ชีวิตมนุษย์ออฟฟิศซินโดรมอย่างเราๆ เมื่อเข้าวันหยุดสุดสัปดาห์ย่อมดี๊ด๊าลั้ลลาเป็นนิจศีล พลางหาที่กินที่เที่ยวที่ทำให้จิตใจเฟี้ยวฟ้าวหายห้าวจากสังคมการทำงานโหดๆ และอีกหนึ่ง Route เพิ่มพลังชีวิตของเราวันนี้จะพาไปกันที่จังหวัด “นครนายก” เมืองใกล้กรุงที่เต็มไปด้วยสถานที่กรีนๆ ภูเขางาม น้ำตกสวย รวยธรรมชาติ ปราศจาก มลพิษ กับ Road Trip สั้นสั้นแบบ จ ะ เ ที่ ย ว ไ ป ไ ห น สไตล์ภายใน 2 วัน 1 คืน
ถ้าพร้อมแล้วตามมาฟอกปอด ฟอกไต ฟอกใจ ด้วยกันเล้ยย !!
ทริปนี้เราออกเดินทางด้วยพาหนะคู่ใจ Mitsubishi Pajero Sport ที่พาเที่ยวฟินอินไปตลอดทาง กว้างขวางนั่งสบาย ภายนอกดีไซน์เรียบหรูดูแพง พร้อมทั้งระบบเสริมความปลอดภัยอัจฉริยะ ทั้งระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ อีกทั้งระบบกล้องมองภาพรอบคัน ซึ่งการันตีได้ว่าจะเป็นทริปที่ปลอดภัย ขับไปไหนก็ถึงปลายทางแน่นอน
:: สนใจข้อมูลรถยนต์ ปาเจโร สปอร์ต คลิก
001 ร้านกาแฟกับต้นไม้
ขับรถออกจากกรุงมุ่งไปประเดิมเจิมกันที่แรกกับ “ร้านกาแฟกับต้นไม้” เพื่อเพิ่มพลังคาเฟอีนกันสักหน่อย Cafe ชิลๆร้านนี้เป็นสไตล์ย้อนยุควินเทจที่ตั้งอยู่คลอง 15 ถนนรังสิต – องครักษณ์ ซึ่งเข้าทางหมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับ จากปากซอยเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร
บรรยากาศภายในร้านก็จะทำให้ใจเราเบิกบานด้วยสีเขียวๆ ในความร่มรื่นของต้นไม้ที่ประดับไปรอบด้าน ส่วนตัวร้านและเฟอร์นิเจอร์ก็จะเป็นไม้เก่า ๆ แถมที่ผนังอาคารก็จะมีที่แปะการ์ดให้เราได้บอกความในใจฝากไว้ให้ใครมาอ่านกันด้วยนะเออ
เมนูเพื่อสู้กับเช้าวันนี้จะมี ลาเต้ร้อน โกโกเย็น มาเอ็นจอยกับขนมปังปิ้งสอดไส้โอวัลตินนม ซึ่งรสชาติก็ขอฝากชมไว้ที่นี่ว่าอร่อย หวานมัน ทานกันไป คุยกันไปท่ามกลางบรรยากาศดีๆ กับเกลอที่รู้ใจเป็น moment ที่สดใสสำหรับวันหยุดสุดขีดจริงๆ จร้า
อย่างที่บอกว่า ตามผนังร้านสามารถแปะ Post it หรือการ์ดเพื่อฝากข้อความต่าง ๆ ได้ตามอัธยาศัย ซึ่งทางร้านก็จะเตรียมกระดาษ ปากกา หรือสีมีไว้ให้เราเลือกใช้ได้ตามชอบใจ ทริปนี้ จ ะ เ ที่ ย ว ไ ป ไ ห น ก็ขอมาเช็คอินไว้หน่อย
อิ่มหมีพลีมันสนั่นพุง พวกเราก็ลาร้านคาเฟ่น่ารักๆ ขึ้นรถหมุนพวงมาลัยและออกเดินทางไปกันต่อ และถึงแม้ระหว่างทาง มีลักษณะพื้นถนนหลากหลายทั้ง ทราย หิน ดิน โคลน ด้วยระบบ Super Select 4WD II เทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อใน Mitsubishi Pajero Sport ทำให้ปลอดภัยมั่นใจในการขับขี่ทุกสภาพถนน
นี่ไงฟังชั่นเก๋ๆ บิดนิด หมุนหน่อย แล้วก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของโหมดฟังก์ชั่น Super Select 4WD II จากระบบขับเคลื่อน 2 ล้อกลายเป็น 4 ล้อ เพื่อความปลอดภัยในทุกสภาวะถนน ส่วนคนบนรถก็นั่งทำหน้าอ้อร้อร้องเพลงชิลๆ บิ้วอารมณ์สวยๆ ยาวไปฮะ
002 พ.ฟาร์ม เมล่อน
ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีเราก็จะมาถึงอีกหนึ่งจุดหมายที่ พ.ฟาร์ม เมล่อน ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.เขาเพิ่ม อ.บ้านนา จ.นครนายก ฟาร์มเมล่อนอร่อย ๆ พร้อมด้วยบรรยากาศดี ๆ ที่ได้รับการโอบกอดจากขุนเขาแห่งนครนายก ซึ่งเราสามารถพกคนรู้ใจเข้าไปเดินเล่นในฟาร์มฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายด้วย
ซึ่งนอกจากเมล่อนแล้ว พ.ฟาร์ม เมล่อน ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมกิจกรรมต่างๆ ของทางฟาร์ม เช่นชมโรงเรือนเพาะชำที่ทำแบบปลอดสารพิษ อีกทั้งยังมีแตงกวา ถั่วฝักยาว มะเขือเทศให้เราเลือกดู เลือกชม เลือกถ่ายตามชอบใจเลย
นอกจากเดินชมโรงเรือนเพาะชำแล้ว ที่นี่ยังมี Cafe’ เล็กๆ ที่ภายในเป็นห้องแอร์ ให้เราไปนั่งแช่กินเมล่อนสดๆ หรือเมนูแปรรูปของเจ้าเมล่อนเป็นขนมหวานอื่น อาทิ เมล่อนภูเขาไฟ ส้มตำเมล่อน สาคูเมล่อน หรือถ้าอยากจะซื้อลูกโต ๆ เอาไปฝากคนที่บ้านก็ได้นะแกร!!
ปล. ช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ จะมีกิจกรรมตัดเมล่อนสดจากต้น เก็บแตงกวา ถั่วฝักยาว และทำสาคูเมล่อนนมสดให้เราร่วมแจมด้วยจร้า
003 อ่างเก็บน้ำห้วยปรือ
ฟินกับสอง Landmark แรกเรียบร้อยก็ค่อย ๆ ถอยรถ Mitsubishi Pajero Sport คู่ใจออกเดินทางต่ออีกประมาณ 1 ชั่วโมงเพื่อไปที่อ่างเก็บน้ำห้วยปรือ ณ ต.เขาพระ อ.เมือง จ.นครนายก ซึ่งเป็นแอ่งเก็บน้ำขนาดเล็กที่ใช้เป็นศูนย์กีฬาทางน้ำของจังหวัดนครนายก และเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจของคนในจังหวัดเนื่องจากที่นี่มีวิวทิวทัศน์ที่งดงาม
ในยุคที่ผู้คนต่างสนใจใน Post รูปชีวิตดีๆ ลงบน Social สถานที่แห่งนี้เลยได้เอี่ยวเพราะความชิวกับวิวชิค ๆ ทำให้เรามาจิกกล้องส่องเลนส์ทำภาระกิจพิชิตยอดไลค์กันได้ไม่อยาก ยิ่ง Background ข้างหลังเป็นสายน้ำและภูเขาเขียวๆ ความสดชื่นนี่เต็มสิบทีเดียวเหมาะกับการมาเที่ยวเพื่อพักใจจากออฟฟิศมากๆ ฮะ
นั่งพักให้หายเมื่อย นั่งเรื่อยๆ จนพอใจ ก็ได้เวลาไปต่อกันที่น้ำตกสาริกา หนึ่งในน้ำตกในอุทยานเขาใหญ่ ซึ่งเราต้องขับรถไปประมาณ 20 นาที สมรรถนะและระบบของรถก็ควรจะเซฟเราเช่นกัน ซึ่งถ้าขับ Mitsubishi Pajero Sport ยังไงก็รอด อีกทั้งยังมีระบบ Adaptive Cruise Control หรือ ระบบล็อกความเร็วแปรผันอัตโนมัติ ลดความเมื่อยล้าเมื่อต้องเดินทางไกลๆ และไม่ต้องมานั่งมัวเหยียบเบรคตลอดเวลาเลยแกร๊!!
004 น้ำตกสาริกา
20 นาทีผ่านไปตามที่แจ้งไว้ใน Google Map เราก็มาถึงอีกหนึ่ง Destination กับน้ำตาสาริกา น้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลจากผาเป็นทอด ๆ ลงมาตั้ง 9 ชั้นจร้า ซึ่งข้อดีของที่แห่งนี้คือแต่ละชั้นจะมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ให้เราได้แวะเล่นเอ็นจอยกัน และที่สำคัญคือมีศาลเจ้าพ่อปลัดจ่าง และ เจ้าแม่สาริกา ที่ชาวนครนายกเขาบอกว่าอย่าลืมมาไหว้เป็นศิริมงคลกันนะฮะ
ด้วยความเป็นน้ำตกที่ Swimming friendly ที่มีว่ายน้ำ และ นั่งเล่นมากมาย จึงเป็นที่นิยมของคนโดยทั่วไปที่มาพักผ่อน มาแช่น้ำเย็น ๆ เก็บเกี่ยวบรรยากาศแห่งความสุขไม่ว่าจะเป็นลูกเด็กเล็กแดงยันผู้ใหญ่ผู้เฒ่าเขาก็มานั่งแช่เท้าผ่อนคลาย สบายปอดกันที่น้ำตกสาริกาในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่แห่งนี้จร้า
005 บ้านพักนครนายก104
เอาล่ะ เล่นน้ำกันเสร็จก็ได้เวลาเข้าที่พัก ซึ่งทริปนี้เราเลือก “บ้านพักนครนายก104” เป็นที่หลับนอนหนึ่งคืนจร้า จากน้ำตกสาริกาเราจะขับมาประมาณ 25 นาทีก็จะมาถึงที่พักภายใต้ concept “เงียบแต่ใกล้” เพื่อสัมผัสบรรยากาศความเป็นธรรมชาติที่ไม่ไกลจากตัวเมืองให้สมกับเป็นทริปพักใจใกล้กรุงของเรานั่นเอง ซึ่งมาถึงปุ๊บก็ยิ้มออกปั๊บกับความชิลและความสวยงามของโฮมสเตย์แห่งนี้ ทั้งร่มรืนย์และดูดีสมค่าราคาคุยมากฮะ
ปล. ที่พักแห่งนี้พาน้องหมามาได้ด้วยนะเอออ
ห้องพักของที่นี่จะมีชื่อน่ารัก ๆ เช่น เรือนขมิ้น เรือนทิวา เรือนหัวปลี เรือนมะขาม เรือนใบบัวและเรือนแม่สาลี่ ซึ่งจะแตกต่างกันที่จำนวนคนที่สามารถเข้าพักได้ในแต่ละหลังนั่นเอง ซึ่งวันนี้เราจะเข้าพักกันที่เรือนทิวาซึ่งเป็นห้องพักสำหรับ 4 คน ภายในห้องพักจะดูขาว ๆ คลีน ๆ มีบริเวณกว้างขวางพร้อมห้องน้ำ ห้องครัวในตัวไม่ต้องกลัวเบียด แถมระเบียงยังมีเปลผูกให้นอนอ่านหนังสือเพลินๆ ชิลไปอีก
เอาล่ะ อาบน้ำ อาบท่า แล้วมาทานมื้อเย็นกัน ซึ่งที่นี่นั้นก็มีสุกี้ให้เราจัดกันด้วย ความดีงามก็ตามที่เห็นเราก็เอ็นจอยอยู่ในเปล ส่วนเพื่อนก็เฮกันเตรียมทำสุกี้ไป อะไรหนอจะดีต่อใจมากไปกว่าสุกี้ร้อนๆ บนศาลาริมน้ำที่มีลมเย็นๆ ใช้เวลานั่งเล่นเรื่อยๆ ไปกับคนรู้ใจในวันหยุดพักผ่อนที่มีค่าของเราก่อนจะเข้านอนฝันดีราตรีสวัสดิ์ฮะ
เช้าวันใหม่สดใสซาบซ่า ตื่นขึ้นมาล้างหน้าแปรงฟันแล้วก็ไปทานอาหารเช้ากันซึ่งจะรวมอยู่ในค่าที่พักเรียบร้อย Breakfast ที่นี่ก็จะมี กาแฟหอมๆ เสิร์ฟร้อนๆ มาให้ทานคู่กับขนมปังคู่กับเนย นมหรือแยม หรือใครอยากจะแอ้มไข่กระทะก็มีให้กิน เสร็จแล้วก็ฟินกับน้ำส้มเป็นการจบมื้อแรกของวัน
หลังจากเพิ่มพลังงานกันมาพอหอมปากหอมคอก็ได้เวลาไปต่อจร้า ส่วนใครสาย Shop แวะซื้อของตลอดทางก็ไม่ต้องกลัว เพราะจะรัวโยนสัมภาระส่วนตัวหรือข้าวของต่างๆ ไว้ใน Mitsubishi Pajero Sport ก็เหลือที่ว่างตล้อดๆ ไม่เต็มสักทีนี่ขนาดเราไปกัน 4 คนและก็ (บางคน) ขนตุ๊กตามาเที่ยว ทีเก็บของด้านหลังก็ยังไม่เต็มสะทีเดียวจร้า
และหนึ่งความดีงามของรถคันนี้คือ เบาะนั่งแบบ Ergo Seat Design ที่นุ่มสบายผ่อนคลายหลัง แถมคนนั่งข้างหลังยังนั่งชิวดูนู้นนี่นั่นผ่านจอ Wide Screen ส่วนตัวได้อีกด้วย ต้องบอกว่าครบครันตอบโจทย์ทุกการเดินทางไม่ว่าใกล้หรือไกลจริงจริง
005 อ่างเก็บน้ำวังบอน
ออกเดินทางกันต่อด้วย Mitsubishi Pajero Sport คันเดิม เพื่อมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายของเช้าวันนี่ที่ อ่างเก็บน้ำวังบอนที่ อ.บางพลี จ.นครนายก ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เช่นกัน อ่างเก็บน้ำวังบอนมีจุดขายที่ความเงียบสงบและร่มรื่นไปด้วยไม้น้อยใหญ่ จึงเป็นที่สนใจของบรรดาสาวก Camping ฮะ ส่วนการเดินทางนั้นพวกเราก็ขับชิลๆ ประมาณ 20 นาทีจากที่พักก็มาถึง
นอกจากมากางเต๊นท์ Camping ที่นี่ยังมีกิจกรรมที่สามารถทำได้แบบวันเดย์นั่นก็คือการพายเรือคายัคในอ่างเก็บน้ำ หรือพายเรือข้ามไปชมน้ำตกกันอีกฟากฝั่ง แต่น่าเสียจังที่เวลาเรามีจำกัดเลยจัดไปแค่พายเรือชิวๆ ลมอากาศเย็นๆ ถ่ายรูปพอมีลง Social Media ให้คนเขาเพลียอิจฉากันฮะ
006 ก๋วยเตี๋ยวกะลาลุงเผ่า
เสร็จจากพายเรือเล่นก็แอบหิว เลยหิ้วท้องขับรถมากันที่ อ.เมือง เพื่อมาร้านก๋วยเตี๋ยวเรือเลื่องชื่อนามว่า “ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือกะลาลุงเผ่า” ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ เขื่อนขุนด่านปราการชล ความพีคของที่นี่จะมีทั้งภาชนะใส่ก๋วยเตี๋ยวที่ทำมาจากกะลา บรรยากาศร่มรื่นไปด้วยแมกไม้ ยิ่งไปกว่านั้นบริเวณตัวร้านยังยื่นออกไปในลำคลองที่เราสามารถลองยื่นเท้าไปจุ่มน้ำให้ปลาคาร์ฟเขาแหวกว่ายผ่านไปมาเล่นๆ รวมถึงโต๊ะอาหารก็โปร่งใส กินไป มองปลาน้อยใหญ่ไปเพลินๆ
ซัดก๋วยเตี๋ยวเรือจนจุใจ ก็ได้เวลาย้อนไปอีกหนึ่งไฮไลท์ใกล้ๆ ร้านก๋วยเตี๋ยวซึ่งก็คือ “เขื่อนขุนด่านปราการชล” ซึ่งทางไปนั้นก็จะวกวนเจอโค้งเยอะหน่อยๆ แต่เราก็ไม่ห่วงเลย เพราะปลอดภัยและจัดเต็มด้วยสมรรถนะ กับระบบ All Wheel Control พร้อมเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะแบบ 8 สปีด ที่มาพร้อมกับระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์แบบไฟฟ้า ทำงานคู่กับ INC และ G-Sensor ช่วยให้ทุกการเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างนุ่มนวลปลอดภัย แม่นยำ ประหยัดน้ำมัน ขับไป ฮัมเพลงไปสบายใจดีนักแล
007 เขื่อนขุดด่านปรากาลชล
และแล้วเราก็มาถึงอีกหนึ่งอ่างเก็บน้ำจนบางคนอาจสงสัยว่าทำไมนครนายกถึงมีอ่างเก็บน้ำเยอะจัง ทั้งนี้ก็เพราะลักษณะภูมิประเทศที่เป็นภูเขาค่อนข้างเยอะและมีความอุดมสมบูรณ์จึงเป็นปัจจัยที่เหมาะกับสร้างเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำไว้ใช้ในจุดประสงค์ที่หลากหลายนั่นเอง ทว่าเขื่อนขุนด่านปราการชลเป็นหนึ่งในโครงการอันเนื่องพระราชดำริของพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อพัฒนาลุ่มน้ำตอนบนและช่วยให้ราษฎรทางตอนล่างมีน้ำใช้ทำการเกษตร การอุปโภคบริโภค รวมทั้งช่วยบรรเทาอุทกภัยที่มักจะเกิดขึ้นในเขตจังหวัดนครนายกเป็นเป็นประจำทุกปีด้วยฮะ
นอกจากจะได้รูปสวยๆ ภาพโดนๆ ยังได้มาศึกษาโครงการดีๆ ที่พ่อหลวงของปวงชนชาวไทยได้สร้างไว้เพื่อดูแลพสกนิกรของท่าน จึงนับว่าเป็นการท่องเที่ยวที่ได้ประโยชน์ทั้งพักผ่อน ทั้งได้ความรู้ และได้ช่วยเผยแพร่สู่สาธารณะชนได้มาค้นหา มาศึกษากันสืบต่อไป
008 อุโมงค์ไผ่ วัดจุฬาภรวนาราม
หลังจากเสร็จจาก เขื่อนขุนด่านปราการชล ปรากฏว่ายังพอมีเวลาอีกนิด เราเลยบึ่ง Mitsubishi Pajero Sport ไปยังอีกหนึ่ง Landmark สุดฮิตอย่าง อุโมงค์ไผ่ ณ วัดจุฬาภรณ์วนาราม ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต. บ้านพริก อ. บ้านนา โดยจะใช้เวลาขับรถประมาณ 50 นาที ทีเด็ดแห่งนี้จะมีซุ้มไม้ไผ่ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติพาดยาวไปหลายเมตร จึงกลายเป็นเขตยอดฮิตติด Social ต้องมาเช็คอิน และฟินกับการทำบุญที่วัดไปด้วยในตัวนั่นเอง
จบไปอีกหนึ่ง Route ยอดฮิตพิชิตออฟฟิศซินโดรมกับจังหวัดนครนายกที่เที่ยวได้ภายใน 2 วัน 1 คืน ซึ่งในทุกการเดินทางนั่นอย่าลืมว่าพาหนะนั้นมีความสำคัญ จึงควรเลือกที่เหมาะสม ปลอดภัยในทุกสภาพการณ์ขับขี่ และทริปนี้ Mitsubishi Pajero Sport ก็ได้ใจเราไปจังๆ เพราะปลอดภัย สะดวกสบาย แถมหรูหราไม่อายใคร เหมาะสำหรับคนชอบเที่ยว ชอบไปเป็นทีมอย่างเราๆ เป็นที่สุด เน้นอีกครั้งว่า ถึงแม้มีเวลาน้อย ไม่ค่อยมีตัง แต่การท่องเที่ยวก็ยังเป็นสิ่งที่เราอยากลองออกไปค้นหา เพราะสิ่งที่ได้นั้นย่อมคุ้มค่ามากกว่าที่เราคิดจริง ๆ
แล้วพบกันใหม่เร็ว ๆ นี้นะแกร๊!!
บันทึก
บันทึก
