” Siem Reap ” more than just temples!

ถ้าเราเอ่ยว่ากำลังจะไปเสียมราฐ ณ กัมพูชา ภาพที่พุ่งมาในมโนของหลายคนคงหนีไม่พ้นปราสาทขอมโบราณที่ถูกส่งผ่านยุคสมัยมายาวนานจนวันนี้ โรงแรมก็คงลำบากหน่อยหรือไม่ก็ต้องคอยจ่ายราคาหนักเพื่อจะได้พักสบาย อาหารก็ไม่น่ากินง่าย แล้วทุกอย่างจะโอเครไหม?

หยุด!! หยุดคิดอะไรลบลบ แล้วเตรียมมาพบกับเสียมราฐที่แท้ทรูซึ่งเราไปดูมาแล้วพบว่าที่นี่คือสถานที่ท่องเที่ยวแบบครบจบทุกไลฟ์สไตล์ไม่ว่าจะสายศาสนสถาน ร้านคาเฟ่เกร๋เกร๋ ที่พักก็โคตะระโอเค ส่วนเดินทางก็ร้องเย้เยไปง่ายสบายใจ พูดขนาดนี้น้องพี่ก็จงตาม จ ะ เ ที่ ย ว ไ ป ไ ห น ไปพบกับมิติใหม่แห่งเสียมราฐกันเล้ยยย!!

GETTING AROUND

การเดินทางแบบวัยรุ่นครุ่นคิดต้องไม่ยึดติดกับรูปแบบเดิมเดิม และด้วยภายใต้ Concept Backpacker เราจะไม่ฟุ้งเฟ้อด้วยการเช่ารถ หรือใช้ตังหมดไปการเดินทางหรูหรู ซึ่งมาถึงเขมรทั้งที ก็ควรเดินทางเหมือนคนที่นี่เขาทำกัน ดังนั้นเราจึงใช้เลือกใช้บริการตุ๊กตุ๊กเพื่อความเที่ยวสนุกลุกนั่งสบายโดยสำรองจองง่ายง่ายกับทาง Lub d travel desk เลยแกร๊ นอกจากจะปลอดภัยไปกับคนขับส่วนตัว ยังมีเวลารัวกล้องตอนท่องเที่ยวเปรี้ยวไปรอบรอบเสียมเรียบด้วยจร้า

นอกจากนั้นอีกหนึ่งกลวิธีดี้ดีย์ในการเที่ยวที่นี่คือการปั่นจักรยาน ซึ่ง Lub d Hostel ที่พักของเราครั้งนี้นางบริการฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ข้อดีของการปั่นจักรยานสำหรับเราคือการเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวนั้นนั้นแบบระยะประชิดติดวิถีชีวิตชุมชนเลยนะ เพราะความเร็วที่ไม่มากเกินไป เอื้อเวลาให้เราใส่ใจสิ่งรอบตัว อยากถ่ายรูปก็จอดถ่ายอยากเดินเล่นสบายสบายก็จอดรถพัก เราเชื่อว่าแกรจะรักฟีลแบบนี้เพราะจะได้อะไรดีดีกลับบ้านเยอะแยะแน่นอน

WHERE TO STAY

นอกจากการเดินทางในเสียมราฐจะง่าย ที่พักเองก็มีหลากหลายให้เลือกสรรค์ แต่โรงแรมที่ถูกใจเราทั้งราคาและคุณภาพนั้นก็คือ Lub d hostel โดยส่วนตัวคือชอบเพราะเราเคยไปพักมาที่ป่าตอง ภูเก็ต มาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งความเป็นหลับดีนางจะมีคอนเซ็ปต์ในการสร้างทุกครั้ง และที่เสียมราฐก็เช่นกันนางมาภายใต้แนวคิดที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นคือการนำเรื่องราว โครงสร้างของหมู่บ้านกัมปงพลัวะมาออกแบบสถาปัตยกรรมของที่นี่จร้า นอกจากดีไซน์เกร๋ไกร๋ไม่ซ้ำใคร สถานที่ตั้งยังอยู่ใกล้สนามบินและสถานที่ท่องเที่ยวดังดังเช่นนครวัด หรือจะไปจัดกันที่สถานแหล่งบันเทิงก็สามารถเดินไปได้อย่างง่ายดาย

ห้องพักในโฮสเทลแห่งนี้มีด้วยกัน 3 แบบใหญ่ใหญ่ซึ่งทางโรงแรมก็ออกแบบไว้ครบจบทุกความต้องการไม่ว่าจะเป็นงานทริปเดี่ยว งานเกี่ยวคนมามากมาย หรืองานอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็มีให้เลือกชัวร์ไม่ต้องกลัวเฟล

ส่วนตัวเราก็เลือกเอา Junior King ห้องเตียงเดียวที่มากับห้องน้ำส่วนตัว ซึ่งใช่และชัวร์มากมาก ด้วยพื้นที่ 17 ตารางเมตร เราจะได้อาณาเขตของตัวเองที่จะละเลงกลิ้งไปกลิ้งมายังไงก็สบาย จะหัวจะท้ายห้องก็มีร่องปลั๊กให้ชาร์จแบตเตอรี่การันตีไม่มีหลุดเทรนด์โลกออนไลน์แน่นอน นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกจะค่อนข้างครบครัน เตียงนั้นก็นุ่มละมุนนอนแล้วอุ่นดูดวิญญาณเหลือเกิน ดีไซน์ห้องก็เชื้อเชิญเราเข้าโหมดขี้เกียจคลายเครียดได้ดี แสงสีก็แจ่มถ่ายรูปได้แหล่มเลยฮะ

ถึงแม้จะเป็นโฮสเทล แต่ Lub d ( หลับดี ) ก็เข้าใจสุนทรียภาพของการพักผ่อนด้วยการแยกห้องนอนกับห้องน้ำเป็นสัดส่วนไม่กระอ่วนกระอ่วนเวลาส่วนตัว แถมฟรีไวไฟรัวรัวแบบไม่ต้องกลัวเหงา หรือถ้าอยากพักผ่อนแบบเบาเบาเขาก็มี Smart TV ให้ในห้องนอนด้วยจร้า

ชมห้องพักของเราแล้ว ขอเชิญน้องแก้วไปทัวร์หลับดีกันต่อที่ห้อง Junior Twin ห้องพักฟินฟินสำหรับหมู่คณะ หรือจะเป็นครอบครัวก็ลงตัวดี ด้วยลักษณะที่เป็นสองห้องพักเชื่อมต่อกัน ห้องแรกเป็นเตียงคู่ อีกห้องที่ดูเป็นเตียงเดี่ยว ช่วยให้เรานอนได้ทุกคนในที่เดียว ไม่ต้องจองห้องเพิ่ม หรือเสริมเตียงมาเบียดนอนอัดกันเครียดไม่สบายตัวนะฮะ

ส่วนถ้าแกมาคนเดียวแต่อยากเปรี้ยวเจอเพื่อนใหม่ก็จงรีบไปที่ Dormitory ซึ่งจะมีทั้งห้องรวมชายหญิง หรือหญิงเพศเดียวไม่เกี่ยวกับใคร เชื่อไหมว่าพอไปถึงแกรต้องอึ้งกับความงามที่ Hostel อื่นควรทำตามอย่างแรง Lub d” (หลับดี) เสียมราฐ สร้างทัศนคติที่ดีให้กับการเข้าพักโฮสเทลมากมากพรากความทรงจำที่เราเคยพักที่อื่นมาจริงจริงกับห้องรวมที่กว้างขวางแบบกางผ้าเล่นไพ่หรือวิ่งไล่จับสบาย สัดส่วนลงตัวงัวเงียได้แบบไม่อึดอัด การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ก็ใช้สีคุมโทนชะมัด ถ้ามารอบหน้ากับเพื่อนเราคงต้องจัดที่นี่แน่นอน 100%

มาถึงโซนห้องแต่งตัวของห้อง Dormitory ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะคับแคบเนื่องจากที่นี่เขาดีไซน์พื้นที่ใช้สอยได้รอบคอบ ตอบโจทย์ Backpacker อย่างเราเราที่จะเข้าจะออกจะถอดจะแขวนก็ไม่แน่นไม่อึดอัดจัดข้าวจัดของโซนใครโซนมันไปเลยจร้า

ห้องน้ำรวมซึ่งแยกชาย แยกหญิงสะอาดจริงจริงเราขอคอนเฟิร์ม เพิ่มเติมกันด้วยโทรศัพท์สำหรับแจ้งเหตุฉุกเฉินเพื่อความปลอดภัยไร้กังวล บอกคนที่บ้านไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้ ส่วนใครใคร่อยู่น้านนานทางหลับดีก็มีเครื่องซักผ้าให้อาภรณ์เราสะอาดปราศจากขี้กลากขี้เกลื้อนไม่เป็นเรื้อนให้คนเขาว่านะเธออ

ซึ่งความครบครันยันความสะอาดของที่นี่เป็นเครื่องการันตีว่าการมาเสียมราฐเป็นเรื่องที่สามารถเที่ยวได้ง่ายง่ายที่เราขอป้ายยาบรรดาสาวสาวที่อยากห้าวลองเป็น Backpacker เล้ย!!

ถ้าคิดว่าโฮสเทลต้องมีแค่ตู้กะเตียงเราก็ขอเถียงคอเป็นเอ็นเพราะที่เห็นจาก “Lub d” (หลับดี) โฮสเทล คือสระว่ายน้ำสุดชิลว่ายตัวปลิวลิ่วราวเป็นนางเงือกจร้า นอกจากขนาดสระว่ายน้ำที่ว่ายไปกลับได้อย่างพอดี ข้างข้างยังมีที่นั่งให้เราฟังเพลง นอนอ่านหนังสือ ทำตาปรือปรือจือปากฝากภาพสวยสวยโพสต์ลง Social ได้ด้วยรวยไลค์แน่นอน

และที่พีคที่สุดให้เราหยุดตรงนี้ที่หลับดีโฮสเทลก็คือ Co-Working Space อาณาเขตปั่นงานของเราเหล่าฟรีแลนเซอร์ นอกจากจะมาเที่ยวสนุกสนุกยังสามารถปลุกไฟทำงานในตัวคุณให้คุกกรุ่นขึ้นอีกครั้ง ซึ่ง Lub d hostel ก็เข้าใจ Life Style ของคนยุค Millennial ที่สามารถท่องเที่ยวพร้อมเกี่ยวงานไปทำตามแบบชีวิตล้ำล้ำของคนรุ่นใหม่นะ

และสำหรับเพื่อนเพื่อนซึ่งมาเป็นหมู่คณะที่อยากจะจัดประชุม หรือสุมหัวกันเสวนาก็อยากบอกว่าที่โฮลเทลชิคชิคแห่งนี้มีที่จัดประชุมย่อยให้พวกเราใช้สอยกันได้ตามอัธยาศัย ซึ่งเรามองว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ที่เหมาะสมกับวัยรุ่นจริงจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชีพนักท่องเที่ยว หรืออาชีพที่เกี่ยวกับการเดินทาง เพื่อให้เราสะสางงาน จัดประชุม สุมหัวคิด หรืออัพเดทชีวิตสู่สาธารณะชนได้ทันท่วงที ซึ่งจุดนี้เป็นอีกจุดที่เรายกนิ้วให้กับ Concept ของ Lub d hostel เลย ( ปรบมือ )

นอกจากสิ่งคูลคูลที่เราเม้าท์ให้ฟัง Lub d hostel ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกปังปังไว้รองรับนักท่องเที่ยวหลากสไตล์หลายคาแรคเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นห้อง Cooldown สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเช้าก่อนเช็คอินจะได้นั่งพักฟินฟินรอเวลาสักครู่ อีกโต๊ะพลูที่ช่วยให้ผู้เข้าพักมีกิจกรรมทำร่วมกัน และที่สำคัญคือ Free wi-fi ใช้กันสบ้ายสบายทุกผู้ทุกคนทุกตารางพื้อนที่ในอาณาเขตหลับดีจร้า

WHAT TO DO

เสียมราฐในความคุ้นเคยคือภาพปราสาทราชวังขอมที่ห้อมล้อมไปด้วยซากอิฐโบราณสะท้อนถึงความอลังการในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งแลนด์มาร์คที่คุ้นตาก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าคือนครวัด ศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลกา ซึ่งเราก็ไม่พลาดมาที่นี่แน่นอน แต่ถ้าถามย้อนว่าเสียมราฐจะมีอะไรที่ไม่ใช่ของเก่าเก่า เราก็ขอยืนยันว่าเตรียมลบภาพเขมรอันคุ้นเคยกันได้เลยแกร๊!!

  • Angkor Wat

ผัดกระเพราคู่กับพริกน้ำปลาแล้วแซ่บฉันใด การมาเสียมราฐก็ต้องไปรีวิว Ankor Wat ฉันนั้น Ankor Wat หรือนครวัดเป็นศาสนสถานที่ตั้งอยู่ในเมืองพระนคร จังหวัดเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา เพื่อเป็นศาสนาสถานประจำพระองค์ของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 และเพื่อบูชาพระนารายณ์ ส่วนการเข้าชมนั้นเราจะต้องซื้อ Pass เพื่อเป็นบัตรผ่านเข้าไป และถ้าคิดว่ายังไงต้องเก็บแลนด์มาร์คให้ครบจบทริปทุกสิ่งอันก็ลองพิจารณา Three-day Pass กันก็น่าจะดี เพราะที่นี่มีโบราณสถานงานเก่าเก่าให้เข้าชมเพียบเลยจร้า แต่เนื่องจากว่าภาพแต่ละจุดที่เราถ่ายมาไม่ได้ต่างกันมาก เราเลยขอฝากมุมที่เราประทับใจเผื่อใครใครจะไปเที่ยวตามนะฮะ

“ See Angkor And Die ” คือประโยคไฮไลท์ที่บัญญัติไว้ให้ทุกคนที่ไปต้องไปถ่ายพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่ง จ ะ เ ที่ ย ว ไ ป ไ ห น ครั้งนี้ก็เลยยอมตื่นตีสี่แบบอึนอึนมึนไปดูสักครั้ง แล้วก็พบว่ามันปังมากแกร๊!! แสงพระอาทิตย์ยามเช้าค่อยค่อยก้าวขึ้นสู่ท้องฟ้าบนยอดปราสาทสะท้อนพาดไปบนแผ่นน้ำนิ่งเป็นภาพที่เจ๋งและงดงามจริงจริงไม่อิง Photoshop เลยนะ!!

ปล.ที่ต้องตื่นตีสี่เพราะทำเลดีดีจะถูกจับจองโดยจีน ญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวฝรั่ง ซึ่งนั่นก็คือเหตุผลว่าทำไมต้องเช้าเบอร์นั้นทั้งทั้งที่พระอาทิตย์ขึ้นหกโมงกว่า หึหึ

  • Phnom Kulen Waterfall

ห่างจากเมืองเสียมราฐขึ้นไปประมาณ 60 กิโลเมตรคือที่ตั้งของเขตเทือกเขาพนมกุเลนที่ครั้งหนึ่งเมื่อในอดีตกาลชาวขอมโบราณเชื่อว่าที่นี่คือที่สถิตของทวยเทพ และในเทือกเขาแห่งนี้นี่เองที่เป็นที่ตั้งของน้ำตกพนมกุเลน น้ำตกขนาดใหญ่ใจกลางธรรมชาติที่เราแนะนำว่าอย่าพลาดเลยแกร๊ เพราะหลังจากเดินทางขึ้นเขามาเมื่อยเมื่อย ได้เจอธรรมชาติและสายน้ำเย็นเย็นก็ช่วยให้เราหายเหนื่อยทันที นอกจากนั้นบริเวณข้างข้างยังมีอาหารท้องถิ่นขายอีกด้วย (ฮ่าฮ่า)

  • Kampong Phluk Floating Village

“กัมปงพลัวะ” หมู่บ้านสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก อีกหนึ่งแหล่งเที่ยว Must See ที่เสียมราฐ เนื่องจากหมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ติดกับแหล่งน้ำและดำรงชีพด้วยการเป็นชาวประมงในทะเลสาปเขมร ดังนั้น Main หลักของไฮไลท์ที่นี่คือวิถีชีวิตที่ใกล้ชิดกับแหล่งน้ำของผู้คนที่นี่นั่นเอง

เมื่อเข้าช่วงน้ำหลาก (ก.ย – ม.ค ) ปริมาณน้ำฝนจะส่งผลให้ระดับน้ำของทะเลสาบสูง 4 – 5 เมตรจนไหลท่วมเขตหมู่บ้าน ดังนั้นวิธีการปลูกอาคารบ้านเรือนก็จะยกสูง 8 – 10 เมตรเลยแกร๊!

และด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติเขมร เราก็ได้ล่องเรือชมทัศนียภาพของป่ารังยักษ์ต้นไม้สะเทิ้นบกสะเทิ้นน้ำรอบรอบที่ขึ้นสูงลิ้วขึ้นเป็นทิวแถวคล้ายป่าชายเลนเมืองไทย หากใครนึกภาพไม่ออกก็ลองคิดถึงทะเลน้อยที่พัทลุง หรือฟีลแบบนั่งเรือพุ่งพุ่งในอุทยานแห่งชาติเขาสกก็ได้นะฮะ

อัตราค่าบริการเหมาเรือก็อยู่ที่ประมาณ 15 – 20 เหรียญสหรัฐ บนเรือนั่งได้ประมาณ 8 คนและใช้เวลาเยี่ยมยลชมรอบรอบประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง

จุดที่พีคที่สุดในการนั่งเรือที่กัมปงพลัวะ คือการรัวกล้องมองพระอาทิตย์ตกบนสายน้ำ แสงสีส้มจากดวงอาทิตย์กลมกลมแผดรัศมีทั่วขอบฟ้า กว้างยาวสุดสายตาและเรานั่งห้อยขาอยู่บนนั้น เป็นภาพที่เรารับประกันได้เลยว่าแกรต้องอยากอยู่เฉยเฉยไม่ทำอะไร เพียงแต่ปล่อยใจ ปล่อยกาย ผ่อนคลายซึมซับบรรยากาศตอนนี้และเก็บเป็นหนึ่งในความทรงจำที่ดีที่สุด

  • 60 Road

60 Road (ซิกตี้โร้ด) คือถนนเส้นโปรดของผู้คนท้องถิ่นที่จะไปฟินอาหารเย็นแบบเป็นกันเองบนถนนเส้นยาวที่ห่างจากตัวเมืองออกมาราวราว 15 นาที นักท่องเที่ยวจะได้พบกับอีกหนึ่ง Lifestyle เกร๋ไกร๋ที่ผู้คนเขาไปเดินดูร้านรวงข้างทางยามหัวค่ำ บ้างมาหาวัตถุดิบไปทำกับข้าว บ้างมายืนดูสาวมาดูหนุ่ม บ้างมาเป็น กลุ่มเพื่อนั่งปิ๊ง BBQ หรือไม่บ้างก็มานั่งชิลนั่งคุยนั่งเล่น ซึ่งที่ 60 Road ก็จะมีเสื่อให้เราเช่าปูนั่งยาวยาวจร้า

  • Around Siem Reap

อีกเรื่องหนึ่งที่ทำเราทึ่งกับเสียมราฐจนแกรห้ามพลาดมา คือที่รอบรอบเมืองนี้มีแลนด์มาร์คชิคชิครอเราไปกระดิกกล้องส่องชัตเตอร์ ที่ที่เธอจะคิดว่าตัวเองมาตะเลงเที่ยวยุโรปเลยจร้า เพราะว่าการประดับประดาบวกกับสถาปัตยกรรมซึ่งดูล้ำตัดฟีลนครวัดทิ้ง กลายเป็นสตรีทอาร์ทจริงจริง น่านั่งพักพิง นั่งดื่มกินอินกับบรรยากาศยามคืนค่ำย่ำราตรีมากมากแกร๊!!

  • Pub Street

Pub Street เสียมราฐ หรือถนนคนเดินเสียมราฐตั้งอยู่ใกล้บริเวณตลาดเก่าที่คนท้องถิ่นเขาเรียกว่า ปะซาจ๊ะ พูดง่ายง่ายให้เข้าใจก็คือแหล่งที่คนเขาไป Hang out ยามค่ำคืนนั่นเองแกร๊ ที่แห่งนี้จะมีผับ มีบาร์ มีร้านค้า มีโรงแรม นอกจากนั้นยังมีแม่น้ำใกล้ใกล้ให้ชมวิวกันสบายสบาย หรือจะนวดผ่อนคลายก็เสียเงินเพียงไม่กี่สิบบาทต่อ 15 นาทีนะฮะ

WHAT TO EAT

  • The Little Red Fox Bar & Cafe @ Lub d hostel

สำหรับคนที่ขี้เกียจออกไปหาอะไรทานข้างนอก การพักที่หลับดีถือว่ามาถูกทางแล้ว เพราะ Lub d เขารู้ใจมี Cafe เกร๋ไกร๋ไว้ให้บริการนามว่า The Little Red Fox Bar & Cafe เป็นร้านกาแฟชื่อดังของเสียมราฐที่เป็นพาร์ทเนอร์กับทางโฮสเทลฮะ ที่นี่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มทุกช่วงเวลา สะดวกช่วงเช้า สาย บ่าย เย็น หรือจะเอ็นจอยยามค่ำคืนก็ได้โม๊ดดดด ยิ่งไปกว่านั้นการตกแต่ง อาหาร บรรยากาศของร้านก็โอเค ถ้าอยากเก็บภาพเท่เท่ก็ทำได้สบาย

เอฟวายไอ. The Little Red Fox Bar & Cafe ยังเป็นผู้ผลิตเม็ดกาแฟของเสียมราฐด้วยนะ

ถึงแม้ที่ Lub d Hostel จะไม่มีอาหารแบบ Buffet ไลน์ยาวหรูหรู แต่ Set Menu ก็น่าทานน่าดูไม่ต้องกังวลจร้า มื้อเช้าเป็นอาหารนั้นประเภท American Breakfast ประยุกต์ ทานง่ายง่ายได้ทุกรายการ ส่วนระหว่างรออาหารเช้านั้น เราก็โดนกาแฟกันไปคนละหนึ่ง ซึ่งรสชาตินุ่มแบบคนไม่ชอบความขมของกาแฟก็ทานได้

และนี่คือเหล่าบรรดาอาหารเช้าที่เราพิถีพิถันคัดสรรค์เลือกมาถ่ายรูปให้ดู เห้ยไม่ใช่สิ!! เลือกมาทานกัน ภาชนะที่บรรจุอาหารก็คลาสสิคอยู่ ยิ่งถ้าคนเคยไปพักที่ป่าตองมาน่าจะเคยเห็น อย่างข้างล่างนี่ก็จะมีสลัด ขนมปัง ไข่ดาวกับเบค่อนเสิร์ฟร้อนร้อนเจริญอาหารดีนักแล กินไปถ่ายรูปไปก็แหล่วแต้อัธยาศัยเลยจร้า!!

ตบท้ายมื้อเช้าด้วยเจ้า Pancake ผลไม้ และของหวานนิดหน่อยให้พอมีพลังวังชาพร้อมท้าทุกสภาวะการท่องเที่ยว

ส่วนมื้อเที่ยงนั้นที่ Lub d ก็ยังคง Concept เป็น Set Menu เหมือนเดิมที่เพิ่มเติมคืออาหารแนวพื้นบ้านบวกกับฝรั่งเศสประยุกต์ (แนว Twisted หน่อยหน่อย) ซึ่งจานด้านล่างคือไม่แน่ใจว่าหมูหรือไก่แต่ผัดกับผักแล้วจัดวางอย่างสวยงาม ส่วนรสชาติก็จะออกแนวคล้ายบ้านเราเลยฮะ ทานไม่ยากฝากปากท้องได้สบายใจ

ยิ่งถ้าเป็นของหวานตอนเที่ยง ยิ่งไม่ควรเลี่ยงเลยนะแกร๊ เพราะนางคือเมนูที่เราคุ้นชินกินกันตลอด เช่นกล้วยทอดโปะไอติมเย็นเย็นหวานหวาน หรืออีกจานก็เป็นเครปห่อไอติมจ้า กินง่าย กินได้ กินอร่อย แต่ก็ค่อยค่อยกินละกันนะ เดี๋ยวจะหมดไว ฮ่าฮ่า

พอตกค่ำที่นี่ก็จะเป็นแหล่ง Chill out ที่เราโอเคมาก จิบ Cocktail เย็นเย็น หรือจะเล่นน้ำกับคนรู้ใจก็ใช่ไปหมด โดยเฉพาะคืนวันเสาร์ที่ Lub d จะมี Pool Party ให้แกรปล่อยผีกับเพื่อนใหม่ใส่กันได้ตามสบาย แต่ถ้าอยากผ่อนคลายหายเหนื่อย จะนั่งเฉื่อยเฉื่อยฟังเพลย์ลิสต์โปรดก็ไม่มีใครกล่าวโทษเหมือนกัน!

  • Jungle Burger Sports Bar & Bistro

ได้ยินมานักต่อนัก ว่าถ้ามาพักเสียมราฐต้องมาลอง เราเลยมาจองสักที่นั่งเพื่อเทสต์ความปังกันดู Jungle Burger Sports Bar & Bistro ตั้งอยู่บริเวณถนนที่ 26 ระหว่างแม่น้ำและถนน Wat Bo ที่นี่ดังเรื่อง Burger ชิ้นโตซึ่งเขาคุยโวว่าอร่อยมาก ส่วนบรรยากาศร้านก็ออกแนวนั่งชิลชิล ทานอะไรแก้หิวเล่นแบบนั้นฮะ

เมนูเด็ดต้องห้ามพลาดคือ Bobmarley Burger เบอร์เกอร์ที่พาเธออารมณ์ดีกินกี่ทีก็ตัวลอย เท่าที่คุยกับฝรั่งแถวนั้นนิดหน่อย เขาก็บอกว่าอร่อยมาก รสชาติใกล้เคียงตะวันตกจนต้องยกนิ้วให้ ยิ่งไปกว่านั้นพี่พี่พนักงานก็บริการดีสุดประดุจโรงแรมห้าดาวเลยนะแกร!

ปล. ถ้าเธอเป็นสายดริ๊ง ที่นี่เครื่องดื่มราคาค่อนข้างถูกจริงจริงนะฮะ

  • Triangle BBQ Bar

ถัดมาถนนที่ 11 ซึ่งยังอยู่ในบริเวณ Pub Street ที่ที่สายหมูกะทะต้องมาป๊ะสุดขีดกับร้านหมูกะทะ ชาบู BBQ ที่ควรทิ้งให้ท้องหิ้วหิวแล้วค่อยไส้กิ่วมาที่นี่ ตัวเลือกเมนูก็ดูเยอะดี ชิมไปสักทีก็รู้สึกว่าใช่ ส่วนคุณภาพและความสะอาดก็ไม่ต้องห่วง เพราะคืนนั้นเราก็ง่วงนอนหลับสบายไม่ถ่ายท้องจร้า

  • Cafe Central

ร้านคาเฟ่เกร๋ บรรยากาศคูลคูล ดูสบายตาด้วยการทาสีครีมบนสิ่งปลูกสร้างแบบโคโลเนียลสไตล์ ตบแต่งภายในแบบเรโทร และด้วยโลเคชั่นที่โดดเด่นที่นี่เลยเป็นอีกสถานที่หนึ่งซึ่งคนมาอุดหนุนอยู่เสมอ ส่วนอาหารนั้นก็มีบริการทั้งจานเช้า จานสาย จานด่วน หรือจะดวลกาแฟก็ได้ในสไตล์ผสมผสานระหว่างจานตะวันตกและจานเขมร

ปล. เรายังอยู่กันที่ Pub Street และที่นี่คือเสียมราฐนะจ๊ะ (กันลืม!!)

  • Vibe Cafe & Juicery

เป็นคาเฟ่ที่ชิค เท่ และฝรั่งเฮกันโพสต์ลง IG เพียบ ด้วยปรัชญาที่ว่าเสิร์ฟโลกใบนี้สู่โต๊ะอาหาร วัตถุดิบทุกจานเลยเป็น 100% plant-based vegan (มังสวิรัต) เพราะฉะนั้นใครอยากจัดสายคลีน สายเฮลท์ตี้ต้องมาที่นี่อย่างไม่ต้องสงสัย อีกทั้งการตกแต่งของร้านยังสวยโดนใจต้องเราต้องมองประเทศกัมพูชาด้วยทัศนคติใหม่ใหม่เลยแกร๊

อาหารและเครื่องดื่มทุกอย่างล้วนแต่สดสะอาด ปราศจากสารเคมีและสิ่งมีชีวิตตามจริตอาหารมังสวิรัติ ซึ่งจะจัดจานเสิร์ฟแบบแกรต้องเลิฟมากเพราะที่นี่เขาจะเอาใส่กะลามะพร้าวดูว้าวน่ากิน ซึ่งถ้าเป็นคนฟินอินกับอาหาร Diet เช่นพวกกราโนล่า ธัญพืช จะต้องเสร็จสมอารมณ์หมายที่นี่แน่นอน

ปล. ที่นี่ยังบริการอาหาร Gluten Free ปลอดภัยดีสำหรับคนแพ้แป้งด้วยน้า

และรูปด้านล่างคือมุมมหาชนที่ทุกคนต้องมาถ่าย ซึ่งก่อนมาเที่ยวเราก็ขอแนะนำให้ทำวิจัยใน IG หาภาพดีดีมาเลียนแบบแล้วก็ลอกลายถ่ายเปลี่ยนโปรไฟล์ในแบบฉบับของเธอเองได้เลย (ฮ่า) และสุดท้ายที่อยากฝากไว้กับร้านนี้คือทุก 10% ที่เป็นกำไร ทางร้าน Vibe Cafe & Juicery เขาก็จะนำไปช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในชุมชนอีกด้วยนะฮะ

จบไปอีกหนึ่งทริปชิคชิคที่พลิกทัศนคติที่มีต่อดินแดนโบราณอลังการซากอิฐหินดินแดงศิลาแลงอย่าง      เสียมราฐ กัมพูชา ที่ไม่ว่าใครมามักคิดถึงแค่นครวัด นครธม จึงไม่ได้ชื่นชมวิถีชีวิตของชาวบ้านซึ่งดำเนินมาแต่โบราณที่ซ่อนอยู่ หรือสถานที่ที่เกิดการควบรวมทางวัฒนธรรมจนนำไปสู่แลนด์มาร์คที่เที่ยวได้ทุกวัยปลอดภัยต่อทุก Life Style และที่สำคัญคือค่าใช้จ่ายสบายกระเป๋าอีกด้วย

เชื่อเราเถอะว่าการออกเดินทางมันดี๊ดี มันอาจต้องมีเสียตังนิดหน่อย สอยเวลาเราไปบ้าง แต่สิ่งที่พบเจอระหว่างทางอาจเป็นคำตอบของคำถามที่แกรหามาทั้งชีวิตก็ได้นะ

จ ะ เ ที่ ย ว ไ ป ไ ห น เหรอ ตามพวกเราไปสิเธอแล้วจะรู้เอ๊งง!!

บันทึก

บันทึก

บันทึก

บันทึก

บันทึก

บันทึก

บันทึก

บันทึก

บันทึก

บันทึก

บันทึก

บันทึก

บันทึก

บันทึก

บันทึก

บันทึก

บันทึก

บันทึก

บันทึก

บันทึก

บันทึก

บันทึก