีที่นั่งเอาต์ดอร์จัดโซนให้ดูไพรเวตมาก ๆ ด้วย

ใครที่กำลังหาไอศกรีมโฮมเมดที่จริงใจ ใช้ของพรีเมียมเหมาะสมกับเงินที่เสียไป เวลาที่สละให้ บวกกับค่าน้ำมันในการเดินทาง เราขอแนะนำร้านนี้เลย ในแต่ละวันจะมีไอศกรีมให้เลือกกว่าสิบรสชาติ มีทั้งแบบนมรสชาติโทนหวาน ๆ นัว ๆ อย่าง Matcha Green Tea, Banoffee, Thai Tea, Dark Chocolate และโทนผลไม้โยเกิร์ต เราลองสั่ง Yakult pepo กับ Mixberry Sorbet ตักเข้าปากไปคำเดียวความเย็นซ่านก็กระจายไปทั่วร่าง พร้อมความหวานที่ไหลลงคอสร้างความสุขสม กลิ่นยาคูลท์มาแน่น ตัวเบอร์รีนี่ก็เปรี้ยวตาตื่นสดชื่นสุด ๆ เป็นเจลลาโตที่ทำถึงเกินคุณน้า

อ่างเก็บน้ำบางพระ

กอบเก็บความเย็นเข้าร่างเรียบร้อย ก็ได้เวลาสวมบทนายแบบหามุมถ่ายรูปกันต่อที่ ‘อ่างเก็บน้ำบางพระ’ ด้วยความที่ดินดีน้ำถึงจึงมีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแมกไม้ มองออกไปเจอกับวิวอ่างเก็บน้ำกว้างไกล มีภูเขาลูกใหญ่เป็นฉากหลัง นี่แหละคือภาพธรรมชาติในอุดมคติ เหมาะสมแก่การมาพักผ่อนหย่อนใจ วิ่งออกกำลังกาย นั่งปิกนิก แต่ที่เลิศสุดคือเส้นถนนตรงยาวเลาะเนินเขาและริมน้ำ มีป้ายสัญญาณฟอร์มคิวต์ให้เราชักภาพมินิมอลสไตล์ญี่ปุ่นมาลงสตอรีได้รัว ๆ และถ้ามาช่วงกุมภาพันธ์-มีนาคมก็จะได้เจอกับถนนสายดอกไม้บานสะพรั่งไปด้วยดอกเสลา เป็นบรรยากาศที่สวยระเบิดโซเชียลไปเลย

ขับมาเกือบจบทริปเราพบทั้งเนินขึ้น-ลง การทำความเร็ว ทางแคบเลี้ยวเยอะ ก็พบว่าสมรรถนะของเครื่องยนต์เขาแจ่มจริง ด้วยความที่เป็นเบนซิน เมื่อทำงามร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าก็จะมีพละกำลังสูงสุดถึง 177 แรงม้า รองรับน้ำมันสูงสุด E20 ปรับโหมดการขับขี่ได้ถึง 3 โหมด (ECO / COMFORT / SPORT) พร้อมระบบ Safety อีกมากมาย จะขับในเมือง หรือออกทริปไกล ๆ ก็สบายหายห่วง

Mother

ขอพามาเช็กอินอีกร้านไอศกรีมโฮมเมดตัวคลอดบุตร ‘Mother’ ที่อยู่ในโซนบางพระเช่นกัน ร้านนี้จะมอบฟีลลิ่งกระท่อมน้อยกลางป่าได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่ภายนอกกับโครงสร้างบ้านทรงจั่วที่มีเถาไม้เลื้อยปกคลุม มีประตูไม้เตี้ย ๆ ปิดไว้อย่างน่ารัก จัดวางโต๊ะเก้าอี้ไม้ทรงคลาสสิกบริเวณด้านหน้า ห้อมล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ที่ขึ้นปกคลุมมากมายแต่ไม่รกรุงรัง ส่วนภายในนั้นดูโฮมมี่สุดใจเน้นโทนขาว ตกแต่งด้วยวัสดุไม้สีค่อนเข้ม มีสเตชั่นชงกาแฟ ตู้ไอศกรีมวาง และเคาน์เตอร์รับออร์เดอร์ตั้งอยู่ในสุด พร้อมแสงธรรมชาติส่องผ่านม่านสีขาวจนได้แสงฟุ้งกระจาย มองแล้วเหมือนภาพในการ์ตูนชัด ๆ 

รสชาติไอศกรีมมีให้เลือกค่อนข้างวาไรตี้ ทั้งเมนูยืนพื้นที่มาเมื่อไหร่ก็เจอ และรสหมุนเวียนที่มาตามฤดูกาล อย่างตอนนี้ก็จะมีทั้งทุเรียน, มะม่วง, เสาวรส บ่งบอกถึงซัมเมอร์ ส่วนใครชอบรสชาติอินเตอร์ ๆ ลองสั่ง Mint oreo, Matcha brownie, Caramel dirty ฯลฯ จัดเสิร์ฟมาในเวเฟอร์ทรงถ้วยกรอบ ๆ หอมกลิ่นเนยรับรู้ถึงความสดใหม่เข้าคู่กับเนื้อเนียนนุ่มหวานละมุนของไอศกรีมได้อย่างดี แล้วถ้าใครหิวเขายังมีอาหาร ของกินเล่นให้เลือกด้วยเช่นกัน 

ก่อนกดปุ่มสตาร์ทรถไปยังพิกัดสุดท้าย อีกอย่างที่ไม่เล่าเลยเห็นจะไม่ได้คือเรื่องของฟังก์ชันการใช้งานในห้องโดยสาร อย่างจอทัชสกรีนที่ใหญ่สะใจ 12.3 นิ้ว เชื่อมกับจอแสดงการขับขี่อีก 12.3 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน Apple CarPlay รองรับระบบ Andriod หน้าตาใช้ง่ายจะเปิดแผนที่ ฟังเพลง หรือคุยโทรศัพท์ก็ใช้เพียงปลายนิ้ว ถัดลงมาจะมี Wireless Charger ที่เป็นแบบ Fast Charge มีช่องเก็บของ ช่องเชื่อมต่อ USB ทั้ง Type A และ C ด้วยเช่นกัน ส่วนห้องโดยสารทุกที่นั่งจะเน้นความกว้างนั่งสบาย ใช้เบาะหนังมอบความรู้สึกพรีเมียมผิวสัมผัสดี มีช่องแอร์ และช่องเสียบ USB สำหรับผู้โดยสารแถวหลัง เรียกได้ว่าสะดวกสบายทุกตำแหน่งที่นั่ง

Takara Cafe’ 

สปอตประจำบางแสนที่ใครยังไม่เคยมาถือว่าเอาต์สุด ๆ ‘Takara Cafe’ คาเฟ่เปี่ยมอัตลักษณ์เฉพาะตัวที่เปิดมาสักพักแต่ก็ยังฮอตไม่มีดรอป กับตัวร้านที่เป็นกระจกรอบด้าน เผยวิวทะเลงาม ๆ ในห้องแอร์เย็นฉ่ำ ส่วนด้านนอกเราจะเห็นภาพสะท้อนของทะเลเป็นมุมถ่ายรูปคูล ๆ ด้วยแบรนด์ที่เริ่มต้นมาจากวงการแฟชั่นจึงมีการตกแต่งที่บ่งบอกถึงความเทสต์ดีทั้งชุดโต๊ะเก้าอี้หลากฟอร์มเป็นอะคริลิกใสบ้าง เป็นหินเนื้องามบ้าง พร้อมโซนวางขายของตั้งแต่กระบอกน้ำ เสื้อผ้า หมวก แต่ละอย่างเก๋ ๆ ทั้งนั้น 

ด้านขนมที่วางอยู่ในตู้แต่ละชิ้นนี่นึกว่างานศิลปะ ไม่คิดว่าจะกินได้จริง ๆ เพราะเขาครีเอตรูปทรงได้สวย แต่ละอย่างจะสื่อถึงบรรยากาศของทะเล อย่างชิ้นที่เราสั่ง The Father Pearl หนึ่งในเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน ส่วนประกอบหลักเป็นลิ้นจี่หวาน ๆ เปรี้ยว ๆ เข้าคู่กับ white chocolate หอมนมหวานละไมได้อย่างดิบดี ยิ่งมีอเมริกาโน่เย็น ๆ เคล้าลมทะเลเอื่อย ๆ รับสัมผัสนุ่ม ๆ ของทรายแบบนี้ยิ่งเลิศ

Badasga Beach Club 

เดินถัดมาสามก้าวจากคาเฟ่ก็เปลี่ยนมู้ดเป็นคลับเฮาส์สุดชิล ‘Badasga Beach Club’ คลับที่มีทั้งร้านอาหารและบาร์ ด้วยความที่เจ้าของแบรนด์เขาขยันคอลแลบเมนูกับแบรนด์ชั้นนำมากมาย จนทำให้กลายเป็นร้านยืนหนึ่งเรื่องการดีไซน์ของบางแสนเลยทีเดียว โดยไวบ์ของร้านจะเป็นความซัมเมอร์ที่สบายตา เก็บรายละเอียดทุกมุมให้ถ่ายรูปได้สวยไม่ซ้ำใคร ทั้งด้านในที่เป็นห้องกระจกเผยวิวทะเลกว้างขวาง เน้นสีขาว ครีม น้ำตาล จัดวางต้นไม้เมืองร้อนฟอร์มสวย ภายใน เติมสีโทนอุ่นอย่างแดง เหลือง ส้มเพิ่มความสดใส ส่วนภายนอกจัดวาง daybed ให้หนุ่มสาวใส่บิกินนีมาสร้างคอนเทนต์ได้ตลอดวัน 

แล้วที่นี่ยังช่วยเติมเต็มทริปเราให้จบไปแบบฟินาเล่ กับภาพพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ค่อย ๆ จมลงสู่ทะเล ทอดแสงสีม่วง ส้ม ทำเราอาลัยอาวรณ์โมเมนต์นี้ได้ทุกครั้งที่เจอ แล้วยิ่งมีระเบียงกระจก บันไดทางลงสู่ทะเล และป้ายเตือนแบบนี้ก็ยิ่งทำให้ภาพของเราดูอินเตอร์ขี้นอีกหลายเท่าตัวเลย

ไม่เสียแรงที่หมั่นอวยหมั่นชมบางแสนมาตลอด เวลาใครถามถึงที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ บางแสนคือชอยซ์แรกที่เราแนะนำเสมอ มีความเหมาะสมกับคนเมืองที่อยากพักผ่อน แต่มีเวลาจำกัด เพราะมีทั้งความสงบที่ไม่เงียบจนเกินไป มีความสะดวกสบายเหมาะกับคนทุกช่วงอายุ ยิ่งมียานพาหนะที่ดีพร้อมนำพาเราลุยไปทุกที่ก็ยิ่งคอมพลีตทริปของเราให้ดียิ่งขึ้น ต้องขอบคุณ NEW MG VS HEV รุ่น 100th ANNIVERSARY SPECIAL EDITION อีกครั้งที่ช่วยพาเราไปอัปเดตจุดเช็กอินในบางแสน แถมยังเป็นพร็อปให้เราได้ภาพสวย ๆ มาฝากกันด้วย