ลบภาพจำฝังหัว ลองปล่อยตัวปล่อยใจจอย ๆ ไปกับ “Jaipur-Agra” มหาครสีชมพูและเมืองแห่งความรักกันสักหน่อย แล้วจะรู้ว่า India เป็นประเทศที่ควรค่าแก่การถูกรักมากกว่าที่คิด …. และ 4 วันต่อจากนี้คือมหากาพย์โร้ดทริปที่จะมาช่วยปรับทัศนคติลบ ๆ ที่หลายคนมีต่อประเทศนี้ให้กลายเป็นเมืองโปรดที่ทุกคนใฝ่ฝัน เราจะพาออกเดินทางไปพบเจอดินแดนแห่งสวรรค์ ใช้ชีวิตชิคเก๋เยี่ยงมหารานีในนครสีชมพูอันเนืองแน่นไปด้วยอารยธรรม ที่ถูกบอกเล่าเรื่องราวอย่างลึกซึ้งผ่านศิลปะสุดวิจิตรและสถาปัตยกรรมชวนน่าหลงไหล ไปจนถึงมุมถ่ายรูปสุดปังกับ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ ที่สะท้อนถึงความอัจฉริยะในการออกแบบอย่างสมมาตรและซับซ้อน เอาล่ะ.. มาดูกันว่าเมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็น Photogenic หันกล้องไปทางไหนก็เจอแต่มุมสวยจึ้ง ชวนตะลึง มันเป็นยังไง
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/8E13E5A3-5A74-4A28-8803-3B50A9EEA289-1.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/E2B5960A-6F23-4C93-A23C-B4C6DD412B39-1.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/IMG_0544.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/3F6EAB0A-4584-4BAC-8E26-72EC80CE03C7-1.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/EA4AED33-D540-4108-85DB-F827A08F0D81-1.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/2FD5BF55-249D-4DDB-8035-30FCD26C6AD6.jpg)
หลังจากน่านฟ้าทั่วโลกกลับมาคึกอีกครั้ง ทางเราก็เดินทางกับ AiraAsia ร่อนทั่วเอเชียรัว ๆ และหนึ่งในรูทที่ทั้งรักทั้งเกลียด แต่อยากกลับไปเที่ยวมากที่สุดก็คือ อินเดีย จ๊ะนายจ๋า โดยรอบนี้เราเลือกเส้นทางกรุงเทพสู่เมืองชัยปุระ ด้วยเที่ยวบินตรงออกจากดอนเมืองช่วงเวลาค่ำ ๆ ใช้เวลาแค่ 4 ชม.นิด ๆ ส่วนขากลับจะเป็นไฟล์ทดึกหน่อยถึงเช้าไปทำงานต่อได้ทันที ซึ่งข้อดีคือทำให้เรามีเวลาเที่ยวอีก 1 วันเต็ม ๆ แน่นอนไม่ว่าจะบินในหรือนอก สิ่งหนึ่งที่ไม่พลาดเลยสักครั้งคือการซื้อ Value Pack รับบริการเต็มขั้นในราคาสุดคุ้ม ไม่ว่าจะเป็นโหลดน้ำหนักกระเป๋า 20 กิโลกรัม จะขนชุด ขนพร็อปไปเปลี่ยนบ่อยขนาดไหนก็ได้ เลือกที่นั่งที่โปรดได้ดั่งใจ รวมถึงอาหารร้อนส่งกลิ่นหอมยั่วยวนพร้อมเสิร์ฟเราตั้งแต่ต้น แถมรสชาติยังอร่อยสบายพุง
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/7024CA35-5DF3-439D-BF3F-A5FB4215AA17.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/12EC6EEA-7311-456F-A91B-BBB9BC83A193.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/87C81412-8B3C-48A4-950C-FA23FD9EC3C1.jpg)
Day 1 : Jaipur – Agra
หลังจากแลนด์ดิงถึงช่วงดึก ๆ พักผ่อนปรับเวลานอนให้เข้าที่ เพราะอินเดียเขาช้ากว่าเราประมาณ 1.30 ชม. เราก็เริ่มต้นด้วยการตื่นเช้า พร้อมสู้แดดสู้ลม ออกเดินทางโร้ดทริปไปยังเมือง Agra เมืองที่มีประวัติมายาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่16 รุ่งเรืองที่สุดในช่วงที่ได้ขึ้นเป็นเมืองหลวงในสมัยโมกุล (อีกหนึ่งจักรวรรดิยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก) หรือในช่วงสมัยจักรพรรดิอักบาร์มหาราช และชาห์จาฮานนั่นเอง ที่นี่จึงเต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างสวยงามที่มีชื่อเสียงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทัชมาฮาล ป้อมอัครา สุสานของอักบาร์มหาราช ฯลฯ ซึ่งเราลิสต์เอาไว้เพื่อละเมียดชมเมืองกันแบบเต็ม ๆ 2 วัน
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/BA045EF1-EEF7-48C4-9A42-0B8B50B0642C.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/E41361C3-131D-48CF-892B-2A56B3BA32C3.jpg)
Agra Fort
ปักหมุดจุดแรก เราขอพาชม Agra Fort ป้อมปราการด่านหน้า ที่คอยปกป้องเมืองในสมัยก่อน และเป็นด่านหน้าต้อนรับนักท่องเที่ยวในสมัยนี้ ตัวป้อมปราการอันยิ่งใหญ่นี้สร้างจากหินทรายแดง ทำให้ตัวอาคารเป็นสีน้ำตาลแดงตัดกับท้องฟ้าได้อย่างสวยงาม ภายในจะมีพระราชวังขนาดใหญ่ เริ่มสร้างตั้งแต่สมัยจักรพรรดิอักบาร์ยาวนานกว่า 95 ปีจึงแล้วเสร็จ เรียกว่านานกว่าทัชมาฮาลที่เรารู้จักกันเสียอีก และแน่นอนว่าที่นี่ก็ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO เช่นเดียวกัน สำหรับคนที่ถือ passport ไทย (SAARC และ BIMSTEC) ราคาค่าเข้าจะอยู่ที่ 35 รูปี ส่วนต่างชาติอยู่ที่ 550 รูปี
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/9EA63BC4-D7AF-4D74-B3EE-A24029A80C6A.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/2D5AB04F-D2C0-46CC-8040-522258A33DFA.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/A4191EC4-0617-4A61-9049-9CB63C478371.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/B1E71E8A-FCB2-4241-B875-6CD77039FF03.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/744489B2-D3BE-435C-AD90-D53764373079.jpg)
ภายในป้อมประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ทั้งห้องหอ อาคาร มัสยิดจำนวนมาก และพระราชวังหลวงของเหล่ากษัตริย์แห่งราชวงศ์โมกุล จนกระทั่งย้ายเมืองหลวงไปยังเดลี บางอาคารถูกสร้างจากหินอ่อนเนื้อเย็นในขนาดที่โอ่โถง บ่งบอกถึงฐานะอันมั่งคั่งของราชวงศ์ เราสามารถเข้าชมท้องพระโรงส่วนพระองค์, มัสยิดไข่มุก, พระราชวังกัสมาฮาล และ Musamman Burj หอคอยสีขาวทรงแปดเหลี่ยม ที่กษัตริย์ชาห์ ชหาน ได้ใช้บั้นปลายชีวิตที่นี่ หลังจากโดนพระโอรสคุมขังไว้ เพราะพระองค์ได้นำเงินไปสร้างทัชมาฮาล เพื่ออุทิศแก่พระนางมุมตัช มาฮาลจนเกือบหมด ถือเป็นมุมที่มองเห็นทัชมาฮาลไกล ๆ ได้อย่างเด่นชัดและสวยงาม
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/AD77EC43-D0BF-4032-80A1-AF8B026E5583.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/42E7475D-9E13-4EC6-9599-8A954D4DF310.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/0C9AEA0B-BFC6-4503-8834-962A066A77C9.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/9B1E1250-D798-4649-A3F9-0ABCA41EE1F7.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/6BC39D7C-3ADE-43B6-AE9B-2FA1AD9857D0.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/40C72A62-851D-4200-9E0C-29CA0E1FECC2.jpg)
Mehtab Bagh ( Taj – Yamuna View Point )
แค่ภายในป้อม เราก็ใช้เวลาในการเดินชมแทบทั้งวันแล้ว ช่วงเย็นเลยออกมาหามุมพระอาทิตย์ตกสวย ๆ ตามรอยเหล่าอินฟลูสายแลนด์สเคปกันสักหน่อย ตรง Taj – Yamuna View Point ซึ่งตั้งอยู่ในสวน Mehtab Bagh ไปนั่งบนเรือไม้ที่ลอยอยู่บนแม่น้ำ Yamuna เป็นมุมมหาชนที่เรามักเห็นตามนิตยสาร บทความออนไลน์ ฯลฯ พออากาศเริ่มเย็นลง มีลมพัดเอื่อยผ่านผิวกาย ได้ทอดมองพระอาทิตย์ที่กำลังตก พร้อมฟ้าเปลี่ยนสีเป็นโทนอุ่น กระทบเล่นแสงกับทัชมาฮาลสีขาวนวล สร้างเงาสะท้อนบนผิวน้ำ มันสวยจนเราลืมหายใจ สวยจนละสายตาไม่ได้เลยจริง ๆ
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/EBBDB73C-59AF-49E0-A83C-E2F758F7C4B3.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/79E1498D-71A5-4A27-B377-7EFFA04DC729.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/F267A8C3-B25F-459F-AFE2-057D00F3688E.jpg)
Day 2 : One day in Agra
Taj Mahal
หลังจากที่เราตื่นตะลึงกับความยิ่งใหญ่ของอัคราไปในวันแรกแล้ว วันนี้ก็มาเจอความตาแตกกว่าเดิมกับ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก และมรดกโลกอย่าง Taj Mahal มัสยิดสีขาวผ่องอันโอ่โถง เปล่งประกายท่ามกลางที่โล่งกว้าง ถือเป็นอนุสรณ์สถานแห่งรักอันมั่นคง ของกษัตรย์ชาห์ ชหาน ที่มีให้แก่พระนางมุมตัช มาฮาล ที่นี่ใช้เวลาสร้างนานถึง 22 ปี ด้วยแรงงานกว่า 20,000 คน ออกแบบอย่างพิถีพิถัน และเลือกใช้วัสดุที่ดีที่สุด ทั้งหินอ่อนและอัญมณีที่รวม ๆ แล้วมีน้ำหนักมากถึง 12,000 ตัน เรียกว่าเป็นสถาปัตยกรรมน้ำมือมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ และสวยงามจนผู้คนทั่วโลกหลั่งไหลมาชมแบบไม่ขาดสาย
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/3158D2CE-2404-4B5E-BD31-D514FC0B1841.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/09C07401-771D-42EC-9FE2-9819103425BF.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/0E6BCE34-4758-4580-BAC7-25EA20AF43FE.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/0597D063-91BF-459E-A7A0-C31E6BCB94F0.jpg)
ที่เราตื่นเต้นไม่ใช่เพราะความยิ่งใหญ่เท่านั้น เมื่อมองเข้าไปใกล้ ๆ เราจะเห็นถึงการออกแบบที่มีความสมมาตรและซับซ้อน ตามจุดต่าง ๆ มีการฉลุลายบนหินอ่อน ติดกระเบื้องแบบละเอียดยิบด้วยความบรรจง โดยสีของทัชมาฮาลจะเปลี่ยนไปตามแสงที่ตกกระทบ และสวยที่สุดในคืนจันทร์เต็มดวง ที่สะท้อนความขาวนวลออร่า โดยในหนึ่งเดือนจะเปิดให้ชมยามค่ำคืนเพียง 5 วันเท่านั้น ควรจะทำการจองมาก่อน นอกจากความงามแล้ว ยังมีเรื่องเล่ามากมาย ทั้งเรื่องราวความคลั่งรักของกษัตริย์ที่สร้างอนุสรณ์สีขาวนี้แก่พระมเหสี และตั้งใจที่จะสร้างอนุสรณ์สีดำเป็นของตนเองให้อยู่ตรงข้ามกัน และเรื่องเล่าที่มีรับสั่งให้สังหาร ตัดแขน ขา หรือควักลูกตาเหล่าสถาปนิก-นักออกแบบ เพราะกลัวจะไปสร้างสถาปัตยกรรมที่สวยกว่า เที่ยวที่เดียวได้หลายอรรถรสมาก
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/CC24C680-3875-4C4A-9370-C76A2274C66D.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/9BA268B0-ADFB-4CDF-85D4-61BAE0E8E273.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/59015AC5-ABA6-4A4D-B794-5C8EFB459BAA.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/2654309C-D8C9-4CAA-8B16-A2259EFB0D78.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/B5BC39DF-9717-42EA-961F-BE951FAAA1B3.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/70F84B3B-DED5-4DE3-BF82-BD9951CB99B1.jpg)
Tomb of Itimad ud Daulah
อีกสุสานที่เป็นเหมือนแรงบันดาลใจในการสร้างทัชมาฮาลเลยก็คือ Tomb of Itimad ud Daulah สุสานอิตมัดอุดดุลลาห์ หรือที่เรียกติดปากกันว่า Baby Taj เป็นสุสานหินอ่อนแห่งแรกของเมืองอัครา ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Yamuna สร้างขึ้นช่วงทศวรรษที่ 1620 เพื่ออุทิศแก่มีร์ซา กียาช เบค เสนาบดีการคลังและพ่อของนูร์ จาฮาน พระมเหสีของกษัตริย์จาฮานคีร์ แห่งราชวงศ์โมกุลนั่นเอง พระนางเป็นพระมเหสีองค์ที่ 20 และองค์สุดท้ายของพระองค์ แต่มีการศึกษาและความสามารถเกินผู้หญิงในยุคนั้น จึงได้รับการโอนถ่ายอำนาจ ใช้อำนาจในการปกครองได้ประหนึ่งจักรพรรดินี หลังจากที่ได้ขึ้นเป็นพระมเหสีจึงได้สร้างอนุสณ์สถานแก่พ่อของตนนั่นเอง โดยค่าเข้าคนไทย (SAARC และ BIMSTEC) อยู่ที่ 20 รูปี ส่วนต่างชาติอยู่ที่ 250 รูปี มันปังตรงนี้
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/9E8A11EA-EAB4-402E-84E2-CD29CA86B614.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/B51AEE2B-3AC2-46D3-B4BD-A1EC47F4B531.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/E174B622-5C83-4C58-A6E4-CF2C18ED1D75.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/24402DC2-483B-44CF-8495-1A842418893A.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/54880C1D-75AC-4350-9804-53DDE998ADA0.jpg)
สถาปัตยกรรมของที่นี่เป็นแบบอิสลามิก นอกจากจะมีสีขาวอันโดดเด่นแล้ว รอบ ๆ กำแพงยังมีการแกะสลักหินอย่างประณีตด้วยเทคนิค Pietra dura เป็นการฝังพลอยในเนื้อหิน และจัดวางลายกระเบื้องโมเสกอย่างสวยงาม เป็นลวดลายของดอกไม้ และดวงดาว แม้ที่นี่จะได้สมญานามว่า Baby Taj แต่ก็สร้างก่อนทัชมาฮาลนานถึง 20 ปีเลยล่ะ
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/3D4DF8E3-D13A-4046-ABF5-F2DA17EC4970.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/F67134F5-A88C-45B8-B28C-1B078B2426E7.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/6545AD46-87E8-437D-8C8B-B1F44D64D912.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/8FBE933C-610E-4942-AB5C-F2C585B6EB6D.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/7CD48AB6-8AF3-40FF-879F-6DEA8B12C4F8.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/C223DD31-49A8-4282-8532-DDFB35DDFA0F.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/8D80C908-FCB3-4551-95B0-38BCEDE57D6D.jpg)
Chand Baori Stepwell
ระหว่างทางกลับไปที่ชัยปุระ เราขอแนะนำให้แวะชมความยิ่งใหญ่ ชวนตะลึงของบ่อน้ำขนาดยักษ์ Chand Baori Stepwell บนพื้นที่ของรัฐราชสถาน ที่นี่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 10 มีอายุกว่าพันปี แต่กลับออกแบบได้ล้ำสมัย จนเป็นอินสไปเรชันแก่ที่พัก ร้านอาหารแนวอินเดียมากมายในปัจจุบัน เมื่อก่อนพื้นที่นี้มีความเจริญมั่งคั่งมาก เพราะเป็นเส้นทางการค้าผ่านไปยังตะวันออกกลาง แต่ก็มีความแห้งแล้งมากเช่นกัน มหาราชาจึงสร้างบ่อน้ำที่มีความลึก 33 เมตร เทียบเท่าตึก 13 ชั้นนี้ขึ้น เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง มีการก่ออิฐเป็นขั้นบันไดรอบ ๆ ราว 3,500 ขั้น เพื่อให้ประชาชนสามารถลงไปตักน้ำทีละหลาย ๆ คน และสามารถตักน้ำจนถึงหยดสุดท้ายได้นั่นเอง ถือเป็นบ่อน้ำที่ลึกและใหญ่ที่สุดในอินเดียอีกด้วย
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/ED83EACE-99C5-4288-AF3E-AFC0ED86C409.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/570CA605-36D7-4C67-8E4C-2B3E4A6AD4FB.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/59C1D5BE-D721-470A-A057-511E2D4F6317.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/54BFFE93-1BAD-40EE-8B67-6DDC44E051B0.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/57911EBA-5A07-44DF-A60D-C5D5DBE3B494.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/65DF5C8D-A3F7-4A5D-A55B-3E2EE4CA0851.jpg)
Day 3 : Jaipur
และแล้วเราก็มาถึงมหานครสีชมพูอันยิ่งใหญ่แห่งรัฐราชสถานนามว่า ‘จัยปูร์’ หรือที่เรียกกันว่าชัยปุระ เมืองที่เปรียบเสมือนอัญมณีเม็ดงามของอินเดีย มีประวัติยาวนานกว่า 300 ปี และเริ่มมีบทบาทโดดเด่นกว่าเมืองอื่น ๆ เมื่อราว ๆ 140 กว่าปีก่อน ในยุคที่เป็นเมืองขึ้นของประเทศอังกฤษ มหาราชาไสว ราม ซิงห์ ได้รับสั่งให้ผู้คนทาบ้านเรือนให้เป็นสีชมพู เพื่อต้อนรับการเสด็จของเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดแห่งเวลส์ และราชินีวิคตอเรียแห่งอังกฤษผู้โปรดปรานสีชมพูเป็นที่สุด จนได้รับสมญานามว่า Pink City และยังมีผังเมืองที่เป็นระเบียบตามหลัก Vastu Shasta ทุกกระเบียดนิ้ว แค่ก้าวขาลงจากรถ มาเจอสีสันความงามนี้ เราก็หลงเสน่ห์เข้าอย่างจังเลย
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/EBFFB7BA-5ED6-463E-A08D-8B7CC002CA3F.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/D2A95893-E073-4DF1-97A9-420FFF591912.jpg)
City Palace
จุดแรกที่เรามุ่งตรงไปสำรวจในเช้าวันที่ 3 ของทริป ณ เมือง ชัยปุระ ก็คือพระราชวังหลวง City Palace ของมหาราชาไสว จัย ซิงห์ที่ 2 สร้างขึ้นราว ๆ ศตวรรษที่ 18 ซึ่งเป็นช่วงที่โมกุลเริ่มมีอิทธิพลมากขึ้น การออกแบบจึงผสมผสานระหว่างราชปุตและโมกุล แต่ก็ยังคงสร้างออกมาให้เป็นสีชมพู ล้อกับเอกลักษณ์ของเมือง ใช้เป็นที่พักผ่อนของราชวงศ์ ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ Sawai Ma Singh เราสามารถเยี่ยมชมห้องต่าง ๆ ของราชวัง มีการจัดแสดงเครื่องแต่งกายของมหาราชาและมหาราชินี เห็นความวิจิตรสวยงามในการตัดเย็บ จนไปถึงอาวุธทรงแปลกตาใช้ทำศึกสงครามในสมัยนั้น และยังมีผลงานศิลปะ ของสะสมโบราณหาชมยาก ทั้งหมดบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ได้อย่างดี ในลักษณะที่สมบูรณ์ชวนพิศมัย
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/IMG_0372-1.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/2665730F-790D-4182-A6DC-1D26B75B3BDA.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/IMG_0370-2.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/B4F02C00-BE2F-45AD-815E-F2FEDD0F56E8.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/A6D9C70C-016D-4527-B59A-32953AC89D26.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/E94D4669-6024-4321-9145-D2B3C168CBA5.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/62E61FB4-C199-4F2A-900A-EA17ACF4B437.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/9E53B074-5A96-4423-AD14-B3C392DD11D7.jpg)
ขนาดเราที่ชอบเที่ยวแบบฉาบฉวย ไม่ค่อยมองหรือสังเกตอะไรเท่าไหร่ ยังต้องสะดุดตากับการตกแต่งของเขาเลย ไฮไลต์ที่ห้ามพลาดคือบริเวณลานนกยูง ที่มีซุ้มประตูอยู่ 4 บาน แต่ละบานจะสร้างลวดลายแทน 4 ฤดู ได้แก่ ฤดูฝน-ลายนกยูงลำแพนหางอย่างเป็นธรรมชาติ ประหนึ่งมีชีวิต เป็นประตูที่สวยที่สุด, ฤดูหนาว-ลายดอกไม้, ฤดูร้อน-ลายดอกบัว และฤดูใบไม้ผลิ-ลายเขียวตอง ลายเหล่านี้ถูกสร้างด้วยการจัดเรียงกระเบื้องหลากสี ที่ตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ มาวางทีละชิ้น ถือเป็นงานช่างฝีมือระดับเทพเลยทีเดียว
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/A2A6AC59-EDD1-409B-BF55-CC52D525BF17.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/160FBC2E-5840-49F2-A392-57C3EE53B3D7.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/F1B57AFE-F967-4357-8195-A4FB81E280A5.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/75A5103C-6428-4FCE-A985-03FA5FF9FE82.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/6E83B41B-F3B8-4844-AF6A-D34D4CB1A02A.jpg)
Jantar Mantar
ถ่ายรูปจนกล้องเริ่มร้อน มาพักนิ้วพักชัตเตอร์กันก่อนที่ Jantar Mantar หอดูดาวตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามพระราชวัง สร้างขึ้นเมื่อ 296 ปีก่อน โดยมหาราชาไสว จัย ซิงห์ที่ 2 ไว้ใช้สังเกตการเคลื่อนไหวของพระอาทิตย์ พระจันทร์ ดวงดาว เพื่อหาฤกษ์ในการออกรบ และยังสร้างนาฬิากาแดดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ความสูงถึง 28 เมตร สามารถวัดเวลาของชัยปุระได้อย่างแม่นยำ (ซึ่งเวลาจะคลาดเคลื่อนกับเวลากลางของอินเดียเล็กน้อย) จึงถือเป็นสถานที่บ่งบอกถึงความอัจฉริยะทางดาราศาสตร์และจักรวาลวิทยาของคนสมัยปลายยุคโมกุล จนได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/C18560DC-1BD6-4E43-89B6-75DC8F7D6C76.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/E0083789-EB13-4481-86FD-E25F3FE2A30E.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/85573066-B021-45BC-A3F4-67D96046E2F8.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/03C48D4F-6ABC-47D2-A3E1-8DC4E9A33684.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/B233E42E-3AFA-4A9B-BDDC-28FFD3C11A14.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/593717AF-C553-4089-B25C-E600CF871A4C.jpg)
The Tattoo Cafe & Lounge
ก่อนจะไปกันต่อ เราขอพักเบรกกินมื้อเที่ยงกันสักนิดที่ร้าน The Tattoo Cafe & Lounge เป็นคาเฟ่ที่เราชอบที่สุดในทริป เพราะนอกจากจะอิ่มท้องแล้ว เรายังได้โฟโต้สปอต บนระเบียงชั้นสองที่มีแบ็กกราวนด์เป็นพระราชวังสายลม (Haha Mahal) ให้เราไปยืนโพสท่าร่วมเฟรมอยู่ด้านหน้า มุมที่ตะโกนความเป็น Pink City ได้อย่างดี โดยอาหารของทางร้านจะเป็น Home cooked ทั้ง Pasta, Pizza พร้อมเครื่องดื่มนานาชนิด มี milkshake, Smoothie bowls สำหรับคนรักสุขภาพด้วย และยังเป็นร้านไอคอนของเมืองที่มีเหล่าดารา เซเลปอินเดียมาเยี่ยมชมอยู่เป็นประจำ ทางเราก็ขอโคฟเป็นคนดังถ่ายรูปเท่ ๆ สักหนึ่งแมตช์แล้วกัน
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/6CB402D7-5243-46BF-AF7D-F74D3123D746.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/9B4362F4-780D-4FB7-965B-477A2F5A1B0F.jpg)
Haha Mahal
เต็มอิ่มกับอาหารแล้ว เราก็ข้ามฝั่งมาสู่แลนด์มาร์กอันโด่งดัง Haha Mahal พระราชวังสายลมสร้างมานานกว่า 224 ปี โดยมหาราชาไสว ประธาป ซิงห์ เป็นสถาปัตยกรรมแบบราชปุต ลักษณะเป็นอาคารแนวยาวหน้าบันสูง 5 ชั้น สีชมพูอมส้มสร้างจากหินทรายสีชมพูและแดง ถอดแบบมาจากรูปทรงมงกุฏพระนารายณ์ จึงมียอดแหลมหลายยอด ตัวอาคารมีหน้าต่างเล็ก ๆ และลายฉลุช่องลมกว่า 953 บาน ช่องเหล่านี้ทำให้อากาศภายในถ่ายเทสะดวก มีลมพัดผ่านราชวังตลอดเวลา จึงเป็นที่มาของชื่อพระราชวังสายลมนั่นเอง
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/E8FD2466-BEB6-4694-B16A-399E839094B1-1.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/120A40AF-1161-410A-83F5-FDDD72D3F478-1.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/0D33B97D-E242-4ECB-A28C-445076262D88.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/0DE248A3-50A9-494B-A80B-73E0662ED085.jpg)
Patrika Gate
จุดที่จะทำให้เราได้ภาพสวยหรูดูแพงดุจมหารานีได้ ก็คือ Patrika Gate หรือประตูเมืองลำดับที่ 9 แห่งชัยปุระ กับสีสันแสนหยดย้อยแต่งแต้มทุกอณูด้วยงานปั้นงานฉลุ เป็นลายดอกไม้เลื้อยสีชมพูหวานฉ่ำ เมื่อมองทะลุประตูที่ตั้งซ้อนกันเกิดเป็นภาพมิตินูนต่ำน่าพิศวง ประตูแต่ละซุ้มมีความกว้าง 9 ฟุต ตัวประตูกว้าง 81 ฟุต ยาว 27 ฟุต และสูง 108 ฟุต ตัวเลขทั้งหมดล้วนมีเลข 9 เป็นฐาน ซึ่งจากหลักการออกแบบสไตล์ Vastu Shasta ถือว่าเลข 9 เป็นเลขมงคลของฮินดู ถูกหลักฮวงจุ้ยบ้านเขาแบบเต็มสิบ ความเป็นมาว่าปังแล้ว พอได้ถ่ายรูปร่วมเฟรม มันปังยิ่งกว่า สีสันเอย แสงเงาเอย มันลงตัวจนขนลุกไปหมดเลย
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/A4A0BC9B-B4A6-4DDD-AF2E-410ADCC1041F.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/80B67984-C132-4DAC-89D5-97FF8A305C3A.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/EA486EB2-C6C8-475B-822E-B8094FE57F2C.jpg)
Rambagh Palace
เที่ยวจนเพลิน รู้ตัวอีกทีก็ถึงเวลาดื่มชาแล้ว ทางเราปรับอินเนอร์เป็นผู้ดีชาวอินเดียแล้วมาที่ Rambagh Palace โรงแรมระดับหกดาว ที่เคยเป็นพระราชวังเก่าแก่สร้างมานานเกือบ 190 ปี เคยเป็นที่ประทับของมหาราชาไสว จัย ซิงห์ที่ 2 ใครได้มานอนก็จะได้สัมผัสความเป็นอยู่ระดับ Royal ส่วนใครที่อยากมาชมความงามของสถาปัตยกรรมรอบ ๆ สามารถมาใช้บริการ Verandah Cafe ร้านอาหารอันหรูหราภายในโรงแรมได้เช่นกัน มีโซนให้นั่งทั้งอินดอร์และเอาท์ดอร์ เราเลือกมาช่วงเวลา Afternoon Tea เพราะได้ยินมาว่า เขาจะใส่ความเป็น Traditional ลงไปด้วย สเปเชียลขนาดมีชาให้เลือกมากกว่าสิบชนิด ขนมอบแซนด์วิชหลากสไตล์ ขนมหวานที่อัดแน่นมาในจานทั้งสามชั้น อิ่มอร่อยจนลืมมื้อเย็นไปเลย
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/2AF9A55F-2EDB-4C3B-9A75-CCF25927956A.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/E3333401-27EA-4279-AECC-097945E32FF8.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/134D1B20-A890-469D-A74C-58B03E5C85A7.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/A42999FF-2CF5-42F3-AEED-38A0B645770E.jpg)
Albert Hall Museum
ขอปิดจบวันด้วยการไปเดินรับลมเย็น ๆ โพสท่าเท่ ๆ กับฝูงนกพิราบหน้า Albert Hall Museum พิพิธภัณฑ์กลางเมือง อยู่ในอาคารแสนแปลกตาสไตล์ Indo-Saracenic ผสมผสานสถาปัตยกรรมอินเดียยุคโมกุล เข้ากับงานฟื้นฟูโกธิค สอดแทรกความเป็นอังกฤษและอินเดียอย่างแยบยล ทำให้ที่นี่กลายเป็นอีกแลนด์มาร์กเด็ดประจำเมือง หากใครอยากรู้เรื่องอดีตของชัยปุระ ศึกษาอารยธรรม ศิลปวัฒนธรรมอินเดียยุคคลาสสิก ชมของสะสม สมบัติล้ำค่าของเมือง อาทิ พรม เครื่องเพชร ภาพวาด เครื่องใช้แสนวิจิตร จนไปถึงมัมมี่ เราแนะนำให้ตีตั๋วเข้าไปได้เลย แอบบอกนิดนึงว่าภายในเขาห้ามใช้กล้องถ่ายรูป สามารถถ่ายรูปด้วยมือถือเท่านั้น
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/12FE705B-ACBA-42F7-B696-19C5EF776568.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/D259F7CF-0477-4C3B-A633-373D06B226AC.jpg)
Day 4 : Jaipur
Gulab Ji Chai Wale
เที่ยวมาจนถึงวันสุดท้าย ขอสารภาพตามตรงว่าอยากลองทานมื้อเช้าแบบสตรีทฟู้ดฟีลโลคอลมาก ๆ เลยขอเริ่มต้นที่ร้าน Gulab Ji Chai Wale ร้านริมทางสไตล์สภากาแฟใกล้ชิดคนพื้นเมืองสักหน่อย ร้านนี้เขาจะเสิร์ฟชา กาแฟ และเมนูอาหารมากมาย ซึ่งซิกเนเจอร์จะเป็นชาต้มแบบอินเดี๊ยอินเดีย Gulabji Special Chai ชากลิ่นหอมละมุน ผสมขิงเพิ่มความร้อนช่วยสร้างความอบอุ่นให้กับร่ายกาย ส่วนอาหารแนะนำให้สั่งขนมปังทาเนยไส้ซาโมซ่า และแซนด์วิชที่เบิร์นมาแบบกรอบรอกนุ่มใน รสชาติเรียกว่ากลมกล่อมอร่อยมากสำหรับเรา ไม่แปลกใจที่เห็นคนที่นี่เข้าออกไม่ขาดสาย ถือเป็น Taste of India ที่ทำให้ทริปนี้คอมพลีทขึ้นจริง ๆ
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/7CFE0529-9322-4D09-8BA0-DA2DECB27FED.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/6A571BD6-A871-426F-BDF5-882C1A324861.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/5E537794-D716-490D-968A-A076C69B5165.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/F0E1A283-50B9-4DD6-A20B-1D5729F0C172.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/EA4CF451-434B-4734-9ADB-9B64FC6E665B.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/6CCDDDC6-C2B2-4CF6-AC51-5BC912023CE1.jpg)
Amber Fort
หลังจากอิ่มท้องแล้ว เราก็ลุยกันต่อที่ Amber Fort หนึ่งในป้อมปราการที่ขนานนามกันว่าสวยที่สุดในอินเดีย มีอายุ 430 กว่าปีมาแล้ว มองจากด้านนอกดูเป็นป้อมปราการที่ยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามมาก เพราะตั้งอยู่บนภูเขา และมีกำแพงปิดทึบยาวกว่า 13 เมตร กั้นลาดลงมาตามไหล่เขา จนถึงทะลสาบ Maota ที่อยู่เบื้องล่าง ตัวอาคารสร้างขึ้นจากหินทรายแดง ออกแบบผสมระหว่างศิลปะราชปุตและฮินดู ค่าเข้าที่นี่จะอยู่ที่ 500 รูปี แต่ถ้าอยากเข้าชมแบบคนเก๋ ก็สามารถจ่ายเพิ่ม 1,100 รูปี/2 คน เพื่อขึ้นหลังช้างที่แต่งองค์ทรงเครื่องสวยงามไปชมป้อมปราการก็ได้เช่นกัน
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/DSCF0464.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/74363432-FD7B-43AE-974B-2D9BC8465BF0.jpg)
เข้ามาภายใน ดูเผิน ๆ คงรู้สึกไม่ต่างจากที่อื่นเท่าไหร่นัก แต่ความจริงแล้วที่นี่มีขนาดใหญ่โตกว่า มีดีเทลเรื่องลวดลาย การใช้สีที่เป็นเอกลักษณ์ เพราะนอกจากเป็นที่ประทับของครอบครัวกษัติย์แล้ว ยังใช้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง เป็นที่ว่าการ ที่ทำกิจกรรมสำคัญ ๆ ต่าง ๆ ด้วย ทำให้ทุกมุมในนี้สามารถเป็นมุมถ่ายรูปเท่ ๆ ได้หมด ยิ่งตรงสวน Agalitai ที่แปลว่าสวนสวรรค์นี้ก็เช่นกัน มันมีความเขียวสบายตา คอนทราสต์กับภูเขาน้ำตาลด้านนอก และทุก ๆ 4-5 ปี ป้อมเหล่านี้จะได้รับการทาสีใหม่ด้วยเทคนิคเฟรสโก โดยการนำสีมาผสมกับปูนแบบพิเศษเพื่อให้สีสดติดทนนาน จึงทำให้ที่นี่ดูใหม่และสะอาดสะอ้านอยู่เสมอ
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/IMG_0436-1.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/AA142202-3549-4D9E-90D7-265AA2139395-1.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/8B7E0BFD-B45F-49B6-B49C-820CF154D4A0.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/85503B4C-3D35-489D-B7E0-67ED4B8F931C.jpg)
Gaitor Ki Chhatriyan
พิกัดต่อมา เรามาชมอนุสรณ์สถานมหาราชาแห่งชัยปุระ Gaitor Ki Chhatriyan ที่เผาพระศพของมหาราชาที่เคยปกครองเมือง เป็นศาลาทรงสูงโปร่ง มียอดทรงโดมกระจายไล่ระดับ ลักษณะคล้ายร่ม (Chhatris) จึงมีชื่อว่า Gaitor Ki Chhatriyan ส่วนใหญ่สร้างจากหินอ่อนและหินทรายไร้สีสัน แต่แจ่มชัดไปด้วยลายฉลุ ตั้งแต่พื้นยันเพดาน ตามเสามีการสร้างเลเยอร์เล่นแสงเงา ถ้ามองลึกเข้าไปในรูปสลักจะเห็นทั้งลายดอกไม้ ใบไม้อันเป็นเอกลักษณ์ของอินเดีย และมีการสลักเล่าเรื่องราว ผ่านตัวละครที่ดูพริ้วไหวเหมือนมีชีวิต ลงดีเทลลึกไปจนถึงลายผ้าสาหรี่เลยทีเดียว เรียกว่าทุก ๆ ส่วนของอนุสรณ์นี้ ทำเราขนลุกไปกับความว้าว ความตาแตกของช่างฝีมือ สำหรับค่าเข้าที่นี่จะอยู่ที่ 30 รูปีเท่านั้น
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/58F84E4A-1C02-493B-AA0A-0F8979EA45FE.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/756F4947-9C9D-406C-A2CC-10D4BE60BDEB.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/64097B95-8628-46F0-9121-4E2D479E41BC.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/51676F6F-12A5-4356-80C0-144660171797.jpg)
Nahargarh Fort
ป้อมปราการที่ตั้งอยู่เหนือ Gaitor Ki Chhatriyan ที่ ๆ เราตั้งใจมาล่ำลาแสงสุดท้ายของทริป Nahargarh Fort ถูกสร้างขึ้นในสมัยมหาราชาไสว จัย ซิงค์ที่ 2 ตั้งแต่ 289 ปีก่อน เดิมชื่อ Sudarshangarh Fort ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น Nahargarh แปลว่าที่พำนักของราชสิงห์ ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ Indo-European ใช้เพื่อป้องกันการรุกรานจากศัตรู ผ่านมาร้อยกว่าปี ที่นี่ก็กลายเป็นซากปรักหักพัง มหาราชาไสว มาดโฮ ซิงค์ (พระโอรส) จึงให้ทีมวิศวกรเปลี่ยนที่นี่เป็นสถานที่เริงรมณ์ สร้างเสมือนพระราชวังอีกแห่ง มีลวดลายปูนปั้น ภาพเฟรสโกอันวิจิตรที่มักจะเห็นบ่อยในฮาเร็มของกษัตริย์ แต่ละห้องถูกตกแต่งอย่างหรูหรา และบางส่วนของป้อมก็ยังมีปืนใหญ่วางอยู่ มีร่องรอยกระสุนของฝั่งตรงข้าม เป็นหลักฐานของการสู้รบที่เห็นได้จนถึงปัจจุบัน
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/43E79EAB-701C-4B8F-AA4A-F8C2AD9580C7.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/16EBA2D1-E5C0-4071-A27D-0A5CE04BC622.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/6312FA81-64F0-4B52-B4CA-0D796CFE9165.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/0D8CFD15-4767-4436-B59C-CA7673251784.jpg)
ถ้าเปรียบความยิ่งใหญ่ของป้อม เราว่าเป็นน้อง ๆ กำแพงเมืองจีนได้เลยนะ มันมีความหนาและแข็งแรงจนสามารถขึ้นไปนั่งอยู่บนขอบกำแพงได้สบาย ๆ เบื้องล่างเป็นวิวเมืองชัยปุระที่ขยายกว้างจนสุดลูกหูลูกตา เมื่อพระอาทิตย์เริ่มคล้อย ท้องฟ้าก็ปรับเปลี่ยนเป็นสีชมพูพาสเทล ฉาบอยู่เหนือนครสีชมพู เป็นวันที่เราอิ่มเอมไปกับอารยธรรมอันยิ่งใหญ่ และอำลากันไปพร้อมวิวปัง ๆ สมมงนักท่องเที่ยวตัวยงอย่างเราจริง ๆ
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/2ACFFA7A-7862-4BAE-A4D4-E57E5007224B.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/0B0D74F7-4E34-4CD7-AC84-CC6147BFC15B.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/759CD307-5A0B-4943-8118-A17237F1098A.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/C65C1D26-EE30-4DBD-A161-6DA70302AA18.jpg)
สำหรับคนที่บอกว่ามาอินเดีย ไม่รู้สึกรักก็รู้สึกเกลียด เราเชื่อว่าใครได้มาสองเมืองนี้ ทุกคนจะต้องกลับไปพร้อมกับความรักที่มีอยู่เต็มอก หลังจากได้เจอะเจอความสวยอลังการที่สร้างโดยน้ำมือมนุษย์ เป็นทั้งมรดกและสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ควรค่าแก่การถูกเก็บรักษา หลักฐานความเป็นอยู่อันมั่งคั่งเกินจินตนาการของเหล่ามหาราชา เรื่องราวสนุก ๆ ที่เล่าขานต่อ ๆ กันมา รวมกันแล้วมันคือกลมกล่อม เป็นอีกรูทที่จะให้เรากลับมาใหม่ก็ยังได้
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/70EB0F67-39BD-4D84-9219-78BF4C250C22-1.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/E115C692-6472-4794-8E44-CAE476C2280C.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/6D9BC056-FF21-4E09-82C6-E8430630F457.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/DCC47A27-9F6C-47D3-AF8A-DC19FC4838D3.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/BDA07083-1537-496A-9B7E-8A5FDAA8218D.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/69929AEB-9440-4C9A-BAD7-AEF2C106863E.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/B34BB7C9-A962-4FFF-B643-0C310F5780A1.jpg)
![](https://www.jatiewpainai.com/wp-content/uploads/2023/03/B0F9763B-4263-4FB5-97A1-0F609654901F.jpg)