ฤดูฝนช่วงเวลาที่เหมาะแก่การออกไปสูดอากาศอันแสนชุ่มฉ่ำดื่มด่ำกับผืนดินอันเขียวชอุ่ม
สองทุ่มของคืนวันศุกร์สุดหรรษาเป็นเวลาดีที่เราหยิบโทรศัพท์มาไลน์หากลุ่มเพื่อนซี้ที่เวลานัดดิบดีมักจะล่ม เพื่อนัดไปเที่ยววันเดย์ทริปกันสักที่แบบว่องไว จึงเกิดเป็นทริปสุดไฉไลที่นัดคืนวันศุกร์ ออกเช้าวันเสาร์ แล้วกลับบ้านให้ทันก่อนเช้าวันอาทิตย์ ณ นครนายก จังหวัดใกล้ๆ ที่ใครๆ ก็ขับรถไปได้ภายในเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง ไม่ว่าแกจะมาเดี่ยว มาคู่ มาเป็นแก๊ง หรือมาเป็นครอบครัว นครนายกก็ตอบโจทย์ทุกความต้องการ และนครนายกวันเดย์ทริปรอบนี้เราขอไปแบบ Adventure เน้นมันส์ๆ ลุยๆ ตั้งแต่นั่งเรือไปปีนป่ายชมน้ำตกที่ซ่อนตัวอยู่ในเขื่อนขุนด่านปราการชลในยามเช้า ขับ ATV ให้มันส์สุดโค้งในช่วงสาย ยิงปืนแบบเท่ๆ ช่วงบ่าย ก่อนปิดท้ายกับการพายเรือคายัคชมวิวน้ำตก อัดกันแน่ๆ เน้นๆ เพื่อปลดปล่อยพลังตามสไตล์วัยรุ่น
ถ้าพร้อมแล้วก็ตามเราไปมันส์กันเลย …
เช้าอันสดใสหลังจากวางแผนกันอย่างดีเมื่อคืนก็ได้เวลาออกเดินทางไปยังจุดหมายแรกของเรากันตั้งแต่เช้าตรู่ แต่ก็ไม่ลืมที่จะหยิบไวตามิ้ลค์นมถั่วเหลืองสุดคุ้นเคยที่กินมาตั้งแต่เล็กจนโต ซึ่งปัจจุบันนี้ไวตามิ้ลค์เค้าก็มีรสชาติหลากหลายให้เลือกไม่ว่าจะเป็นสูตรเอาใจคนรักสุขภาพอย่างข้าวบาร์เลย์และมอลต์, สูตรดับเบิ้ลแบล็คที่มีทั้งงาดำและข้าวสีนิล และนมถั่วเหลืองวีซอย สูตรเอาใจวัยกุ๊กกิ๊กอย่างสูตรชาไทยต้นตำรับ, สูตรดับเบิ้ลช็อคโก และสูตรอัลมอนด์โอ๊ต แถมล่าสุดยังมีไวตามิ้ลค์สูตรเจที่เพิ่มปริมาณฟรี 50 มล. ให้โปรตีนสูงถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ที่ดื่มง่ายสบายท้องออกมาต้อนรับเทศกาลกินเจที่จะถึงนี้ด้วย แค่เลือกดื่มรสชาติที่ชอบสักกล่องก็อิ่มท้องเหมือนได้ชาร์จแบตให้ร่างกายแบบไวๆ ก่อนออกทริป แล้วยิ่งช่วงเทศกาลกินเจที่อาหารการกินอาจจะหาได้ยากในต่างจังหวัด แต่รับรองว่าไวตามิ้ลค์เจ คนทานเจ ทานได้ทุกมื้อทุกวัน “สูตรเจมีให้เลือกหลากหลายสังเกตุที่ธงเจ”
2 ชั่วโมงผ่านไปเราก็มาถึงกันที่ เขื่อนขุนด่านปราการชล เขื่อนคอนกรีตบดอัดยาวที่สุดในโลกที่สร้างขึ้นตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 สถานที่เที่ยวยอดฮิตของจังหวัดนครนายก เมื่อไปถึงเรารีบนำรถขึ้นไปจอดที่บริเวณสันเขื่อน จากจุดจอดรถให้มองไปทางซ้ายมือของสันเขื่อนก็จะเห็นศาลาเล็กๆ มีป้ายเกี่ยวกับการเช่าเรือเที่ยวในเขื่อน ซึ่งราคาเหมาเรือเที่ยวในเขื่อนจะอยู่ที่ลำละ 1,500 บาท จะเลือกเที่ยวเหมาลำแบบเก๋ๆ ชิคๆ ให้มีเวลาถ่ายรูปตามอัธยาศัย หรือจะแชร์เรือกับคนอื่นๆ ก็ได้เช่นกัน ส่วนพวกเราขอเลือกแบบเหมาลำไปเลยเพราะไม่อยากรบกวนคนอื่นที่จะต้องมารอพวกเราถ่ายรูป
หลังจากลงเรือที่ท่า เรือลำใหญ่ก็วิ่งแหวกน้ำสีมรกตพาเราเข้าไปยัง น้ำตกช่องลม ซึ่งเราต้องขึ้นจากเรือและเดินผ่านทุ่งหญ้าสีเขียวสุดสายตาเพื่อลัดเลาะไปที่ตัวน้ำตก โดยที่เราใช้เวลาในจุดแรกนี้ไปทั้งสิ้นเกือบ 40 นาที ไม่ใช่เพราะการเดินทางที่ยากลำบากอะไรแต่เป็นเพราะทัศนียภาพที่แสนสวยงามของทุ่งหญ้าก่อนเข้าไปถึงตัวน้ำตกทำให้เราอดไม่ได้ที่จะหยุดถ่ายรูปกันหลายช็อต
จุดที่ 2 ที่เรือพาเราไปแวะคือน้ำตกผางามงอนหรือในอดีตชื่อน้ำตกนางคอยหรือน้ำตกหูแตก ที่นี่เราต้องเดินตามเชือกกั้นที่มีไว้คอยพยุงในทางที่สูงชัน เพื่อ ไปยังน้ำตกสายเล็กๆ ที่มีน้ำกระเด็นมาพอให้เราได้ชุ่มชื่นหัวใจ ก่อนจะไต่เชือกและปีนป่ายโขดหินขึ้นไปด้านบน เพื่อเจอกับน้ำตกที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูงและส่งเสียงดังก้องในหูของเราสมชื่อน้ำตกหูแตก เอาจริงๆ มันก็ไม่ขนาดนั้นแต่เราอินกันไง 555
ปิดทริปล่องเรือชมน้ำตกกันที่ น้ำตกคลองคราม น้ำตกชั้นเล็กกระจิดริดที่เราสามารถเข้ามาได้แค่ช่วงเฉพาะจังหวะที่น้ำเยอะเท่านั้น ถ้าหากใครอยากลองลงเล่นน้ำในเขื่อนขอแนะนำให้เอาชุดมาเปลี่ยนและลงเล่นบริเวณนี้เพราะจะมีความปลอดภัยมากที่สุด ส่วนพวกเราขอแค่ลงไปแตะๆ น้ำให้พอชื่นใจก็เป็นอันจบ 2 ชั่วโมง 200 รูปแบบกิ๊บเก๋ยูเรก้า
ถัดจากทางน้ำเราก็มาต่อกันที่ทางบก และถึงแม้จะใช้พลังงานไปมากในช่วงเช้า แต่ใจและกายของพวกเราก็ยังพร้อมที่จะไปต่อ เพราะพวกเรายังมีไวตามิ้ลค์สูตรเจที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์จากโปรตีนแบบเน้นๆ ไว้รองท้องก่อนทำกิจกรรมต่อไปแบบหิวเราไม่หิว เหนื่อยเราไม่เหนื่อย แถมแรงดีไม่มีตกไปอี๊ก …
ที่ นครนายกผจญภัย มีกิจกรรมมันส์ๆ ลุยๆ หลายอย่างให้เราได้เลือกทำไม่ว่าจะเป็นการขับรถ ATV, รถโกคาร์ท, ล่องแก่งเรือยาง, หรือเพ้นบอล ให้เราได้เลือกทำ หลังจากตัดสินใจกันอยู่พักใหญ่พวกเราก็เลือกขับรถ ATV พร้อมจ่ายเงิน 400 บาทต่อคนสำหรับคนขับและ 100 บาทสำหรับคนซ้อน ส่วนกิจกรรมอื่นๆ ก็จะอยู่ที่รถโกคาร์ทนั่งเดี่ยว 350 บาทต่อคน 2 ที่นั่ง 450 บาท ล่องแก่งเรือยางเหมาลำ 1,500 บาทนั่งได้ไม่เกิน 8 คน และเพ้นบอลราคา 350 บาทต่อคนได้กระสุน 50 นัดพร้อมชุดอุปกรณ์ป้องกัน ดังนั้นจะมาเดี่ยวมาคู่มาหมู่หรือมาทั้งครอบครัวก็สามารถทำกิจกรรมที่นี่ได้แบบมันส์ๆ จัดสรรได้ตามงบและตามสไตล์กันไป
จากการเลือกขับรถ ATV เพราะคิดว่าจะเป็นกิจกรรมที่มีความชิลสุดอารมณ์เหมือนขับรถชมป่าชมเขาก็กลับกลายเป็นสมบุกสมบันเสมือนไปรบที่เขาชนไก่เพราะต้องบังคับรถผ่านโขดหิน บุกป่า ฝ่าดงไปสัมผัสความงดงามของธรรมชาติ ผ่านลำธารเล็กๆ ที่ไหลลงจากภูเขาที่เรียกว่าคลองมะเดื่อ วกไปวนมาจนกลับมายังจุดเริ่มต้นอีกครั้ง ซึ่งแม้จะมีความผิดพลาดไปหลายประการแต่ความสนุกสนานนั้นเราก็ต้องขอยกนิ้วให้จริงๆ และโชคดีที่เราไวตามิ้ลค์รองท้องไปก่อนมิเช่นนั้นคงมีหวิวหวิวระหว่างทางเป็นแน่
เข็มสั้นชี้ที่เลข 12 อันบ่งบอกถึงฤกษ์งามยามดีของการรับประทานอาหารเราเลือก ครัวชมจันทร์ ร้านอาหารข้างทางที่อยู่ติดทางด้านซ้ายมือก่อนถึงภูเขางามรีสอร์ท ที่ตกแต่งด้วยบรรยากาศสบายๆ หลังจากนั่งอ่านเมนูได้สักพักพวกเราก็สั่งอาหารกันแบบรัวๆ เหมือนกลัวจะไม่ได้กินข้าวแม้ว่าจะลองท้องด้วยไวตามิ้ลค์สูตรเจมาแล้วก็ตาม แต่การกินก็ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับเราเพราะต้มยำกุ้งหม้อไฟ ยำแมงกะพรุน ปลาหมึกนึ่งมะนาว ปลากระพงทอดน้ำปลา และทอดมันกุ้ง ล้วนเป็นจานโปรดของพวกเราทั้งนั้น
อิ่มหนำสำราญอาหารบานเต็มกระเพาะก็ได้เวลาเหมาะเจาะที่จะไปย่อยอาหารด้วยกิจกรรมเบาๆ อย่าง การยิงปืนที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า สนามยิงปืนจริงที่มีเจ้าหน้าที่ทหารชำนาญการคอยดูแลและแนะนำการสอนอย่างใกล้ชิด ภายในสนามเราสามารถเลือกได้ตั้งแต่ระยะ 10 เมตร 25 เมตร และ 50 เมตร รวมถึงอาวุธปืนที่เราสามารถเลือกได้ตั้งแต่ปืนพกแบบแมกกาซีนขนาด 11 มม. ที่เราเห็นในละครตอนที่ตัวร้ายกำลังจะยิงนางเอกตายแต่สุดท้ายลั่นไกใส่ตัวเอง ไปจนถึงปืนลูกโม่ .38 นิ้ว ที่ใช้ปืน Smith & Wesson สุดยอดแห่งปืนลูกโม่มาให้ลองยิง
แม้ว่าการยิงปืนเฉยๆ ก็ทำให้พวกเราตื่นเต้นจนมือไม้สั่นพอแล้ว แต่พวกเราก็อยากจะเพิ่มความตื่นเต้นเข้าไปอีกด้วยการตั้งโจทย์ง่ายๆ สบายๆ ว่าเกมส์นี้ใครแพ้จ่ายค่าข้าว งานนี้นอกจากเสียงลูกปืนแต่ละนัดแล้วก็ยังมีการผสมโรงด้วยเสียงเจื้อยแจ้วโวยวายของเพื่อนๆ แต่ละคนที่รอลุ้นผลคะแนนดังแข่งกับเสียงปืนจนทะลุที่อุดหูเข้ามาด้วย และแสบยิ่งกว่าเสียงของน้ำตกหูแตกซะอีก
หลังจากหาคนได้เสียในช่วงมื้อเย็นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเราก็แวะไปสงบจิตสงบใจพักหูพักขากันที่ น้ำตกสาริกา น้ำตกในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่มีความสูงถึง 9 ชั้น โดยมีผาที่สูงที่สุดสูงประมาณ 200 เมตร โดยแต่ละชั้นหินจะมีชั้นหินธรรมชาติและอ่างน้ำขนาดเล็กรองรับน้ำอยู่ทั่วบริเวณ เราจึงสามารถถอดเสื้อถอดผ้าถอดรองเท้าลงเล่นน้ำได้อย่างสบายหายห่วงเพราะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลเป็นพิเศษตลอดเวลา แต่ในช่วงหน้าฝนแบบนี้น้ำจะมีความไหลแรงเป็นพิเศษในบางช่วง ดังนั้นจะต้องคอยทำตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัดด้วย จะได้มีโอกาสพากายและใจไปทำกิจกรรมให้เต็มที่ได้อีกหลายๆ กิจกรรม
ปิดท้ายวันยามเย็นด้วยการไปพายเรือเล่นชมพระอาทิตย์ตกที่ อ่างเก็บน้ำวังบอน อ่างเก็บน้ำที่อยู่ไม่ไกลจากเขื่อนขุนด่านปราการชลมากนัก และอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เช่นเดียวกับน้ำตกสาริกา ที่นี่คืออ่างเก็บน้ำที่เงียบสงบร่มรื่นเต็มไปด้วยบรรดาต้นไม้น้อยใหญ่ให้ฟีลเหมือนถูกห้อมล้อมด้วยธรรมชาติแบบดีต่อใจเหมาะจะมาตั้งแคมป์ริมน้ำสำหรับคนที่มีเวลา หรือทำกิจกรรมคูลเรียกเหงื่ออย่างการพายเรือคายัคสำหรับคนที่มีเวลาแบบจำกัด โดยเสียค่าเช่าเรือเพียงลำละ 50 บาท จะพาย 10 นาที หรือ 2 ชั่วโมง หรือทั้งวันก็เสียเท่ากัน
เราเข้าถึงสุภาษิตที่บอกว่ามือไม่พายอย่าเอาเท้าราน้ำมากที่สุดก็วันนี้นี่แหละเพราะขนาดพวกเราใช้สองมือ 2 พาย ยังดูลำบากลำบนกว่าจะไปถึงข้างหน้าน้ำตกเพื่อถ่ายรูป กว่าจะหามุมที่ดูเหมาะเจาะก็เล่นเอาเหงื่อตกกันทั้งคนถ่ายและคนถูกถ่ายทีเดียว พอได้ภาพที่ถูกใจพวกเรา ก็ปล่อยกายปล่อยใจใช้สองมือพายไปแบบเรื่อยๆ ไม่สนใจเวลา ไม่สนใจระยะทาง สนใจแค่เพียงเพื่อนที่อยู่ด้วยกันข้างๆ และธรรมชาติรอบตัวที่มอบความสุขให้กับเราตลอดทั้งวัน
เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอเราไม่ลืมที่จะหันไปขอบคุณเพื่อนร่วมทางที่ทำให้วันนี้เป็นวันที่ดีสำหรับเรา ก่อนจะขอบคุณตัวเองที่กล้าตัดสินใจแล้วก็มากันแบบปุ๊บปั๊บที่นครนายกแห่งนี้ แต่ความดีความชอบที่เราจะลืมไม่ได้เลยนั้นต้องขอยกให้ ไวตามิ้ลค์สูตรเจนมถั่วเหลืองที่ดื่มทุกวันดีทุกวันที่เราอยากแนะนำให้นักเดินทางทุกคนพกติดกระเป๋าไว้เป็นกองหนุนของทุกการเดินทาง ตัวช่วยที่ทำให้กายของเราพร้อมพร้อมๆ กับใจ ยิ่งช่วงเทศกาลกินเจที่อาหารการกินอาจจะหาได้ยากในต่างจังหวัด แต่รับรองได้เลยว่าไวตามิ้ลค์มีสูตรเจหลากหลายรสชาติให้ได้เลือก คนทานเจ ทานได้ทุกมื้อทุกวัน งานนี้ดื่มทีเดียวได้ทั้งอิ่มได้ทั้งบุญเหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
กองทัพต้องเดินด้วยท้องฉันใดการเดินทางก็ต้องเดินด้วยพลังกายและใจฉันนั้น ดังนั้นพกไวตามิ้ลค์ไว้ก็มั่นใจได้ว่าพวกเราจะพร้อมทำกิจกรรมลุบๆ มันส์ๆ ได้อย่างสนุกสนานไม่ต้องกลัวจะหมดแรงหรืออารมณ์เสียเพราะความหิว จะกิจกรรมเบาๆ ชิวๆ หรือกิจกรรมแนวแอดแวนเจอร์ก็ขอให้บอก แค่กายพร้อม ใจพร้อม ใครๆ ก็ทำได้ แม้ต้องทุ่มสุดแรงเทสุดพลังเหมือนกับทริปนครนายกของเราในครั้งนี้ก็ตาม ใครที่มีเวลาแค่วันเดียวเรารับรองว่านครนายกนี่ล่ะตอบโจทย์ ส่วนใครมีเวลามากกว่านี้นครนายกก็ยังมีที่เที่ยวและกิจกรรมอื่นๆ ให้ทำอีกมากมาย ถ้าใครพร้อมแล้วก็เดินทางกันเลย