รีวิวระยอง ::The Best Workation Destination in Rayong “Koh Samet”

คนชอบเที่ยวแต่ก็ชอบหอบหิ้วงานไปทําด้วยแบบเราเชิญทางนี้!!!

เช็คอินระยองรอบนี้ … เราขอมาแนะนำจุดหมายปลายทางที่ควรค่าแก่การ Workation ฉบับคนรักงาน แบบเก๋ ๆ บนเกาะแสนสงบที่ครบทุกความสะดวกสบาย แถมอยู่ใกล้กรุงเทพฯ แค่เอื้อม “Koh Samet” เพชรเม็ดงามแห่งอ่าวไทย เกาะที่เต็มไปด้วยความน่ารักของผู้คนและธรรมชาติ ครบเครื่องทั้งโรงแรมที่อยู่สบายหลายระดับ แถมยังมีมุมเปิดคอมนั่งทํางานท่ามกลางวิวสุดแกรนด์ พอเริ่มเครียดก็เดินตรงเข้าสปา เรียกเหงื่อทํากิจกรรมริมชายหาดแบบสดชื่น พร้อมเติมคาเฟอีนให้ตื่นด้วยการออกไปฮอปคาเฟ่แบบชิค ๆ เช็กอินร้านอาหารอร่อย ๆ ก่อนปิดท้ายวันอย่างงดงามด้วยการชมวิวพระอาทิตย์ตกดินแบบฟิน ๆ บอกเลยว่า 3 วัน 2 คืนบนเกาะเสม็ดต่อจากนี้ การันตีความฟินได้ครบทั้งงานที่ทำเสร็จแบบคุณภาพ เติมเเพชชั่นและรีชาร์จร่างกายได้อย่างเต็มเปี่ยมแน่นอน ✨

Day 1

01 Sai Kaew Beach Resort

ออกสตาร์ทเดินทางมาถึงท่าเรือช่วง 11.00 โมง พร้อมเช็กอินข้ามเกาะแบบชิล ๆ ไม่ต้องหอบหิ้วกระเป๋าใบใหญ่ให้เปลืองแรง เพราะเราเลือกเช็กอินกับ “Sai Kaew Beach Resort” โรงแรมสวยติดหาดทรายแก้ว ที่เค้าบริการครบเครื่องตั้งแต่ก่อนข้ามฝั่ง เพราะมีจุดบริการที่จอดรถ เรือข้ามเกาะ พร้อมดูแลกระเป๋าส่งถึงมือที่ห้องพักในโรงแรม

สำหรับโรงแรมที่เราเลือกมาพักผ่อนตลอดทั้งทริปครั้งนี้ เขาจะตกแต่งโดยเน้นไปที่สีแนวเอิร์ทโทน แต่งแต้มสีสันด้วยสีส้ม แดงให้รู้สึกสดชื่น และมีให้เลือกหลากหลายไทป์หลายโซน ตั้งแต่บังกะโลวิวสวนสุดร่มรื่น ห้องดีลักซ์สะดวกสบายบนอาคาร ไปจนถึงวิลล่าติดสระว่ายน้ำ ที่เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงชายหาดสีขาวนุ่ม แต่เราขอเลือกพักเป็นแบบ Poolside Villa กับเพื่อนสาว ที่มาพร้อมเตียงใหญ่แบบคิงไซส์น่านอน และห้องน้ำใหญ่พร้อมอ่างจากุชชี่ ที่กั้นและแบ่งสัดส่วนด้วยกระจกใสบานใหญ่สุดอลังการ ที่ชอบก็คือเดินออกมาก็โดดลงสระว่ายน้ำทำคอนเทนต์ได้อีกหนึ่งกรุบ

ใครที่ชอบความสะดวกสบาย เน้นพักผ่อนออกไปทำกิจรรม ที่นี่คงเป็นคำตอบที่ดีไม่น้อย เพราะนอกจากความสะอาดและบริการสุดจริงใจของพนักงานที่ฉีกยิ้มกว้างให้เราทุกที่ที่เจอรอบโรงแรม ที่นี่เค้ายังมีสปอตถ่ายรูปสวย ๆ ร้านอาหาร และคาเฟ่เริศ ๆ  ที่ตอบโจทย์คนพกงานมาทำด้วยแบบเราเป็นที่สุด

02 ต้นไม้รูปหัวใจ หาดสัปปะรด

หลังเช็กอินเข้าห้องพัก เปิดคอมออกมาทำงานกรุบกริบ สายคอนเทนต์อย่างเราก็ต้องขอว้าปไปตามหาพิกัดถ่ายรูปสวย ๆ บริเวณหาดด้านหลังโรงแรม อีกหนึ่งโซนเงียบสงบ พร้อมกับมุมถ่ายรูปสุดน่ารักและโรแมนติกอย่างต้นไม้รูปหัวใจ ที่มีวิวทะเลสีฟ้าครามเป็นฉากหลัง ราวกับนี่คือผืนผ้าใบศิลปะ ที่รอเราเป็นพระเอกเข้าไปโพสท่าสวยอัพลงไอจี ซึ่งตรงนี้ถือเป็นมุมยอดฮิตที่คนมักนิยมมาขอแต่งงาน หรือจัดงานแต่งริมทะเล เพราะเป็นจุดชมวิวที่ชิคที่สุดแห่งหนึ่งบนเกาะเลยก็ว่าได้

03 Buzz Coco Club

ถ่ายรูปพอกรุบกริบ เราขอแจกพิกัดฝากท้องที่อร่อยเลิศแบบได้ภาพสวยตามประสาคนรักการถ่ายรูปกันที่ ‘Buzz Coco Club’ ร้านอาหารและคาเฟ่ริมอ่าวพร้าว อีกหนึ่งหาดสวยน้ำใสสุดโรแมนติกที่เพื่อน ๆ สามารถโบกรถสองแถวแท็กซี่มาที่นี่แบบชิล ๆ ได้เลย และทันทีที่รถจอดก็ต้องร้องว้าวกับความเก๋ไก๋ของร้าน ที่ตกแต่งในโทนสีชมพูสดใส และเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบบีชคลับสไตล์ Tropical Beach พร้อมมุมถ่ายรูปมากมายที่เค้าเซ็ตไว้ให้นั่งชิลในบรรยากาศดีติดริมทะเล ไม่ว่าจะเป็นโซนบีนเเบ็คริมหาด นั่งเอนหลังเอาเท้าสัมผัสทรายผ่อนคลายไปกับเสียงคลื่นแบบใกล้ชิด ถัดมาเป็นโซนนั่งชิลในเปลญวนที่ผูกติดกับต้นไม้ อิ่มท้องแล้วนั่งจิบเครื่องดื่มสดชื่นกับหนังสือดี ๆ สักเล่มก็ผลอยหลับตรงนี้ได้เลย และโซนในร้านที่มาพร้อมโซฟาหนานุ่มให้หลบร้อนเข้ามานั่งพักผ่อนทานข้าวในแอร์เย็น ๆ ก่อนออกไปเติมความสดชื่นกับมุมสวยน่าถ่ายรูปที่ทางร้านจัดเตรียมไว้

มาถึงแล้วเราขอแนะนำ ‘ก๋วยเตี๋ยวคลุกกากหมู’ สุดแซ่บที่เส้นเหนียวนุ่มกำลังดีผัดเข้ากับกากหมูกรุบกรอบ และความเผ็ดที่ลงตัว ถัดมาเป็น ‘ข้าวผัดสับปะรด’ รสหวานกลอมกล่อมสไตล์ทรอปิคอล ‘ตำสตอร์เบอร์รีกะปิ’ หวานฉ่ำแบบไม่ทิ้งลายความแซ่บแบบไทย ๆ ก่อนจะปิดท้ายด้วย ‘ไอศครีมมะพร้าว’ หวานหอมที่อร่อยจนต้องขอเบิ้ลสอง

นอกจากอาหารอร่อย ๆ แบบ Tropical Comfort Food ที่นี่ยังเสิร์ฟเครื่องดื่มสุดครีเอต มาครบทั้งม็อกเทล ค็อกเทลสีสวย และสมูทตี้สดชื่นที่กำลังฮอตฮิต ที่นอกจากอร่อยยังเป็นพร็อพเก๋ ๆ ให้สาว ๆ แบบเราถ่ายรูปได้อีก

04 จุดชมวิวท้ายเกาะ อ่าวปะการัง

พอเย็นย่ำใกล้ค่ำ ก็ได้เวลาที่เราจะออกไปทำกิจกรรมที่ห้ามพลาดบนเกาะ อย่างการชมพระอาทิตย์ตกดินที่จุดชมวิวริมสุดของหาด เราเลือกมาเดินชิลรอบ ‘จุดชมวิวท้ายเกาะ อ่าวปะการัง’ ฟังเสียงสายลมกระทบไบไม้ เดินชมโขดหินรูปร่างประหลาด ที่ชวนให้จินตนาการไปเรื่อยเปื่อยระหว่างรอพระอาทิตยาลับขอบฟ้า

บริเวณจุดชมวิวจะเป็นแหลมยื่นออกไปกลางทะเล แนะนำให้เริ่มออกสตาร์ทจากทางฝั่งสะพาน แล้วค่อย ๆ เดินลัดเลาะมายังโซนหินรูปร่างแปลกตา จะถึงโซนเนินหินอ่าวปะการังช่วงพระอาทิตย์ตกพอดีแบบไม่วกไปวนมา สำหรับการเดินทางมาที่นี่สามารถเช่ามอเตอร์ไซค์ หรือโบกสองแถวมาได้ แต่แนะนำให้มาตั้งแต่ช่วงแดดร่มลมตกสัก 16.30 เป็นต้นไปกำลังดี อากาศจะได้ไม่ร้อนมาก แถมได้แสงสวยพอดี (ช่วง 18.30 น. เป็นต้นไปฟ้าจะเริ่มมืด และคนทยอยเดินกลับพอดี)

และแล้วก็สมการรอคอยชมพระอาทิตย์ที่ทอดตัวกลับสู่ท้องทะเล จังหวะแสงส่องแสงสีทองกระทบผิวน้ำระยิบระยับนั้นสวยงาม ให้ฟีลเหงาแต่อบอุ่นไปพร้อม ๆ กัน เป็นโมเมนต์ความสุขเพียงชั่วครู่ ที่อยากยืดเวลาให้นาฬิกาของวันนี้เดินช้าลงกว่านี้อีกหน่อย เพราะช่วงเวลานี้มันดีเหลือเกิน

05 Winkks Beach Club

ตกเย็นเราก็ไม่พลาด แจกพิกัดดินเนอร์ทานอาหารเย็นกันที่ ‘Winkks Beach Club’ ที่เป็นทั้งห้องอาหารริมทะเลที่สามารถแวะมาทานได้ทั้งตอนกลางวัน และดินเนอร์รับลมทะเลช่วงกลางคืน ความพิเศษคือดีไซน์ร้านสุดมินิมัล และการเลือกเฟอร์นิเจอร์ไม้แมชเข้ากับโทนสีขาวสะอาดตา โดยเฉพาะร่มและบีนแบคสีขาวริมทะเลที่ตะโกนออกมาว่า นี่หล่ะ ๆ ถูกต้อง! เพราะสวยสะดุดตาจนนึกว่าอยู่ทะเลที่ต่างประเทศ ฟีลดีจนต้องยกกล้องขึ้นมาถ่ายรัว ๆ เมื่อมองลงไปเห็นวิวทะเลสวยที่ไล่เรียงโทนสีเป็นพาเลทสวยด้านหลัง ก็ยิ่งทำให้รู้สึกผ่อนคลายและทานอาหารอร่อยขึ้นมาอีกสิบเท่า!

ความเก๋เค้ายังไม่หมดเพราะที่นี่เสิร์ฟอาหารนานาชาติ ไล่เรียงมาให้เลือกทั้งซีฟู้ด อาหารไทย อาหารยุโรป ของคาว ของหวาน และเครื่องดื่ม ครบจบจนต้องยกให้เป็นอีกหนึ่งบีชคลับติดหาดที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งเลย ขอแนะนำเมนูไฮไลต์ที่เราสั่งมาวันนี้ ได้แก่ ยำแซลมอนแซ่บจี๊ดจ๊าดน้ำลายสอ ตัดกับปีกไก่ซอสน้ำปลากรอบนอกนุ่มใน ต่อด้วยปูนิ่มผัดผงกะหรี่เนื้อปูนุ่มแบบฟิน ๆ  กุ้งผัดพริกเกลือตัวใหญ่ไซส์เต็มปากเต็มคำ และวองโกเล่เส้นเหนียวหนุบหนับที่ให้หอยมาแบบจัดเต็ม

ไฮไลต์ยังไม่หมด เพราะระหว่างทานอาหารที่เคล้าคลอด้วยเสียงเพลงเพราะ ๆ แบบ Live Music สไตล์แจ๊สแบบจึ้ง ๆ ก็สลับมาแจกความตื่นเต้นเร้าใจด้วยโชว์ควงกระบองไฟสนุก ๆ ที่ทำเอาเราลุ้นไป ตื่นเต้นไป โดยเฉพาะการบรรเลงไฟเข้าจังหวะเพลงริมหาดให้เป็นประกายไฟ ชุดใหญ่ไฟกระพริบ อีกหนึ่งกิจกรรมยอดฮิตสุดประทับใจ ที่ใครพลาดถือว่ามาไม่ถึงเกาะเสม็ด!

Day 2

06 Scoop Garden

ตื่นเช้ามาด้วยความสดใส ขอเปิดประเดิมเติมความสดชื่นด้วยของหวานอย่างไอศครีมโฮมเมดที่ ‘Scoop Garden’ คาเฟ่น่ารัก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางความเงียบสงบใกล้ ๆ หาดทรายแก้ว อากาศดีพร้อมร่มเงาของต้นไม้ที่บดบังความร้อนที่บริเวณหน้าคาเฟ่ เหมาะแก่การเปิดคอมออกมาปั่นงานและลิ้มรสความหวานหอมของไอศครีมไปพร้อม ๆ กัน

ไฮไลต์ของที่นี่นอกจากความน่ารักจนใจเจ็บของคาเฟ่สุดกระทัดรัด ที่มาพร้อมมุมถ่ายรูปสวย ๆ ฟิลแคมป์ปิ้งท่ามกลางแมกไม้ ก็คือไอศครีมโฮมเมดพร้อมรสชาติให้เลือกกว่า 10 รสชาติ ไม่ว่าจะเป็นคาราเมล สตอร์เบอร์รีซอร์เบท โรเซ่ ช้อกโกแลตเข้มข้น ฯลฯ สลับสับเปลี่ยนกันไปในแต่ละวัน เสิร์ฟในโคน วาฟเฟิล และแซนด์วิช ตกแต่งจัดเต็มด้วยท็อปปปิ้งสุดคิวต์ ทั้งอัลมอนด์ วิปครีม กราโนล่า สตอร์เบอร์รีสด ไปจนถึงเกร็ดน้ำตาลกระจุกกระจิก ส่วนใครที่มองเป็นเมนูเครื่องดื่มเขาก็มีเมนูกาแฟ และโฟลตกับมิลก์เชกให้เลือกอีกด้วย

07 ดำน้ำดูประการังที่อ่าวลุงดำและอ่าวปะการัง

พอคล้อยบ่ายแดดอ่อนลงส่องประกายสวยงามกำลังดี กิจกรรมที่ใคร ๆ ก็ต้องทำกันหากมาทะเลในยุคนี้ คงหนีไม่พ้นการออกไปดำน้ำที่จะทำให้เราได้ใกล้ชิดกับฝูงปลาและเหล่าประการังแห่งผืนทะเลนี้มากยิ่งขึ้น ได้เวลาปล่อยจอยปล่อยใจ ใช้เวลาไปกับผืนทะเลกว้างสุดสายตาแบบไม่ต้องแคร์เสียงไลน์ เฟสบุ๊คแจ้งเตือน แค่ได้ตัดทุกช่องทางโซเชียลออกไปเงี่ยหูฟังเสียงรอบตัวจากธรรมชาติก็ทำให้เราได้ยินเสียงในหัวใจของตัวเองได้ชัดเจนมากขึ้น

ทริปนี้เราขอล่องเรือกับ เรือเร็ว สปีดโบ๊ทข้ามเกาะเสม็ด By NEVER SEA พี่กิ๊ฟพี่กอล์ฟสตาฟสุดใจดี พาออกไปชมความสวยงามของบริเวณเกาะรอบ ๆ ไม่ว่าจะเป็น เกาะเสม็ด เกาะทะลุ เกาะกุฎี เกาะกรวย ถ่ายรูปสวยกับหินขาวกลางทะเล ฟินกับความอลังการของภูเขาแถบอ่าวปะการัง และแวะดำน้ำดูประการังที่อ่าวลุงดำ (โปรแกรมแล้วแต่เราจะเลือก ช่วงฤดูกาลอนุรักษ์เกาะ และขึ้นอยู่สภาพอากาศของแต่ละช่วงอีกที) แถมยังแนะนำท่าโพสโชว์หุ่นสวย และมุมถ่ายรูปบนเรือแบบจัดเต็ม พร้อมถ่ายรูปให้ทั้งบนเรือและใต้น้ำสไตล์อินฟูตัวแม่มาเอง

สายเที่ยวแบบเราจะกี่ลมร้อน กี่องศาก็ต้องพร้อมสู้ เพราะยิ่งแดดดีภาพที่ได้ก็ยิ่งสวย โดยเฉพาะหินขาวกลางทะเล ที่สวยงามจนต้องออกไปโพสท่าสวยรับลมทะเลกับเพื่อนซี้ก่อนตัวเปียก แต่ที่ต้องยกให้โซนที่ประทับใจคือ อ่าวลุงดำ และอ่าวปะการังที่มองเห็นภูเขาลูกใหญ่อลังการที่เรามาเดินเล่นช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ตัดกับผืนน้ำสีฟ้าใสที่มองลงไปเห็นเหล่าประการัง กัลปังหา และฝูงปลาแหวกหวายไปมา อย่าง ปลาการ์ตูน ปลานกแก้ว หอยมือเสือ ฯลฯ ที่เป็นสีสันแห่งท้องทะเล ซึ่งใครถนัดดำน้ำแบบไหนก็เลือกได้ทั้งหน้ากากแบบใหม่ ที่ลอยตัวดำน้ำดูปลาแบบชิล ๆ และหน้ากากสน็อกเกิลแบบเท่ ๆ ให้คว้าฟินยาวลงไปถ่ายรูปงาม ๆ คู่กับฝูงปลา

นอกจากการได้ดำน้ำดูประการังสวย ๆ รอบเกาะเสม็ด กิจกรรมฮีลใจที่ทำให้รู้สึกใกล้ชิดและซึมซับดื่มด่ำไปกับธรรมชาติ คือการได้ออกแรงพายซับบอร์ดนอนมองฟ้าที่ใจกลางทะเล แล้วความดีงามคือเรือที่พาไปดำน้ำของเราวันนี้เขามีมีซัพบอร์ดลายเท่ติดมาให้เราคว้าไม้ลงไปนั่งพาย ยืนพาย นอนสยายผมอาบแดดอุ่น ๆ ด้วย แน่นอนว่ามันฟินม๊ากกก! ยิ่งกว่าพายริมหาด เพราะเราจะได้ปล่อยจอยปล่อยใจไปกับความกว้างสุดลูกหูลุกตาของผืนน้ำ และวิวสวยของธรรมชาติรอบ ๆ เกาะเสม็ดได้แบบไม่มีเบื่อ

ดำน้ำจนฟินก็ได้เวลาขึ้นเรือมากินอาหารทะเลสด ๆ จากทะเล ที่ทางเรือได้จัดเตรียมไว้ให้ อย่างปลากะพงข้างปาน เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำแบบสด ๆ ราดน้ำจิ้มซีฟู้ด ปลาหมึกบั้งและเอ็นหอยจอบตัวใหญ่ ที่หาทานยากเพราะต้องดำลงไปเดินเก็บใต้น้ำขึ้นมา ให้รสชาติที่หวาน หอมกลิ่นทะเลแบบเต็มคำปิดทริปดำน้ำและพักผ่อนแบบสวยงาม ใครที่สนใจก็กดเข้าเพจจองทัวร์ดำน้ำแล้วรอรูปสวย ๆ แบบเราได้เลย

Day 3

08 Saikaew Wellness Center

ก่อนโบกมือบ๊ายายเกาะเสม็ด เราขอฝากคอบ่าไหล่ไว้ให้พี่ ๆ ทีมนวดของโรงแรม ลงไม้ลงมือลงน้ำหนักแบบจัดเต็ม ด้วยการนวดผ่อนคลายก่อนกลับบ้านไว้ที่ ‘Saikaew Wellness Center’ ของทรายแก้วบีชรีสอร์ท ที่มีทั้งบริการนวดทรีตเมนต์ และนวดตัวผ่อนคลาย โดยเฉพาะอาการปวดเมื่อยแบบออฟฟิศซินโดรม ที่ชาวออฟฟิศทุกคนต้องเจอกันทุกคน ขอแนะนำแพ็คเกจ Thai Massage 60 นาที, Thai Herbal Cpmpass และ Upper Body Massage ที่นวดน้ำมันลงบนจุดเฉพาะที่เราเมื่อยล้าและใช้กล้ามเนื้อเยอะเป็นพิเศษ ซึ่งที่นี่เค้ายังใช้สมุนไพรและอโรม่าออยหอม ๆ ละมุน นวดให้เราผ่อนคลายได้ดีอีกด้วย

09 Laem Yah Rayong Surf Club 

โบกมือบ๊ายายเกาะเสม็ด เราขอชวนกลับเข้าฝั่งมาเช็กอินสปอตประจำระยอง ที่ถูกใจคนรักทะเลกันต่อที่ ‘Laem Yah Rayong Surf Club’ เซิร์ฟคลับริมหาดแม่รำพึง ที่ทำให้ทุกคนตะลึงว่าหาดแม่รำพึงก็เซิร์ฟได้แบบไม่ต้องไปไกลถึงภาคใต้! ทะเลใกล้เมืองกรุงอย่างระยอง ก็มีคลื่นลูกสวย ๆ ให้เราคว้ากระดานลงไปโต้คลื่นกับเค้าได้เหมือนกัน เเถมยังมีคอร์สเรียนฝึกสกิลตั้งแต่ขั้นพื้นฐานโดยครูผู้เชี่ยวชาญแบบตัวต่อตัว ตั้งแต่บนบกจนเข้าที่เข้าทาง ถึงจะปล่อยลงทะเลไปฝึกปีกให้กล้าฝึกขาให้แข็งจนฉ่ำใจด้วยตัวเอง ส่วนใครที่มีสกิลติดตัวก็สามารถเช่าบอร์ดโดดลงน้ำโต้คลื่นได้ทันที ช่วงวันหยุดตรงข้ามถนนหน้าหาดก็จะมีร้านอาหาร คาเฟ่เรียงราย หรือใครอยากขับรถชิล ๆ หามุมถ่ายรูปเลียบชายหาดก็ไม่ติด เพราะเค้ามีมุมถ่ายรูปสวย ๆ เยอะมาก ทั้งต้นมะพร้าวเล็ก ๆ ใหญ่และโขดหินที่ยื่นออกไปนอกทะเลเพียบ

010 Lisc Cafe & Surf Shop

ส่วนเราขอแวะเช็กอินคาเฟ่ จิบกาแฟและช้อปปิ้งแบบเบา ๆ ก่อนกลับกรุงเทพฯ กันที่ร้าน ‘Lisc Cafe & Surf Shop’ ที่เป็นทั้งคาเฟ่เก๋ ๆ เสิร์ฟกาแฟคุณภาพ และไลฟ์สไตล์ช็อปตอนกลางวัน และบาร์เท่ ๆ ที่ให้จิบค็อกเทล ไวน์ ฟังเพลงชิล ๆ ในช่วงวันหยุดและศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ซึ่งด้านในร้านก็มีมุมช้อปปิ้งเท่ ๆ อย่างพวกครีมกันแดด ฟินเซิร์ฟบอร์ด และเเอคเซสซอรีสุดคราฟต์สไตล์บีชบอยบีชเกิล ให้เลือกสรรมิกซ์แอนด์แมชลุคเก๋เท่ไว้เดินเล่นริมทะเล

011 จุดชมวิวสกายวอร์ค เขาแหลมหญ้า

ส่วนใครที่มาระยอง เค้ายังมีอีกหนึ่งจุดเช็กอินห้ามพลาดที่ตอนนี้อัพเดตโซนใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิม ให้เราเช็กอินอีกกี่ครั้งก็ยังไม่เบื่ออย่าง ‘เขาแหลมหญ้าพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จุดชมวิวที่ใคร ๆ ต่างก็บอกว่าเด็ด ทั้งวิวทะเลที่สวยสะอาดตา ด้านหลังยังเป็นทิวเขาเขียวขจีที่ทอดตัวยาวท่ามกลางทุ่งหญ้าสีทอง ซึ่งเป็นเอกลักษ์เฉพาะตัวของที่นี่จะแวะมาเดินเล่นชมพระอาทิตย์ตกดินช่วงเย็น หรือปักหลักตั้งแคมป์กางเต็นท์ นอนดูดาว ฟังเสียงคลื่นแบบข้ามคืนก็ดีต่อใจไม่แพ้กัน

นอกจากแลนด์มาร์คมุมฮิตห้ามพลาดอย่าง หอคอยไม้เล็ก ๆ สีขาว ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนปลายทางเดินที่ยื่นลงไปในทะเล และมองเห็นเกาะเสม็ดอยู่ไกล ๆ แล้ว เค้ายังมีมุมใหม่มาอัพเดตสายเที่ยวสายถ่ายรูปกันที่บริเวณเส้นทางศึกษาธรรมชาติเลียบทะเล ที่ตอนนี้มีมุมกระจกใสทอดยาว และสกายวอร์คที่ยื่นออกไปในทะเลให้เรายืนรับลมชมวิวแบบพาโรนามา ที่สวยจนทิ้งความเหนื่อยล้าและคลายร้อนไปในทันที เพราะความสวยงามของป่าไม้ ภูเขา และท้องทะเล กำลังพัดพาความสุขเข้ามาจนชุ่มชื้นไปทั้งหัวใจ ปิดท้ายทริปไปกับความประทับใจของแสงทองที่ส่องประกายวิบวับลงบนผืนน้ำเหมือนกำลังโบกมือบ๊ายบายลา รอให้เรากลับมาเที่ยวที่นี่อีกครั้งนึง

012 บ้านพลอยสี

ก่อนทิ้งท้ายกันไป ใครที่ยังไม่โดนใจกับโรงแรมที่เราพัก เรายังมีอีก 2 ตัวเลือกเลอค่าบนเกาะเสม็ดที่ทั้งสวยและสะดวกสบายมาแนะนำ เริ่มจาก “บ้านพลอยสี” โรงแรมสวยสไตล์ Eco-Chic บนอ่าวกลางที่เงียบสงบบนเกาะเสม็ด ที่เห็นภาพแล้วต้องร้องอ๋ออออ กับห้องพักไม้สไตล์โคซี่ที่ทั้งเก๋และคลาสสิก และสระว่ายน้ำ Infinity pool สีส้มไม่เหมือนใคร ที่ทอดยาวขนานไปกับชายฝั่งให้เราได้แหวกว่าย พร้อมกินลมชมวิว อาบแดดและนั่งพักผ่อนพร้อมจิบเครื่องดื่มเย็นสดชื่น พร้อมยืนมองทัศนียภาพท้องทะเลสวยของอ่าวกลางแบบไม่มีอะไรบดบัง แถมที่นี่ยังเงียบสงบ เพราะมีห้องพักเพียง 16 ห้องเท่านั้น! ใครที่ต้องการสมาธิในการทำงาน Workation นี้ต้องแวะมาพักที่นี่เลย

013 อ่าวพร้าวรีสอร์ท

อีกหนึ่งรีสอร์ทที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้กับ ‘อ่าวพร้าวรีสอร์ท’ แบบ 4 ดาว ที่อยู่คู่เกาะเสม็ดมากว่า 20 ปี แต่รักเราไม่เก่าเลย เพราะเค้าอัพเดตบริการและดีไซน์ของที่พักแบบบ้านไม้สไตล์เรียบหรูท่ามกลางธรรมชาติเอาไว้ให้เราติดเกาะแบบฟิน ๆ ความดีงามคือภายในห้องพักกว้างขวางสะอาดตาแบบ Tropical Style แล้วยังมองออกนอกหน้าต่างออกไปเห็นทะเลกว้างสุดสายตา ให้นั่งทำงานไปมองวิวไปแบบเพลินตาเพลินใจ โดยเฉพาะทะเลฝั่งอ่าวพร้าวที่ไม่มีวิวอะไรมาบดบังให้กวนใจ แต่เป็นทะเลสีฟ้าครามที่พัดพาคลื่นแห่งความสุขเข้ามาต่างหาก

บอกเลยว่า ‘เกาะเสม็ด’ เป็นเหมือนเพชรเม็ดงามแห่งอ่าวไทย ที่เต็มไปด้วยความน่ารักของผู้คนและธรรมชาติ ครบเครื่องทั้งโรงแรมที่อยู่สบายหลายระดับ การได้มา Workation แบบ 3 วัน 2 คืน เป็นเหมือนแหล่งชาร์ตพลังงานชั้นยอดที่เราต้องขอยกนิ้วให้จริง ๆ เพราะนอกจากได้รับ Vitamin Sea ทางใจอย่างเต็มอิ่ม การหอบงานมานั่งทำก็ไม่ใช่เรื่องแย่ แต่ได้เปลี่ยนบรรยากาศและเติมใจให้ฟูไปกับเสียงคลื่นทะเล สายลมเย็น ๆ และธรรมชาติรอบตัวที่ฮีลใจให้เราได้มีแพชชั่นและกำลังใจทำงานต่อไป ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวในซีซันนี้ อย่าลืมกดเซฟลิสต์ ‘เกาะเสม็ด และจังหวัดระยอง’ ไว้ในดวงใจ ที่สำคัญอย่าลืมทำงานจนลืมเงยหน้ามาชมความสวยงามของพระอาทิตย์ตกดินกันด้วยน้าา