ถ้าหากว่าเช้าในฝันของพวกนายคือการตื่นนอนท่ามกลางสายหมอกสีขาวที่ลอยละล่องตามทิวเขา ในบรรยากาศสุดฟิน ทั้งไอดิน กลิ่นฝน นาข้าว ที่แค่ได้เห็นก็สบายตา ผ่อนคลาย และสดชื่น แน่นอนว่าเช้าในฝันส่งท้ายกรีนซีซั่นปีโควิดนี้ต้องเป็น “จังหวัดน่าน” เท่านั้น เราจะพาไปสัมผัสความสโลไลฟ์ ณ หมู่บ้านเล็ก ๆ กลางหุบเขา กับวิวสุดว้าว ด้วยการนอนฟังเสียงฝน เที่ยวน้ำตกในป่าใหญ่ให้ฉ่ำใจ ปั่นจักรยานชิล ๆ ชมวิวนาข้าวที่กำลังเริ่มออกรวง จิบกาแฟดริปหอม ๆ ในยามเช้า งานนี้รับรองเลยว่าอ่านจบประโยคสุดท้าย พวกนายจะต้องอยากเปลี่ยนเช้าในฝันให้ตื่นมาที่น่านแบบเราบ้างแน่นอน
แต่ตอนนี้!!! ตามมาดูกันเลยว่าจะเป็นน่านฉบับที่สดชื่นคูณสิบกว่าทุกครั้งยังไง?
ที่น่านรอบนี้สดชื่นกว่าครั้งไหน ๆ ก็เพราะเราพกครีมอาบน้ำ Shokubutsu for Men สูตร Cool Sport ที่มาพร้อมแพคเกจเท่ ๆ คูล ๆ ขวดสีดำขวดนี้มาด้วย การันตีเลยว่าอาบปุ๊บสดชื่นทันทีด้วย Cool Vital พร้อมพลัง IPMP ที่ช่วยลดแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุหนึ่งของกลิ่นกาย รวมถึงช่วยทำความสะอาดผิวจากสิ่งสกปรก และมลภาวะ แถมยังบำรุงผิวด้วย Malt Extract ที่ช่วยปกป้องจากความหมองคล้ำและแห้งกร้าน เพราะฉะนั้นแมน ๆ ลุย ๆ สายสปอร์ตอย่างเราจึงมั่นใจได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะขี่จักรยาน ขึ้นเขา หรือเดินเที่ยวน้ำตก ลุยได้เต็มที่ไม่มีกังวล จะบอกว่าเรื่องดูแลผิวเนี่ยไม่ใช่เรื่องของผู้หญิงเท่านั้นนะ ผู้ชายอย่างเราก็ต้องดูแลผิวเช่นกัน จะได้มีบุคลิกภาพที่ดีและมั่นใจในทุกกิจกรรม
” Day 1 “
001 : ถนนลอยฟ้า 1081 สันติสุข -บ่อเกลือ
แพลนวันแรกของเราหลังแลนดิ้ง คือเดินทางไปยังหมู่บ้านสะปัน โดยเลือกขับรถชมวิวชมทิวทัศน์ที่ ถนนลอยฟ้า 1081 สายสันติสุข-บ่อเกลือ ถนนเส้นที่สวยที่สุด เพราะทุกกิโลเมตรที่เราขับผ่านสองฝั่งนั้นล้วนเต็มไปด้วยวิวเทือกเขาสุดลูกหูลูกตา ประหนึ่งว่ากำลังขับรถลอยอยู่บนฟ้าจึงเป็นที่มาของชื่อถนนเส้นนี้นั่นเอง ใครอยากสูดอากาศบริสุทธิ์ลองเปิดกระจกสัมผัสลมเย็น ๆ ดูก็ได้นะ รับรองว่าสีเขียวของต้นไม้จะทำให้พวกนายรู้สึกสดชื่นสุด ๆ เลยล่ะ
002 : บ้านสะปัน Retreat
ชมวิวทิวทัศน์สองฝั่งถนนอันสวยงาม ไม่นานเราก็ขับรถมาถึง หมู่บ้านสะปัน หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ หรือจะเรียกว่าเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่กลางหุบเขาก็ไม่ผิด แถมยังมีลำน้ำว้าไหลผ่านกลางหมู่บ้านอีกด้วย ที่นี่เงียบสงบ เรียบง่าย ชาวบ้านน่ารักเป็นกันเอง จึงเหมาะแก่การมาพักผ่อน เพราะทุกอย่างมันเลยดีงามสวยไปหมดจริง ๆ
สำหรับที่พักคืนแรกเรานอนกันที่ บ้านสะปัน Retreat บ้านไม้สองชั้นสุดคลาสสิคที่มีทำเลเลิศมาก ตั้งอยู่ขนาบกับลำน้ำ และสามารถมองเห็นวิวของเทือกเขาได้จากบ้านพักเลย แถมโลเคชั่นยังอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวอย่างน้ำตกสะปันที่เรากำลังจะไปเที่ยวต่อกันอีกด้วย
สโลแกนสุดน่ารักของ บ้านสะปัน retreat เค้าบอกไว้ว่า ไม่รีบ ไม่ร้อน นอนสะปัน เราว่าจริงมาก เพราะพอมาพักที่นี่รู้สึกเลยว่าเราทำทุกอย่างช้าลง สโลไลฟ์มากขึ้น อยู่กับธรรมชาติรอบตัวมากขึ้น ซึ่งห้องพักของที่นี่ก็คือชิลมาก มีหลายแบบให้เลือก จะพักเดี่ยว พัก 2 คนแบบคู่รักก็มี หรือจะมาเป็นครอบครัว แก๊งค์เพื่อน เค้าก็มีบ้านหลังใหญ่ไว้รองรับ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน และหากใครมาในช่วงฤดูหนาว นอกจากห้องพักแล้วก็จะมีเต้นท์ริมลำธารให้ได้เลือกพักอีกแบบด้วย ได้ฟีลแคมป์ปิ้งแบบสุด ๆ ส่วนราคานั้นก็เริ่มต้นที่คืนละ 1,200 บาทต่อห้อง รวมอาหารเช้าและเย็นที่เป็นอาหารเหนือไว้อีก คุ้มมากแนะนำเลยว่าต้องลองพักสักคืนแล้วจะเข้าใจในความฟินนี้
003 : น้ำตกสะปัน
หลังจากนั่งชิลริมลำน้ำว้าของบ้านสะปัน เราก็ออกไปเที่ยวเติมความสดชื่นกันต่อที่ น้ำตกสะปัน น้ำตกขนาดกลางซ่อนตัวอยู่ในป่าบริเวณใกล้ ๆ กับหมู่บ้าน ตัวน้ำตกอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติขุนน่าน มีทั้งหมด 3 ชั้นด้วยกัน แต่ละชั้นก็มีความสวยไม่ซ้ำ โดยปกติแล้วจะมีน้ำไหลตลอดปี แต่จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่ช่วงเวลาและฤดูกาลที่เรามา แต่แอบบอกว่าฤดูฝนช่วงกรีนซีซั่นแบบนี้นี่แหละสวยที่สุด
จากลานจอดสามารถเดินเท้าต่อเข้ามาเรื่อย ๆ ได้เลย ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที เราก็เดินมาถึงชั้นสุดท้ายที่สวยที่สุดแล้ว สภาพป่าไม้บริเวณน้ำตกที่นี่มีความร่มรื่น สมบูรณ์สวยงามมาก มองไปทางไหนก็เห็นแต่สีเขียว เต็มไปด้วยมอส เฟิร์น และตะไคร่น้ำที่แทรกตัวขึ้นทั้งบนโขดหิน รากไม้ และพื้นดิน เหมาะมากที่ถ่ายภาพไว้อัพลงโซเชียลสักสองสามแอ็คแบบเท่ ๆ ก่อนไปนั่งพักฟังเสียงน้ำตกรับละอองน้ำเย็น ๆ ที่พัดตามแรงลมมากระทบผิว
004 : ขี่จักรยานรอบหมู่บ้านสะปัน
นอกจากการเดินเที่ยวน้ำตกแล้ว เรายังสามารถขี่จักรยานเที่ยวรอบหมู่บ้านได้อีกด้วย ซึ่งจักรยานก็สามารถหยิบยืมได้จากที่พักเลย สำหรับการขี่จักรยานที่นี่ต้องบอกเลยว่าห้ามพลาด เพราะวิวว้าวมาก ไหนจะทุ่งนากว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาที่มีภูเขาสูงเรียงรายเป็นฉากหลัง ไหนจะได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านสะปันที่น่ารัก เป็นอะไรที่ลงตัวน่าจดจำมาก ๆ และแน่นอนไม่ว่าจะทำกิจกรรมลุยหนักแค่ไหน เราก็มั่นใจในความสดชื่ เพราะใช้ Shokubutsu for Men สูตร Cool sport นี่แหละ ทำให้หมดห่วงเรื่องกลิ่นกาย กลิ่นเหงื่อที่จะกวนใจตลอดวันไปได้เลย
” Day 2 “
005 : จุดชมวิววัดสะปัน และ หยุดเวลาคาเฟ่
เช้านี้ตื่นมาพร้อมความสดใส แง้มม่านดูเห็นหมอกล่อลอยเต็มภูเขา เเราลยรีบตรงดิ่งมายังจุดชมวิวที่วัดสะปันเป็นที่แรก ความพีคของจุดชมวิวนี้คือเราสามารถมองเห็นวิวท้องทุ่งนาสวย ๆ มุมกว้างแบบพาโนรามาเต็มสองตา บวกกับช่วงนี้จะมีหมอกในตอนเช้าทุกวัน ทำให้จุดนี้เป็นภาพที่สวยงามมาก
ไม่ไกลจากจุดชมวิวเราเจอกับร้านกาแฟน่ารักชื่อว่า หยุดเวลาคาเฟ่ เป็นจุดที่เราสามารถมานั่งชิลดื่มกาแฟในยามเช้าพร้อมชมวิวสุดอลังการ ใครอยากดริปกาแฟดื่มเองทางร้านก็มีอุปกรณ์ให้พร้อม ตั้งแต่เครื่องบดกาแฟยันกาดริป หรือใครอยากจิบเอสเปรสโซ่สักชอตเข้ม ๆ ก็สามารถสั่งมานั่งทานได้เช่นกัน ส่วนตัวร้านเค้าก็ออกแบบดีไซน์มาอย่างลงตัว มีระเบียงชมวิวยื่นออกไปทางวิวเขาและทุ่งนา ทำให้ไม่ว่าจะหยิบกล้องมาถ่ายมุมไหนก็ได้รูปสุดปัง
006 : บ้านหยุดเวลา
ณ หมู่บ้านสะปันที่มีหมอกทุกครั้งยามฝนตก ยังมีอีกหนึ่ง hidden place ที่บอกเลยว่าอันซีนมากชื่อว่า บ้านหยุดเวลา โดยแต่เดิมที่นี่สร้างขึ้นเป็นเหมือนบ้านพักตากอากาศส่วน แต่จะเปลี่ยนมาเป็นที่พักวิวปังที่สุดในหมู่บ้านสะปันเร็ว ๆ นี้ ซึ่งรอบนี้เรามีโอกาสได้แวะเข้าไปชมและถ่ายภาพด้านในบ้านมาฝากทุกคน ไฮไลต์ของบ้านหยุดเวลาอยู่ที่สระว่ายน้ำด้านหน้าที่เห็นวิวเขาได้แบบ 180 องศา เรียกได้ว่าว่ายน้ำลอยตัวอยู่ท่ามกลางขุนเขากันเลยทีเดียว หรือจะนอนเอนตัวลงบนเก้าอี้หวายอ่านหนังสือสักเล่มก็เป็นอะไรที่ฟินมาก ตัวบ้านแบ่งเป็นเป็นสองห้อง สามารถเข้าพักได้สูงสุด 5 คนเลย เราชอบความชิลและวิวแกรนด์ ๆ ของที่นี่มากจนอยากอยู่ต่อ นี่สินะเลยเป็นที่มาของชื่อบ้านหยุดเวลา เพราะอยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้ให้นานที่สุดนั่นเอง
007 : Sri naman
เราออกจากสะปันช่วงสาย ๆ ขับรถมุ่งตรงมาเช็คอินกับอีกหนึ่งที่พักที่ลือลั่นในโลกโซเชียลจนหลายคนฝันว่าต้องมาให้ได้สักครั้ง ศรีนาม่าน (Srinaman) เป็นที่พักกลางทุ่งนาอยู่ในอำเภอสันติสุข ซึ่งน้อยคนจะรู้ว่า คำว่า ‘ม่าน’ นั้นเป็นภาษาล้านนาที่ใช้เรียกชาวพม่าที่เข้ามายึดครองดินแดนล้านนาตั้งแต่อดีต จนน่านตกเป็นเมืองขึ้นของพม่าอยู่ช่วงนึง หลังจากพม่าย้ายออกไป ชาวบ้านจึงเรียกชื่อหมู่บ้านนี้ว่า ‘นาม่าน’ ซึ่งก็คือนาของชาวพม่านั่นเอง
ห้องพักของที่นี่ถูกออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติของท้องทุ่งนา เน้นความสงบ และความเป็นส่วนตัวของ การบริการก็ดีงามมาก ดูแลเราตั้งแต่ก้าวเท้าลงจากรถยันส่งขึ้นรถกลับบ้าน เป็นอีกที่ที่เหมาะกับการมาพักผ่อน นอนชิลทั้งวันจริง ๆ รอบนี้เราเลือกพักห้องน้องใหม่ล่าสุดของทางศรีนาม่าน มีชื่อว่าห้องโดมป่า อยู่บนเนินเขาเลยสามารถเห็นวิวทุ่งนาได้ในมุมกว้าง ส่วนของห้องนอนจะอยู่ในโดมกลมสีขาวขนาดใหญ่ มีเตียง King size พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างครบครัน ที่สำคัญมีแอร์ด้วยจ้า นอกจากนี้ก็ยังมีห้องน้ำส่วนตัว รวมถึงอ่างอาบน้ำแบบ out door ให้เราแช่ตัวได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
ยังไม่หมด!!!! ยังมีมุมเปลตาข่ายพร้อมผ้าปูสีขาว และหมอนให้เราสามารถไปนอนรับลมชมวิวได้ทุกเมื่อที่ต้องการอีกด้วย ซึ่งหลังจากเช็คอินได้ไม่นานก็มีชุดอาฟเตอร์นูนทีที่จัดสลวยสวยงามด้วยกรงนกมาเสิร์ฟถึงห้อง ด้านในมีทั้งขนมบราวน์นี่ พานาคอตต้า บิสกิต และชาร้อน ๆ กินไปมองวิวไป แค่นี้ก็ฟินจนอธิบายไม่หมดแล้ว
เหนื่อยกับการเดินทางมาทั้งวัน ก่อนมื้อเย็นเลยขอตัวอาบน้ำให้ชื่นใจสบายตัวกันสักหน่อย และไม่ลืมที่จะใช้ครีมอาบน้ำโชกุบุสซึ โมโนกาตาริ สูตร Cool Sport บอกเลยว่าหลังอาบเสร็จคือเย็นสดชื่นเพิ่มขึ้นสิบเท่า แถมยังรู้สึกมั่นใจในกลิ่นกาย ไม่ว่าใครเดินผ่าน หรือเข้าใกล้ ก็ต้องได้กลิ่นหอมแนวสปอร์ตจากตัวเราแน่นอน
สดชื่นทั้งกายและใจไปแล้ว เวลาของอาหารมื้อเย็นที่ทางศรีนาม่านเตรียมไว้ให้เราก็พร้อม เสิร์ฟ ในรูปแบบขันโตกอาหารเหนือ 7 อย่างเติมได้ไม่อั้นจนกว่าเราจะอิ่มพุงกางกลิ้งกลับห้อง พร้อมผลไม้และไอศครีมโฮมเมดที่มีให้เลือก 2 รสชาติ อาหารที่นี่คือรสชาติดีมาก แล้วที่ชอบมากกว่าอาหารคือพนักงานทุกคนใส่ใจดูแลแขกดีสุด ๆ คอยเดินถามไถ่ตลอดว่าต้องการเติมอันไหน อยากรับอะไรเพิ่มบ้าง หรือถ้าใครอยากแช่ตัวในอ่างตอนกลางคืนก็จะมีพนักงานไปตีฟองบับเบิ้ลให้ถึงห้องเลยจ้า
” Day 3 “
มื้อเช้าวันนี้เค้ายกมาเสิร์ฟกันถึงห้อง มีทั้ง Scrambled Eggs หรือ ไข่กระทะ ซึ่ง Scrambled Egg ของที่นี่ เค้าเอาไข่คนไปโป๊ะบนขนมปังที่นิ่มฟู กินด้วยกันคืออร่อยเข้ากันมาก รวมถึงข้าวต้มหมูจากข้าวไรซ์เบอร์รี่ให้เราซดต่อร้อน ๆ อีกด้วย สำหรับเราที่นี่เป็นที่พักที่เหมาะกับการพักผ่อน นอนชิล ถ่ายรูปเท่ ๆ เพราะมีมุมสวยที่จัดให้ไว้ให้ถ่ายเยอะมาก
008 : Curve Project
มาเที่ยวเมืองสโลไลฟ์ทั้งที ก่อนกลับเราก็ไม่ลืมที่จะแวะไปเช็คอินกับคาเฟ่สุดน่ารักสไตล์โฮมมี่อย่าง Curve Project ร้านคาเฟ่เล็ก ๆ ในตัวเมืองน่าน ที่มาพร้อมงานแฮนเมด และฮาร์ทเมด ตกแต่งด้วยโทนสีขาวน้ำตาล เฟอร์นิเจอร์ไม้ดูอบอุ่นละมุนละไม ก้าวเข้าไปในร้านก็จะเจอกับรอยยิ้มที่อ่อนหวานของเจ้าของ คอยแนะนำเมนูทั้งเครื่องดื่ม และขนมโฮมเมดของทางร้าน ซึ่งนอกจากพวกเมนูกาแฟ และชาต่าง ๆ แล้ว ยังมีเครื่องดื่มสมุนไพรที่มีเฉพาะที่ร้านเช่น น้ำขิงมะนาว มะไฟจีนโซดาให้เราเลือกสั่งอีกด้วย
เมนูขนมที่ห้ามพลาดและเป็น signature ของร้านก็คือเจ้า Apple Cake ที่ตอนเสิร์ฟจะอบร้อนราดซอสคาราเมลด้านบนพร้อมครัมเบิ้ลและอัลมอนด์ อร่อยมากจนไม่อยากให้หมด หรือใครชอบทานมัฟฟินก็จะมีมัฟฟินมัฟฟินช็อคโกแลตครีมชีสให้ชิมกันด้วย ซึ่งจริง ๆ แล้วแต่ละวันเมนูขนมก็จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เพราะทำสดใหม่ทุกวัน แต่รับรองว่าดีงามได้ชิมเป็นชอบทุกเมนูแน่นอน นอกจากนี้ใครชอบงาน Craft งานแฮนด์เมดสวย ๆ สไตล์มินิมอล เค้าก็มีให้เราเลือกช้อปเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านกันด้วย
009 : Workboxes Cafe’
ทิ้งท้ายเมืองน่านกันที่ Workboxes Cafe’ ร้านที่หลายคนอาจคุ้นชื่อหรือเคยมาเยือกันบ้างแล้ว ตอนนี้เค้าได้รีโนเวทขยับขยายร้านใหม่ เปลี่ยนลุคให้กว้างขึ้น และดูไฉไลทันสมัย แต่ยังคงบรรยากาศอบอุ่นเหมือนเดิม ตัวร้านใหม่นี้เป็นอาคารชั้นเดียวสีขาวเรียบ ๆ แทรกด้วยวัสดุประเภทไม้ ซึ่งทางร้านเลือกใช้เป็นกรอบหน้าต่าง และหลังคามีความโดดเด่นลักษณะเหมือนกล่องเล็ก ๆ ให้เข้ากับชื่อร้าน ส่วนทางเข้าร้านก็ก่อเป็นผนังอิฐเท่ ๆ พร้อมทำโต๊ะบาร์ไม้ยาว จับคู่กับเก้าอี้สตูลสีขาวให้ลูกค้าได้เลือกนั่งหน้าร้านกันด้วย
ด้านในก็ตกแต่งบรรยากาศให้ฟีลเหมือนห้องนั่งเล่นเน้นความสบายเรียบง่ายเป็นหลัก เมนูเครื่อมดื่มที่แนะนำก็จะเป็น Passion Fruit Green Tea ชาเขียวผสมน้ำเสาวรสที่ให้รสชาติหวานเปรี้ยวกลมกล่อมกำลังดี กินคู่กับ Blondie Greentea และ Cheese Pie ยิ่งอร่อยเข้าไปใหญ่ นอจากนี้ทางร้านยังได้แรงบันดาลใจนำเสนอวัตถุดิบท้องถิ่น มาต่อยอดให้คนในจังหวัดมีรายได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นตัวเมล็ดกาแฟจากไร่ต่าง ๆ น้ำผึ้งจากฟาร์มบนดอย มะไฟจีนซึ่งเป็นของฝากขึ้นชื่อ และผลไม้ตามฤดูกาลอื่น ๆ ก็ถูกนำเสนอออกมาในรูปแบบของเบเกอรี่และเครื่องดื่มได้อย่างน่าสนใจมาก ๆ
นอกจากสูตร Cool Sport ที่ทำให้ทริปน่านของเรารอบนี้สดชื่นกว่าที่เคยแล้ว Shokubutsu for Men ก็ยังมีอีก 2 สูตรให้พวกนายเลือกใช้กัน ก็คือ สูตร Synergy Relax (สีน้ำเงิน) ที่เน้นความสดชื่นผ่อนคลาย ด้วยสารสกัดจากสาหร่ายทะเล ช่วยปรับสมดุลให้ผิว พร้อมวิตามินจากผลไม้ที่บำรุงผิว ให้กระจ่างใส ดูไม่แห้งกร้าน และอีก สูตร Extreme Protection (สีเทา) สูตรเย็นจัด มั่นใจขั้นสุด ด้วย 2 พลังธรรมชาติ ของ Activated Charcoal และ Sake Extract ช่วยทำความสะอาดผิว โดยสูตรนี้เค้าว่ากันว่าอาบปุ๊บรู้สึกเย็นตลอดวันไปเลย ดูน่าสนใจมากเหมาะกับอากาศร้อน ๆ แบบบ้านเราเป็นที่สุด
และแล้วน่านในฝันกรีนซีซั่นสุดสดชื่นของเราก็จบไปอย่างสวยงามพร้อมกับความประทับใจในทุกโมเม้นต์ เราขอยืนยันคำเดิมว่าน่าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์น่าค้นหา ทั้งความอบอุ่นของผู้คนที่พร้อมแบ่งปันให้กับนักท่องเที่ยว ความอร่อยของอาหารเหนือที่ไม่สิ้นสุด และธรรมชาติทั้งทุ่งนาและทิวเขาที่พร้อมกอดเราแบบไม่จำกัด เที่ยวน่านเที่ยวง่ายกว่าที่คิดเยอะมาก มาเปลี่ยนจากความเหนื่อยล้าเป็นความสุข เหมือน Shokubutsu for Men สูตร Cool Sport ครีมอาบน้ำคู่ใจที่ทำให้เรามั่นใจตลอดการเดินทาง ทั้งยับยั้งแบททีเรีย แถมยังบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าน พร้อมกลิ่มหอมแนวสปอร์ต ที่ให้เราพร้อมลุยสำหรับทุกกิจกรรม ทำให้น่านรอบนี้มันสดชื่นที่สุดกว่ารอบไหน มั่นใจเลยว่าพวกนายต้องอยากเปลี่ยนเช้าในฝันให้ตื่นมาเป็นที่น่านแบบเราบ้างแน่นอน