Koh Mak && Koh Kham :: พักผ่อนชิวๆ วันหยุดสุดสัปดาห์กับทะเลภาคตะวันออก

อโลฮ่าซัมเมอร์! พรรคนี้ไม่รู้จะไปไหน ไปพักใจที่ทะเลกันดีกว่า

แดดจ้าจนเหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง แสงก็แรง รังสีก็อบอวล ได้เวลาชวนแก๊งเพื่อนเลื่อนรถ ขยับตัวออกไปเริงร่าท้าแดดในธีม “แรงนักหรอ แน่จริงก็มาเด่” จัดชุดสวยผ้าสบายอย่างคอตตอน เรยอน ลินิน ของ Mc Resort Colletion 2019 รวมถึงพร็อพให้แน่น ทั้งแว่นตาอันใหญ่เท่าไข่ไก่เบอร์0 หมวกปีกกว้าง และอีกมากมายจนคล้ายจะย้ายบ้านไปอยู่ที่ทะเล จัดหาท่าโพสเท่ๆ ไปเที่ยวเก๋ๆ ที่จังหวัดตราด บนเกาะหมากและเกาะขามที่น้ำงามเยี่ยงเพชรน้ำหนึ่ง!!! ที่ใครไปถึงเป็นต้องติดใจ จะนอนเงยหน้าท้าแดดจนผิวแทน หรือจะนอนทับแขนจิกขาทำท่าเซกซี่ก็สวยดีโดยเฉพาะแบ็คกราวน์ที่ด้านหลัง หรือจะนั่งมองธรรมชาติที่สวยสุดสายตา จะบอกว่าดีจนน้ำตาจะไหลขอแชร์ได้มั้ยคะ จะมองไปทางไหนก็ดูสบายตา น้ำฟ้า ป่าเขียว ทรายขาว ฟ้าฟ้า!!! จะรออะไรกันนักหนา ตามมาเลยจ้าแม่คุ๊ณณณณณ ณณ ณ

รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม!! ในส่วนของเกาะหมากที่เรากำลังจะพาพวกแกไปเที่ยวนั้น นางคือเกาะที่มีพื้นที่ทั้งหมดราว 9000 ไร่ และใหญ่เป็นอันดับสี่ของเมืองไทย ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดตราด อยู่ระหว่างเกาะช้างและเกาะกูด บ้านใกล้เรือนเคียงที่แสนโด่งดัง แต่สิ่งที่ทำให้เกาะหมากได้รับการขนานนามว่าเป็นเกาะสวรรค์แห่งภาคตะวันออก ก็เพราะว่าที่นี่ยังเต็มไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์และมีการเปลี่ยนแปลงน้อยมากเมื่อเทียบกับเกาะอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิตของชาวบ้านที่ยังเน้นการทำสวนผลไม้ สวนมะพร้าว และสวนยาง ระบบนิเวศต่างๆ จึงยังมีความดิบให้ธรรมชาติได้เติบโตแบบฟรีสไตล์ เราเลยมาที่นี่เพื่อชื่นชมฟ้าสวยๆ น้ำทะเลใสๆ สูดหายใจได้เต็มปอดแบบชิวๆ

ท้องฟ้าป่าเขาพร้อมต้อนรับเราด้วยบรรยากาศดีๆ ในฐานะผู้ไปเยือนที่แสนดีเราย่อมต้องมีของตอบแทน งานนี้เลยขอจัดชุดสวยๆ แบบไม่ได้อวยกันเองจาก Mc Jeans Resort Collection 2019 ที่สวยสะดุด พร้อมจะหยุดทุกสายตา สวยเย้ยฟ้า ท้าดิน เพื่อเป็นการให้เกียรติธรรมชาติที่สวยล้ำแทนคำขอบคุณ โดยคอลเลคชั่นนี้มีทั้งผ้าลินินเนื้อผ้าชั้นสูงที่ทั้งสวยใส่สบายกระจายเหงื่อ ผ้าเรยอนที่นุ่มลื่น นุ่มละมุน พริ้วไหวดุจสายน้ำ แถมยังแห้งไวโดนใจใครที่เหงื่อเยอะ และผ้าคอตตอนที่ใส่สบาย ลายฉูดฉาด จะเลือกผ้าแบบไหนก็สวยเฉี่ยวเปรี้ยวปรี้ดไปกับลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ ที่สำคัญเหมาะแก่การสวมใส่ในหน้าร้อนเพื่อนจะได้ไม่ค้อนเพราะเหม็นเปรี้ยว รู้อย่างนี้แล้วก่อนจะไปเที่ยวก็ลองเลี้ยวเข้าไปช้อปปิ้งที่ร้านแม็คยีนส์ได้ทุกสาขา โดยอาจจะหากางเกงยีนส์ขาสั้นสุดเท่มาใส่ทำเก๋ที่ทะเลสักตัวสองตัว แต่ถ้าอยากให้ชัวร์ก็หยิบขายาวสีบลูมาใส่ให้คูลในแนวสตรีท ส่วนใครมาสายเรโทรแค่เพิ่มแว่นตาวินเทจกับหมวกสีเข้มรับรองเด่นเกินใคร!!! อ้อ ก่อนออกถ้าขี้เกียจหารองเท้ากับหมวกมาแมทกับเสื้อเก๋ๆ เค้าก็มีขายให้เลือกมาแมทซ์ง่ายๆ ไม่ต้องกลัวหลุดธีมด้วยนาจา

เมื่อเสื้อผ้าและหน้าตาดีๆ พร้อมแล้ว ก็ได้เวลาที่เราจะออกเดินทางไปลงเรือข้ามเกาะกันที่ท่าเรือแหลมงอบหรือท่าเรือกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ถึงปั๊บจอดรถแล้วให้มองหาที่ขายตั๋วเรือสปีดโบ๊ทข้ามเกาะที่มีอยู่หลายเจ้า แต่เจ้าที่เราเล็งไว้และจองตั้งแต่ก่อนไปคือเรือของ ‘SEATALES’ ที่ออกจากท่าเรือแหลมงอบไปยังเกาะหมาก 2 รอบต่อวัน คือ เวลา 11.30 น. และ 14.30 น. ส่วนเที่ยวกลับจากเกาะหมากมายังแหลมงอบ คือเวลา 08.30 น. และ 12.30 น. แต่ละรอบใช้เวลาเดินทางประมาณ 45-60 นาที ซึ่งปกติแล้วราคาไป-กลับจะอยู่ที่คนละ 900 บาท แต่ถ้าจองทาง inbox ในเพจ Seatales Kohmak Speedboat ไปก่อนล่วงหน้าแบบเรานั้น จะได้รับโปรโมชั่นส่วนลดเหลือเพียงคนละ 800 บาทโอนลี่ เราจึงขอแนะนำให้จองก่อนไปเพราะถูกกว่ามาซื้อหน้างานแถมไม่ต้องรอลุ้นว่าจะมีที่นั่งมั้ย ในด้านการบริการต้องบอกเลยว่าดี พนักงานน่ารัก คุ้มค่าคุ้มราคาน่าบอกต่อ ถือเป็นความประทับใจแรกที่เราสัมผัสได้จากเกาะหมากเลย

นั่งเรือมาเรื่อยเรื่อยยังไม่ทันได้เผลอหลับเพราะความสวยใสของน้ำทะเลมันดึงดูด เรือก็จอดให้เราลงที่อ่าวนิด แต่ยังไม่ทันที่จะก้าวเท้าลงเรือพนักงานก็ส่งยิ้มหวานมาแต่ไกลเพื่อรอรับกระเป๋าและพาเราเข้าไปเช็คอินในที่พักสไตล์บูทีคสุดอาร์ตที่ชื่อว่า “The Cinnamon Art Resort and Spa” ที่เราเลือกเข้าพักตลอดสามวันสองคืนในครั้งนี้ นอกจากวิวรอบด้านที่สวยงามจนเกินบรรยายแล้วรีสอร์ทแห่งนี้ก็ยังเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รังสรรค์บ้านพักแต่ละหลังให้มีความสงบเป็นส่วนตัวให้ฟิลเหมือนเราได้พักบนเกาะส่วนตัวแต่เพียงผู้เดียวเลยล่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้อง pool hut villa ที่เพียงเปิดม่านมาก็สามารถยืนรับลม ชมชายหาด กวาดสายตาชมความงามได้ทั่วเกาะ จะหาจังหวะเหมาะๆ แล้วโดดลงสระว่ายน้ำส่วนตัว ไปว่ายยั่วๆ แบบไม่ต้องกลัวคนมอง หรือจะลองสับขาเดินไปบนเนินหญ้าโพสท่าระหว่างทางแล้วค่อยหย่อนขาที่สระกลางแจ้ง หรือจะสั่งน้ำส้มผสมแอลกอฮอล์ มาดื่มด่ำขับร้อนให้ชื่นใจ แค่ทำอย่างนี้วนไปในทุกวัน ก็ทำให้เรารู้สึกมีความสุขตลอดระยะเวลาที่พักที่นี่เป็นไหนๆ แล้ว

ไม่ต้องไปค้นฟ้าคว้าดาวเราก็เหมือนเดินอยู่ในความฝันได้เสมอ เพราะที่นี่เค้ามีสะพานไม้กลางทะเลที่ยาวที่สุดในเกาะหมากที่ยาวกว่าครึ่งกิโล มีชื่อสุดเก๋ว่า “สะพานสู่ฝัน” นางทอดยาวจากที่พักสู่ท้องน้ำเบื้องหน้า เหมาะแก่การมาเดินเล่นลั่นล้าท้าลมทะเลพร้อมเสื้อผ้าสุดเก๋ และทำหน้าเท่ๆ แบบไม่กลัวแดดที่แผดเผา จะมาเช้ายาวถึงเย็นเก็บภาพวนไปได้ทั้ง Sun rise และ Sun set ก็ดีเด่นจนต้องขอกล่าวคำคมกาละแมวันนี้ว่า “นั่นสะพานสู่ฝัน นี่ฉันสวรรค์ในใจเธอ” ตึ่งโป๊ะ

พูดแล้วไม่รอช้ารีบคว้าแขนแฟน จิกใช้เพื่อนให้ออกไปยืนกลางแดดเก็บภาพหวานๆ จนน้ำตาลขึ้นตา กระชับเสื้อที่แมทซ์เหมือนกลัวคนไม่รู้ว่ามาเป็นคู่จาก Mc Resort Collection 2019 ลาย tropical aloha อู้วลั่นล้า ด้ายผ้าเรยอนที่นุ่มนวล ทิ้งตัว พลิ้วไหว ลวดลายเจิด จะร้อนแค่ไหนก็ระบายเหงื่อเป็นเลิศออกไปยืนกางแข้งกางขา หันหน้ารับแดด นอนเอกเขนกแบบสุดชิวตั้งแต่แสงบ่ายแก่ๆจนถึงแสงเย็น (ระหว่างวันก็ไปว่ายน้ำ ไปนอน ไปเดินเล่น นั่งสมาธิ เรียนแต่งหน้า ฯลฯ)!!!

แดดร่มลมตกพระอาทิตย์ก็ใกล้จะตกตาม เราเลยตัดสินใจใช้เวลาที่เหลือในเย็นวันนี้นั่งชิวมองวิวพาโนราม่าแบบ 360 องศาบนสะพานสู่ฝัน เก็บภาพต้นไม้ไร้ใบที่อยู่กลางอ่าว เป็นโมเมนต์เล็กๆ สุดท้ายก่อนที่ตะวันจะลับขอบฟ้า และเรียนรู้ว่าสูงต่ำอยู่ที่ทำตัวไส้อั่วอยู่ที่เชียงราย!!! ผิด เราไม่ได้เรียนรู้อะไรหรอก แต่เรารู้สึกมากมายพอๆ กับเฉดสีบนท้องฟ้าที่ค่อยๆเปลี่ยนจากสีฟ้าไปเป็นสีมพูก่อนจะหายไปเป็นสีดำทั่วท้องทะเลแค่นั้นเอง ซึ่งมันคงเป็นความสุขที่ทำให้ใจเราเต้น เอ็นโดรฟิน และขอจาลึกไว้ว่าวันนี้คือ Perfect Day ของเราอีกวันนึงเลยล่ะ

เป็นวัฐจักรปกติของดวงอาทิตย์ที่มีลงแล้วก็ต้องมีขึ้น เช้านี้เมื่อแสงสว่างมาถึงเรารีบดันตัวเองลุกขึ้นจากที่นอนด้วยความตื่นเต้นมาใส่ชุด จัดพร้อบให้พร้อมที่จะออกเดินทางไปอีกเกาะหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าหาดสวยน้ำใสไม่แพ้ใครในโลกของมหาสมุทร และเพราะไม่ใช่แค่ลิงที่มีสิทธิ์คู่กับมะพร้าวทางเราก็เช่นกัน วันใสๆ แบบนี้เราเลยเลือกเชิ้ตผ้าคอตอนลายทางมะพร้าวบวกกับรองเท้า Mc Slip-on มาแมตช์กับหมวกใบเก่งและกระเป๋าใบเก๋าพร้อมก้าวยาวๆ ไปที่ท่าเรือ

ฤกษ์งามยามดีเราก็เดินทางไปยังท่าเรือโคโค่เคป เพื่อนั่งข้ามไปยังเกาะขามในราคา ไป-กลับ 350 บาท หลังจากจ่ายเงินเรียบร้อยเราก็จะได้คูปองคนละใบเพื่อเอาไปแลก Soft Drink บนเกาะขาม โดยเรือของที่นี่เขาจะไม่ได้มีเวลากำหนดตายตัว เราสามารถบอกเวลาที่เราอยากจะข้ามไปได้ ส่วนตอนขากลับค่อยโทรบอกให้เค้าไปรับได้เลย ประมาณ 10 นาที เราก็เดินทางมาถึงเกาะขามพร้อมประโยคสั้นๆ ที่หลุดจากปาก โอ้มายก้อด คือสวยสมกับสมญานามไข่มุกมรกตแห่งทะเลตราดจริงๆ ยิ่งเมื่อได้เดินสำรวจก็การันตีได้เลยว่าทรายที่นี่ขาวละเอียดไม่มีขยะปนเดินแล้วนุ่มเท้าสุดๆ ยิ่งบวกกับสีของน้ำทะเลที่ใสเป็นสีมรกต แนวสันทรายที่ทอดยาวไปในทะเลเหมือนทะเลแหวกขนาดย่อม และกลุ่มหินสีดำที่นักธรณีวิทยา สันนิษฐานว่าเกิดขึ้นเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อนจากการปะทุของปล่องภูเขาแบบที่เราไม่เคยเห็นที่อื่น ยิ่งเหมือนตกหลุมเสน่ห์ของที่นี่เข้าเสียแล้ววววว

ด้วยความที่ที่นี่เป็นเกาะเล็กๆ และเป็นเกาะส่วนตัว จึงไม่มีที่พักและไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรมากนัก จะมีก็แต่เพียงบาร์เครื่องดื่มเล็กๆ ใต้ต้นมะพร้าว ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำไว้คอยท่ายามเราขึ้นจากทะเล กับมุมชิงช้ามุมชายหาดแล้วก็มุมสะพานไม้ที่ยื่นออกไปในทะเลให้เราได้นั่งกุ๊กกิ๊ก ถ่ายรูปก๊อกแก๊ก เดินสัมผัสธรรมชาติ ในแบบที่ไม่ต้องปรุงแต่งแต่ก็กลมกล่อม จนเผลอรัวชัตเตอร์ซะกล้องแทบค้างและเปลี่ยนเมมไปสองการ์ดแต่ก็ยังไม่พอ

เตรียมพร้อบมาแบบเวิ่นเว้อหลายสิบอย่าง บัดนี้ก็ได้เวลาอันเป็นมงคลฤกษ์ ควักเอามาทำเป็นเผลอนั่งปิกนิกริมชายหาดให้ได้ลุคใสๆ หัวใจซาบซ่าเหมาะกับซัมเมอร์ไว้ลงรูปในไอจีแบบฝดใฝวัยไหนก็ช๊อบชอบ ถ่ายเสร็จก็เอเขนกเอนกาย หยิบหนังสือที่ชอบมาอ่าน หยิบหูฟังมาเปิดเพลงที่ชอบคลอไปกับสายลมแสงแดด ถือว่าเป็นอะไรที่ชิวสุด ผ่อนคลายสุด

แดดร่มลมตกเราก็ขอสลัดผ้าลงเล่นน้ำชมความงามของท้องทะเลแบบชิดใกล้ พอเบื่อๆ ก็ยกเรือคายัคออกไปพายอีกสักหน่อย เก็บภาพอีกสองสามแชะเป็นอันถ่ายรูปครบทุกซอกทุกมุมบนเกาะ แล้วก็โทรเรียกเรือจากโคโค่เคปมารับกลับไปฟินกันต่อที่เกาะหมาก

เหยียบเกาะหมากปุ๊บเราก็ตรงดิ่งไปเติมพลังกันที่ TableTales ร้านอาหารบรรยากาศเลิศที่เหมาะจะมานั่งกินจริงจังสั่งเต็มโต๊ะ ที่นี่มีทั้งอาหารไทย ฝรั่ง และซีฟู้ดแบบเน้นเน้น หรือใครแค่จะมานั่งชิลล์กินบรรยากาศเค้าก็มีเครื่องดื่มให้เลือกอยู่มากมาย แต่หิวขนาดนี้แล้วมาริมทะเลทั้งทีเราจึงขอสั่งอาหารซีฟู้ดทั้งหอยเชลล์ตัวโตเนื้อเด้งสดๆจากทะเลราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บ กุ้งอบเกลือ ต้มยำ ทะเลปลาหมึกผัดฉ่า กุ้งชุบแป้งทอด และไข่เจียวปู ที่ตักดูเราต้องร้องอู้หูเพราะไม่รู้ว่านี่คือปูเจียวไข่หรือไข่เจียวปูที่กรอบนอกนุ่มในไข่ใหญ่ปูเยอะ ดีต่อใจกำไรต่อพุง เอาดาวไปสิบดวงเลยจ้าเพราะ อาหารทุกจานสดใหม่สะอาดอร่อยเลอค่า แถมราคาไม่แรงบริการก็ยังน่ารัก เพราะว่าพักอยู่ส่วนไหนของเกาะทางร้านก็มีรถรับส่งฟรีจากทุกรีสอร์ท โอ้วโหหหห สิบ สิบ สิบไปเลยจ้า

วันสุดท้ายมาถึงไวจนใจเสียเพราะทุกวันสุขเวลามักจะเดินเร็วเสมอ เช้านี้เราเลยขอออกตระเวนเก็บความทรงจำบนเกาะแห่งนี้ให้ได้มากที่สุดด้วยการแวะไปเที่ยวตามหาดและอ่าวต่างๆ ที่อยู่รอบเกาะ เราเลยขอจัดชุดที่คิดว่าที่สุดเพราะมันต้องมีมุมให้โพสต์ลงโซเชียลหลายรูปอย่างแน่นอน ผ้าลินินสุดหรูหราพร้อมลายปักสไตล์ซัมเมอร์คือตัวเลือกแรก ตามมาด้วยกางเกงยีนส์สีเข้มจาก Mc เติมกระเป๋าหนึ่ง หมวกหนึ่ง แว่นหนึ่ง รองเท้าคู่เดิมอีกหนึ่งเป็นอันพร้อมออกเดินเถลไถล ปล่อยใจไปกับคลื่นลม เราจึงออกเดินทางไปยังอ่าวขาว อ่าวที่มีชายหาดขาวสะอาดและสวยที่สุดของเกาะหมาก จุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามแต่มากลางวันก็ยังสวยอยู่ดี จากนั้นก็ไปต่อที่อ่าวบ้านใหญ่ที่มีจุดถ่ายรูปแนวเก๋ไก๋กับมุมต้นมะพร้าวที่โน้มลงทะเลให้เราปีนขึ้นไปทำเท่ได้สวยสุดๆ

แม้การเดินทางของเราในทริปนี้จะไม่ได้ทำกิจกรรมที่หวือหวา แต่มันก็เป็นการตอกย้ำว่าความธรรมดานี่แหล่ะพิเศษที่สุด ท้องฟ้าก็ธรรมดาๆ ผืนน้ำก็ธรรมดาๆ ป่าเขาก็ธรรมดาๆ ทุกอย่างมันเป็นธรรมดาแบบนั้นมาตั้งแต่แรก ไม่ต้องปรุงแต่ง ไม่ต้องแต่งแต้มก็สวยจนเกินบรรยาย แต่สิ่งที่ทำให้มันพิเศษก็คือเรื่องราวที่เราเป็นผู้เล่าลงไปนั้นแหล่ะ เพราะมันเป็นท้องฟ้าที่เราได้ดูกับใครบางคน เพราะมันเป็นผืนน้ำที่ทำให้เราได้ออกเดินทาง เป็นป่าเขาที่ทอดร่มเงาให้เราได้เย็นสบาย ถ้าเราอยากให้ทุกความธรรมดานี้ยังอยู่มอบความพิเศษไปนานๆ อย่าลืมช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมไว้ตั้งแต่ตอนนี้กันด้วยนะ และถ้าแกอยากให้ทุกเรื่องราวที่เล่าผ่านภาพถ่ายสวยสดใส ไม่แพ้แสงอาทิตย์ในซัมเมอร์นี้ก็อย่าลืมไปซื้อไปหาเสื้อผ้าของ Mc Resort Colletion 2019 มาใส่กันดูน้าาา แล้วจะรู้ว่าเนื้อผ้าดีๆ หน่ะมันช่วยคลายร้อนได้เป็นพิเศษเลยล่ะ จะทริปเที่ยว เดินป่า หรือวันธรรมดาในเมืองก็กิ๊บเก๋เท่ไม่เบา