รีวิวประจวบคีรีขันธ์ :: The Summer Getaway “HuaHin-PranBuri 2023”

ทริปรับซัมเมอร์ซีซั่นนี้ เราอยากชวนทุกคนเที่ยวชิล ๆ ฟีลโร้ดทริป แบบไม่เร่งรีบกันที่จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ โดยปักหมุดพุ่งตรงมารับลมเย็น ๆ ยัง 2 เมืองตากอาศฮอตฮิตตลอดกาล หัวหิน-ปราณบุรี ทะเลใกล้กรุงฯ ที่มีครบทั้งคาเฟ่หลากสไตล์ ที่พักชิคคูลชวนผ่อนคลาย ไปจนถึงจุดถ่ายรูปเท่ ๆ ฟีลเที่ยวต่างประเทศ กับ 5 โลเคชั่นที่ดีต่อใจ สบายต่อตา ชวนถ่ายรูป เอาล่ะ! ถ้าพร้อมแล้วก็ได้เวลาแต่งตัวเบา ๆ เน้นสไตล์หนุ่มเกาแบบฉบับมินิมอลลุคเข้าไว้ แล้วออกเดินทางไปกับเพื่อนซี้คู่ใจที่ดีที่สุดอย่าง Lambretta X300 สกู๊ตเตอร์สุดสมาร์ท ที่จะพาเราไปโต้ลมรับไอแดดและกลิ่นทะเลหอม ๆ เดินทางสนุก สุขทุกจุดเช็คอิน จนใจที่เซกลับมาพร้อมเปย์ความสุขให้พื่อน ๆ ตลอดทริป

ถึงแม้ว่าจะเป็นทริปสั้น ๆ สัมผัสลมทะเลใกล้กรุงฯ แต่เราก็อุ่นใจเสมอเมื่อได้ออกเดินทางพร้อมกับมายเบสเฟรนด์ Lambretta X300 สกู๊ตเตอร์ที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดีภายใต้คอนเซ็ปต์ “Heritage to Future” ผสานรวมแนวคิดแห่งอนาคตมาออกแบบให้มีความล้ำสมัยระดับไฮเอนด์ โดยนำกระแสสกู๊ตเตอร์สายพันธุ์คลาสสิกให้เป็น New Generation แต่ยังมีกลิ่นอายความเป็นอิตาลีอย่างเข้มข้น และยังคงรูปลักษณ์แบบสมาร์ทเอาไว้ บอกเลยไม่ว่าจะเดินทางไปไหนก็ดูโฉบเฉี่ยวจนสาว ๆ ต้องเหลียวมองทุกที่ที่ไปแน่นอน

01 : BAMP : Beach & Cafe

เปิดทริปด้วยการพาเพื่อนๆ  ไปฮอปปิ้งกันที่ BAMP : Beach & Cafe คาเฟ่สไตล์แคมป์ปิ้งริมหาดเขาเต่า มาพร้อมดีเทลและมุมถ่ายรูปสุดปังที่ชวนรัวชัตเตอร์แบบไม่ยั้ง โดยเฉพาะ Pavillion ทรงกลมแบบ open air ตั้งตระหง่านนำสายตา มุงหลังคาด้วยหญ้าแฝกพร้อมห้อยผ้าสีขาวให้พลิ้วไหวไปตามแรงลม ภายใต้บรรยากาศแบบสบาย ๆ ซึ่งทันทีที่มาถึงเราก็ไม่รู้สึกแปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงได้กลายเป็นจุดถ่ายรูปสุดชิคสุดฮอตของชาวโซเชียล แล้วยิ่งทริปนี้มากับ Lambretta X300 สีขาว Gemma White ที่ดูโดดเด่นเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ ทำให้จอดถ่ายมุมไหนก็เท่สุด ๆ ดูตัดกับทะเลและท้องฟ้าสีครามแบบไม่ซ้ำใครจริง ๆ

ความรู้สึกผ่อนคลายเริ่มขึ้นทันทีเมื่อเราก้าวเข้าสู่พื้นที่ด้านในที่ตกแต่งด้วยชุดเฟอร์นิเจอร์ไม้ พร้อมเก้าอี้ชายหาดผสมผสานกับเก้าอี้แบบแคมป์ปิ้ง ก่อนจะแมทช์ความคลีนของผ้าให้ฟีลลิ่งบาหลีบาใจได้เป็นอย่างดี แบ่งพื้นที่ฝั่งหนึ่งให้เป็นเคาน์เตอร์บาร์สำหรับสั่งขนมและเครื่องดื่ม ถึงแม้ตัวร้านจะเป็นสไตล์ open air แต่ทั่วทั้งร้านก็ตั้งอยู่ใต้ร่มเงาของหลังคาที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เราจึงสามารถนั่งเล่น สั่งเครื่องดื่มมาจิบเพลิน ๆ และหามุมสวย ๆ สำหรับถ่ายรูป พร้อมรับลมทะเลโดยไม่ต้องปะทะไอแดดแบบตรง ๆ แค่นี้ก็ถือเป็นการเริ่มต้นวันพักผ่อนที่ฟีลกู๊ดแล้ว

เมนูของทางร้านมีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มและของหวาน พอดูมู้ดของร้านทางเราขอสั่งเป็น Coconut Americano น้ำมะพร้าวที่ราดช็อตกาแฟท็อปด้านบนเหมาะกับบรรยากาศริมทะเล และ Two tea แก้วนี้เป็นเมนูที่เรายังไม่เคยกินที่ไหน จะมีส่วนผสมแบบไล่เลเยอร์สองชั้น ระหว่างมัทฉะรสเข้มและชาแดงไทยหอม ๆ เรียกว่าเป็นสองเมนูเครื่องดื่มที่เน้นความสดชื่นเหมาะกับอากาศประเทศไทย ยิ่งได้เพิ่มความอิ่มด้วยชีสเค้กหน้าไหม้อีกหน่อย เราก็พร้อมออกเดินทางต่อได้อย่างมีพลังแล้ว

02 : Sundance Dayclub

ขับสกู๊ตเตอร์คู่ใจต่อมายังตัวเมืองหัวหิน ด้วยการปักหมุดไปหยุดที่ Sundance Dayclub ที่พักและบีชคลับสุดลักซ์ชัวรี่ริมทะเล ที่มีไฮไลต์อยู่ที่สระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ขนานไปกับชายหาด อีกทั้งยังดูโดดเด่นด้วยการออกแบบโซนที่นั่งรับลมทะเลไล่ระดับแบบสวย ๆ พร้อมคุมโทน Day Bed และร่มบังแดดด้วยสีขาวและสีเบจ ซึ่งก็ดูตัดกับสีของน้ำทะเลและท้องฟ้าได้เป็นอย่างดี เราว่าที่นี่เหมาะมากที่จะมานั่งรับลมชมวิว และยังเป็นอีกจุดที่สามารถเอ็นจอยกับช่วงพระอาทิตย์ตกได้อย่างเพลิดเพลินอีกด้วย

เช็คอินเรียบร้อยก็ได้เวลาเข้าไปสำรวจห้องพักกันบ้าง ขอบอกเลยว่าบรรยากาศภายในห้องพักมันแสนจะหรูแบบลูกคุณหนู โดยการคุมโทนสีขาวและสีเบจที่ดูนุ่มนวล กรุกระจกใสรอบห้องให้มีแสงสว่างเพียงพอ พร้อมจัดวางโซฟาและเตียงแบบหันหน้าออกให้เราตื่นมารับวิวทะเลแบบเน้น ๆ แถมยังเสริมความแพงด้วยอ่างอาบน้ำดีไซน์เก๋ เป็นมู้ดแอนด์โทนที่ไม่ว่ามองไปทางไหนก็ดูเรียบง่ายสบายตาชวนผ่อนคลายไปซะหมด ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกภายในก็มีครบครัน แทบไม่ต้องเตรียมอะไรมาเองเลยก็ว่าได้

เก็บกระเป๋าพร้อมแอคท่าเท่ๆ บนห้องพักกันไปแล้ว เราก็ขอออกไปเดินเล่นโซนบีชคลับ ที่เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นตาจากภาพในสตอรี่ของเพื่อน ๆ หรือเหล่าอินฟลูฯ คนเก๋ที่มักจะแวะเวียนมาเช็คอินอยู่ตลอด เพราะที่นี่คือสวรรค์ของเหล่าอินสตาแกรมเมอร์ เนื่องจากมีมุมไฮไลท์สวย ๆ กระจายอยู่ทั่วทั้งพื้นที่ โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้าเป็นอะไรที่สวยงามเกินต้านมากจริง ๆ

ถึงแม้ว่าร้านจะเป็นสไตล์บีชคลับสุดหรูริมทะเล แต่อาหารที่เสิร์ฟก็มีทั้งอาหารไทยรสชาติดี อาหารทะเลแบบยุโรป รวมถึงเครื่องดื่มอีกหลากหลายเมนู วันนี้เราขอเติมความเฟรซด้วยน้ำส้มสด และ Virgin rose paloma อีกสักแก้ว เพื่อเพิ่มความกระปรี้กระเปร่า ทานคู่ไปกับ Parma Ham Wrapped ที่ให้รสหวานนิด ๆ เค็มหน่อยๆ  และมีความหอมมันของชีสเฉพาะตัว ก่อนจะสั่ง Calamari Tacos และ Prawn Tacos มาตบท้ายเคล้าคลอไปกับวิวทะละยามพระอาทิตย์อัสดง นับว่าเป็นอีกหนึ่งมื้อที่ตราตรึงใจ

ตัดภาพมาที่ยามเช้า เราตื่นขึ้นมาพร้อมกับความสดชื่นแบบนาฬิกาปลุกไม่ได้ทำงาน ก่อนจะอาบน้ำแต่งตัวและลงไปทานมื้อเช้ากันที่ห้องอาหารที่มองเห็นวิวทะเลชัดแจ๋ว โดยทางที่พักจะเสิร์ฟเมนูอาหารเช้าที่เราเลือกไว้ตั้งแต่เช็คอิน แต่ก็ยังมีไลน์บุพเฟ่ต์อย่างขนมปัง ชา กาแฟ ให้เราได้เลือกทานเพิ่มเติมด้วย ส่วนบรรยากาศในห้องอาหารนั้นก็ยังคุมมู้ดแอนด์โทนแบบเรียบหรู โดยเน้นโทนสีสว่างและสีไม้ให้ดูธรรมชาติสบายตา มีต้นไม้น้อยใหญ่แซมไว้ตามมุมต่าง ๆ แบ่งที่นั่งเป็นสัดส่วน ให้เราพร้อมเติมพลังงานกับอาหารวัตถุดิบคุณภาพภายใต้บรรยากาศแบบไพรเวท ซึ่งถือว่าเป็นการเริ่มต้นเช้าวันใหม่ที่ดี

นอกจากความเท่ที่ขับไปไหนใครต่างก็ต้องชายตามองของ Lambretta X300 สกู๊ตเตอร์คันนี้แล้ว เรื่องการออกแบบก็ไม่เป็นรองใครเพราะมาพร้อมเบาะที่นั่งยาวนุ่มสบาย เดินทางใกล้ไกลแค่ไหนไม่มีหวั่น ที่สำคัญล้อแม็กยังมาพร้อมขนาด 12 นิ้ว จะเปลี่ยนกี่โลเคชั่นก็ขับขี่สบาย ไม่ว่าทางข้างหน้าจะลาดยาง หรือต้องเจอลูกรัง ก็มั่นใจได้เลยว่าเราจะผ่านไปได้แบบชิล ๆ ว่าแล้วก็เช็คเอาท์แล้วออกไปลุยกันต่อในโลเคชั่นถัดไป

03 : ต้นตาล 3 ต้น

จากเมืองหัวหินเราบิดต่อมายังโลเคชั่นสุดฮิตที่ปราณบุรี ที่ไม่ว่าผ่านไปกี่ปีก็ยังคงความสวยคลาสสิกสร้างความประทับใจให้เราได้ทุกครั้งกับ ต้นตาล 3 ต้น ซึ่งตั้งตระหง่านชูชันเรียงกันเป็นเอกลักษณ์จนใครเห็นก็ต้องจอดรถ! เพราะเป็นมุมที่ชวนรัวชัตเตอร์ได้ทั้งวัน โดยมีฉากหลังเป็นท้องฟ้าและคลื่นทะเล บอกเลยว่าถ้าแวะมาที่นี่จะได้รูปปังตรงปกไม่จกตา หรือถ้าใครสายอัดคลิปอยากมาเดินเล่นทำคอนเทนต์เก๋ ๆ ก็จะเท่แบบไม่ต้องพยายาม

จอดรถพร้อมถ่ายรูปหนึ่งเซ็ทเสร็จสรรพ เราก็ลงมาเดินเล่นเลียบหาดรับลมเย็น ๆ กันสักนิด ซึ่งช่วงเวลาที่เราไปนั้นโชคดีที่อากาศดีมาก มีสายลมพัดผ่านมาให้เราชื่นใจเป็นระยะ ๆ เหมาะมากที่จะแวะมาฟังเสียงคลื่นริมทะเล และนอกจากวิวสวย ๆ จะทำให้อามารมณ์ดีแล้ว ยังได้รูปเท่ ๆ มาเปลี่ยนโปรไฟล์ใหม่ด้วย แต่ถ้ามาเดินจับมือกับแฟนตรงนี้ก็โรแมนติกไปอีกแบบเหมือนกันนะจะว่าไป

04 : Make a day

ได้เวลามาเติมความหวานแบบเฟรช ๆ กับอีกหนึ่งคาเฟ่ไม่ลับ แต่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักในปราณบุรีกับ Make a day คาเฟ่สไตล์มินิมอลติดถนนเพชรเกษมขาเข้า ที่หน้าร้านดูเรียบ ๆ แต่สะดุดตาด้วยกำแพงสีขาวที่วางบล็อกเป็นช่องลมมีลวดลายเฉพาะตัวมินิมอลมาก ๆ แต่พอก้าวเข้ามาด้านในกลับเปลี่ยนฟีลลิ่งแบบเกาหลีเกาใจ ด้วยดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ ของการตกแต่ง โดยเฉพาะคานไม้ที่สอดรับกับเฟอร์นิเจอร์ ก็ช่วยเสริมให้บรรยากาศดูน่ารักและอบอุ่นมากขึ้น จะถ่ายรูปมุมไหนก็ดูดีเหมือนหลุดมาจาก pinterest เลย

นอกจากตัวร้านสุดแสนจะคิวท์แล้ว ขนมและเครื่องดื่มยังต้องยกนิ้วให้ และไม่ว่าเมนูจะเยอะขนาดไหนก็ยังมีเมล็ดกาแฟให้เลือกด้วย ใครชอบแบบคั่วอ่อน คั่วกลาง หรือคั่วเข้ม ก็สามารถเลือกได้ตามใจ ส่วนใครที่ไม่ดื่มกาแฟทางร้านก็มีเมนู non-Coffee และเบเกอรี่ให้เลือก ส่วนหนุ่มทรงแบดแซดอย่างบ่อยแบบเราที่เป็นสายคาเฟอีนก็ไม่พลาดที่จะสั่ง Flower latter ที่ผสมผสานระหว่างนมและช็อตกาแฟท็อปด้วยแครกเกอร์กรุบกรอบโรยกลีบดอกไม้เพิ่มความสวยงาม เป็นแก้วที่หอมหวานกลมกล่อมลงตัว ยิ่งสั่งมาทานคู่กันกับ Chocolate cake with strawberry ที่มีความเปรี้ยวหวานกำลังดี และบลูเบอรี่ชีสเยิ้มลาวาที่หอมหวานไม่เลี่ยนเกินไป ก็บอกเลยว่าฟินสุด ๆ

ยกที่นี่ให้เป็นร้านที่ครบจบที่เดียวเลยจริง ๆ เพราะนอกจากเราจะได้อิ่มอร่อยไปกับขนมโฮมเมดและเครื่องดื่มคุณภาพแล้ว ยังมีมุม outdoor ให้ออกไปนั่งชิลที่สวนหน้าบ้าน ห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ และยังมีน้องแมวขาโจ๋ประจำร้านคอยทำหน้าที่ตกลูกค้าที่แวะเวียนมาด้วยนะ บอกเลยว่าใครเป็นทาสแมวแบบเรา ถ้าได้เห็นน้องอ้อนแล้วก็อดไม่ได้จะที่จะเข้าไปเกาคางให้แต่โดยดี เพราะน้องน่ารักและเป็นมิตรแบบ 100%

ก่อนจะมูฟออนไปพิกัดถัดไป เราขอพูดถึงดีไซน์มิติใหม่ผ่านรูปทรง Diamond Lines ที่วาดลวดลายบนตัวรถที่สวยจนเป็นตำนานไปแล้ว มาดูดีเทลจึ้ง ๆ กันบ้าง จากที่เราขับ Lambretta X300 ไปออกทริป 2 วัน 1 คืน หรือเก็บจุดสปอตเช็คอินหลากหลายโลเคชั่นบ่อย ๆ บอกเลยว่าสะดวกมาก เพราะ STORAGE BOX ช่องเก็บของใต้เบาะกว้างขวางพอที่จะใส่ของใช้ส่วนตัวอย่างเสื้อผ้าสำหรับไปค้างคืน รวมไปจนถึงพร็อพเก๋ ๆ ที่ต้องพกติดไว้สำหรับถ่ายรูป ซึ่งตอบโจทย์สายแบกบ้านอย่างเราที่สุด

ระหว่างทางที่ขับมายังโลเคชั่นสุดท้ายของทริป เราต้องเจอกับเส้นทางที่ทั้งขึ้นเนินเลี้ยวหลายโค้งอยู่หลายจุด แต่ Lambretta X300 ก็ยังเอาอยู่ เพราะมีระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นอาร์มลิงก์คู่ ส่วนด้านหลังโช้คอัพคู่ แถมปลอดภัยด้วยระบบเบรคเป็นดิสก์หน้า-หลัง พร้อม ABS ทั้งสองล้อเลยทีเดียว ทำให้เรายิ่งกว่ามั่นใจในทุกการขับขี่เลย ในส่วนดีเทลต่าง ๆ ก็จัดเต็มสมกับแนวคิดแห่งอนาคต เรือนไมล์ส่วนบนเป็นแอนาล็อกแสดงผลร่วมกับจอ LCD ด้านล่างในกรอบสี่เหลี่ยม บังลมหน้ามีปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์และเปิด-ปิดเบาะ ที่เลิฟสุดคือชุดไฟท้ายเป็น LED Combination Light ขีดตั้งขนาดใหญ่พอ ๆ กับป้ายทะเบียน ซึ่งรวมไฟเบรก ไฟเลี้ยว ไฟฉุกเฉินอยู่ในชุดเดียวกัน เรียกว่ามีความล้ำสมัยระดับไฮเอนด์จริง ๆ

05 : หาดทรายน้อย

ปิดท้ายทริปก่อนกลับกรุงเทพฯ กับโลเคชั่นสุดท้ายที่ หาดทรายน้อย หาดเล็ก ๆ อีกแห่งของหัวหินที่เงียบสงบโอบล้อมด้วยแหลมหินที่ยื่นลงไปทะเล ที่สำคัญคือไม่มีสิ่งก่อสร้างบดบังสายตา ทุกอย่างยังคงเป็นธรรมชาติแบบเดิม ๆ เพิ่มเติมคือเหมาะมากที่เราจะเตรียมพร็อพ อย่างผ้าปู หนังสือดี ๆ สักเล่ม ขนมและน้ำมานั่งปิกนิกทอดอารมณ์​ ชมวิว ดื่มด่ำไปกับความสวยงามของธรรมชาติ​อันไร้ขอบเขตที่อยู่เบื้องหน้าแบบไม่มีอะไรกั้น

นั่งฟังเสียงคลื่น ดื่มด่ำกลิ่นอายทะเลจนท้องฟ้าค่อย ๆ เปลี่ยนเฉดสี เราจึงเดินเลียบชายหาดก้าวขายาว ๆ มุ่งตรงไปบนเนินหินด้านบน จุดนี้มีไฮไลต์อยู่ที่สามารถมองเห็นวิวโค้งหาดทรายแสนสวยจากมุมสูง โดยมีแบล็คกาวน์เป็นทะเลสีฟ้ากว้างสุดสายตาจนเหมือนอยู่บนเกาะส่วนตัว เนื่องจากผู้คนไม่พลุ่กพล่าน และไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ล้วนแต่ผ่อนคลาย​สบายอารมณ์​สุด ๆ

เราใช้เวลาอยู่ที่นี่จนถึงแสงสุดท้ายของวัน จนดวงอาทิตย์​คล้อยต่ำลงเรื่อย ๆ แต่ความสุข​ในใจกลับพุ่งทะยานขึ้น เพราะการได้มาดื่มด่ำความสวยงามของธรรมชาติ​ทำให้ใจที่เซกลับมีพลังแบบล้นเปี่ยม และการได้มาชมวิวพระอาทิตย์ตกทะเลแบบนี้เป็นเมจิคโมเม้นต์ที่เรารอคอยมาตลอดวันและจะบันทึกเก็บไว้ในความทรงจำเลยทีเดียว

จบไปแล้วกับทริปเที่ยวทะเลใกล้กรุงฯ ปักหมุด 5 โลเคชั่นสุดว้าวพร้อมกับเพื่อนซี้คู่ใจอย่าง Lambretta X300 ที่หลังจากเราได้ขับสกู๊ตเตอร์ DNA อิตาลีที่เข้มข้นคันนี้ออกทริปบ่อย ๆ ก็ยิ่งรู้สึกชอบมากขึ้นเท่านั้น เพราะขับได้สบาย ขี่ได้ปลอดภัย ดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็คงความคลาสสิกเอาไว้แต่ทันสมัยด้วยรูปทรงแบบ Diamond Line มาเป็นเส้นสายบนตัวรถ เกิดเหลี่ยมเท่ เข้ากับทุกสถานที่ แถมฟังก์ชั่นยังครบครัน จะขับไกลแค่ไหนก็สบายหายห่วงเพราะโฉบเฉี่ยวคล่องตัว ที่สำคัญคือมาในราคาสุดจึ้งเพียง 154,900 บาท เท่านั้น!