รีวิวกรุงเทพฯ : One day in Thonburi

วันหยุดสุดชิวที่อยากจะเห็นวิวใหม่ ๆ แต่ก็ไม่อยากออกไปไหนที่ไกลกรุง ทริปนี้จึงเกิดเป็นไอเดียเที่ยวใส ๆ สไตล์สาวฝั่งธนฯ ที่แม้ไม่ได้มีวัดและวังมากเท่าฝั่งพระนคร หรือโก้อย่างสาวบางโพตามเนื้อเพลง แต่ฝั่งนี้เราก็ขอการันตีในความเพรียบพร้อมแบบสาวสวยแสนเพอร์เฟกต์ผู้เข้าถึงง่าย และครบครันตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์กิน เที่ยว ดื่ม เช้าจรดเย็น ทั้งคาเฟ่ชิคเก๋ ร้านอาหารครบรสแนวโลคอล หรูหราหมาเห่าแบบเรสโตรองต์ แม้กระทั่งที่แฮงค์เอ้าท์ริมแม่น้ำยามค่ำก็ยังมี ยิ่งอีกหน่อยรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินจะเปิดให้ใช้บริการในย่านฝั่งธนฯ อีก ยิ่งครบ จบปิ๊ง เที่ยวจนอดอิจฉาคนที่อยู่ย่านจรัญฯ ขึ้นมานิด ๆ ไม่ได้เลยล่ะ เอาล่ะ เตรียมท้องให้ว่าง แล้วใส่ชุดเก๋ ๆ ที่คาดว่าเท่ที่สุดในฝั่งธนฯ เตรียมกล้องขึ้นฟิล์มให้พร้อม แล้วมาตะลอนร่อนให้ทั่วกับทัวร์จรัญฯ วันเดย์กันบัดเดี๋ยวนี้

01 :: FOLKTALES CAFE & BISTRO

ยุคนี้ย่านไหนไม่มีคาเฟ่คงเหมือนน้ำปลาที่ขาดพริก อย่างย่านฝั่งธนฯ นี่บอกเลยว่าสายคาเฟ่ฮอปปิ้งจะต้องเลิฟสุด ๆ เพราะย่านนี้นี่แน่นไปด้วยคาเฟ่หลากสไตล์ให้เลือกได้หลายแบบ แต่เราจะขอเริ่มที่แรกกันแบบสไตล์คลาสสิคเรโทรในซอยบางแวก83 ย่านจรัญสนิทวงศ์13 ที่ทางร้านทำการยกสวนสไตล์เมกันยุค 80s ซึ่งโดดเด่นด้วยพืชฤดูร้อนอย่างตะบองเพชรและต้นตาลสูงชะลูด เพิ่มเติมด้วยรถโบราณสุดเท่ที่มองรวม ๆ แล้วเหมือนเราหลุดเข้าไปอยู่เมกาจริง ๆ งานนี้สายคาเฟ่ได้อวดรูปเท่ ๆ ไม่เหมือนใคร จะแต่งตัวแบบไหนก็การันตีความชิค ปรับรูปนิดแต่งสีหน่อยต้องร้อยไลค์เป็นอย่างต่ำ!!!

แอคติ้งโพสท่าถ่ายรูปพอกรุปกริป ทางเราก็ขอหลบร้อนมานั่งพักโหลดรูป แต่งรูป แล้วอัพแบบเรียลไทม์เหมือนกลัวเพื่อนไม่รู้ว่ามาวู้ฮู้อยู่แถวจรัญ พร้อมสั่งเมนูซาบซ่าสุดสดชื่นอย่าง Apricot Folktales ที่เอาน้ำแอบปริคอตผสมกับเนื้อบ๊วยแล้วปั่นรวมกันกลายเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้านที่หวาน เปรี้ยว ซ่า มาครบในแก้วเดียว กับลาเต้ร้อนฟองนมนุ่ม ๆ มาทานคู่กับบราวนี่ดาร์คช็อคที่เข้มข้นถึงใจ กินคู่กันแล้วอร่อยลงตัว แต่ถ้าใครชอบเมนูอื่น ๆ เค้าก็ยังมีเครื่องดื่มเลิศ ๆ ให้เลือกอีกหลายอย่าง

02 :: ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัดดงมูลเหล็ก

ที่ ๆ สองขอมาจัดหนักกับก๋วยเตี๋ยวที่เลื่องชื่อที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัดดงมูลเหล็กเจ้าอร่อยที่เป็นตำนานมากว่า 80 ปี เจ้าแรกดั้งเดิมของแท้ออริจินอลแบบไม่มีสาขา ณ สามแยกไฟฉาย ในตึกแถวเก่าขนาด 4 คูหา อนาคตสามารถมาด้วยรถไฟใต้ดินลงที่สถานีสามแยกไฟฉายแล้วเดินอีกนิดหน่อย หรือจะขับรถมาก็ไม่ยากอย่างที่คิด เพราะจากถนนจรัญสนิทวงศ์เราแค่ตรงไปแล้วเลี้ยวเข้าถนนพรานนกตรงสามแยกไฟฉาย ก็จะได้ฟีลแบบดั้งเดิมเหมือนเดินเข้าไปกินในร้านแบบสมัยเด็ก ๆ ส่วนกลิ่นเครื่องเทศที่หอมฉุย คือเครื่องการันตีความเด็ดแบบยังไม่ชิมกระเพาะก็สั่นไหว

แน่นอนว่าการมานั่งในร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อเราก็ต้องสั่งเนื้อมาแบบจุก ๆ เริ่มที่เส้นเล็กเนื้อใส่ทุกอย่าง เกาเหลาพิเศษลูกชิ้น เส้นใหญ่เนื้อรวมเพิ่มเนื้อสด โดยไฮไลต์ที่ทำให้เนื้อนุ่ม ชุ่มลิ้น ก็คือเค้าจะราดน้ำซุปร้อน ๆ ลงไปในเนื้อสดทำให้สุกพอดีและไม่กระด้างจนเกินไป ส่วนเนื้อเปื่อยก็นุ่มแบบละลายในปาก เอ็นแก้วก็ละมุน ลูกชิ้น ตับ หัวใจ เครื่องในอื่น ๆ ก็ชิ้นใหญ่และไม่เหม็นคาว น้ำซุปก็ชวนร้องว้าว เอาเป็นว่าสายเนื้อตัวจริงต้องมาโดนร้านออริจินอลที่นี่ให้ได้นะบอกเลย

03 :: The Combine Cafe and Art Gallery

อิ่มฟินเป็นที่เรียบร้อย… เราก็ขอกลับเข้าสู่โหมดคาเฟ่ฮอปปิ้งแล้วฮอปมาที่ The Combine Cafe and Art Gallery ที่เดินทางง่ายดายด้วย MRT คาเฟ่ที่จะมอบทั้งความสดชื่นของคาเฟอีนและแพชชั่นจากงานศิลปะ ณ บ้านไม้เก่าแก่อายุกว่า 50 ปี ที่ได้วิศวะกรผู้หลงไหลในศิลปะมาปรับปรุงและเติมความทันสมัย แต่ยังคงความคลาสสิกร้านเก๋ ๆ นี้ และด้านนอกก็ยังมีพื้นที่สีเขียวเป็นสวนหย่อมขนาดย่อมให้เราได้นั่งฟอกปอดกันชิว ๆ งานนี้จะพกหนังสือดี ๆ สักเล่มมาอ่าน หรืองานสักปึกมาทำก็ยังได้

ส่วนใครอยากเพิ่มแพชชั่นให้ชีวิต เราแนะนำให้เดินขึ้นชั้นสองของบ้านเพราะด้านบนเค้าจะมีการจัดแสดงผลงานศิลปะหมุนเวียนทุก ๆ สามเดือน อย่างช่วงที่เราไปก็ได้ชมภาพวาดสีสันสดใสของสัตว์เลี้ยงที่ชวนให้ยิ้มแป้น ทั้งน้องแมวในดงดอกไม้ น้องนกบนกิ่งไม้ และเด็กหญิงในสวน หรือถ้าใครอยากจะเช่าที่จัดประชุมสัมมนาที่นี่เค้าก็มีให้บริการ พร้อมของว่างและเครื่องดื่มให้รองท้องช่วงเบรคกันด้วย

04 :: Double Slash // Coffee Space

สำหรับสายมินิมอลเราขอพาฮอปมาที่ Double Slash // Coffee space คาเฟ่น้องใหม่ใกล้สะพานพระราม 8 ที่โดดเด่นสะดุดตาจากความเรียบง่าย ตัวร้านเน้นสีขาวและกระจกบานใหญ่ ทั้งจากด้านหน้าและด้านบน ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย ด้านในใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้เรียบ ๆ สามารถนั่งได้เพลิน ๆ เจริญตากับผู้คนที่ผ่านไปมา เจริญใจกับความเรียบง่าย และเจริญอาหารจากกาแฟชั้นดีที่ใส่ใจในทุก process ตามที่มาของชื่อร้านที่เกิดจากการกลั่นกรองทุกขั้นตอนตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบจนออกมาเป็นกาแฟแก้วโปรด

ในส่วนของเมนูจะมีให้เลือกค่อนข้างน้อย แต่ก็น้อยแบบเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ เพราะเค้าค่อนข้างจะพิถีพิถันในแต่ละขั้นตอนอย่างเมนู Espresso เค้าก็เอาเมล็ดกาแฟถึง 2 ชนิดจาก Hand and Heart คือ My love และ Underdog ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนกันมาเบลนเข้าด้วยกันจนออกมาเป็นเอกลักษณ์แนวใหม่ไม่เหมือนใคร ตัวขนมก็ใช้ส่วนผสมอย่างดีจนออกมาเป็นครัวซอง บราวนี่ และขนมอื่น ๆ ที่หอม อร่อย จนเราอยากให้แกได้มาลองเองสักครั้ง

ส่วนคนที่ไม่ใช่สายกาแฟ ก็แวะมาที่นี่ได้แบบไม่ต้องกลัวคอแห้ง เพราะเค้ามีเมนูมัทฉะที่ใช้ผงมัทฉะจาก Peace Oriental Teahouse มัทฉะสีเขียวเข้มที่ข้น ลงตัว เหมือนไปนั่งดื่มชาถึงแดนซากุระ เปลี่ยนความง่วงเป็นความสดชื่น เพิ่มสุนทรียของการดื่มชาไปอีกขั้น

005 :: คั่วชามเปล

ตัดเลี่ยนกันสักนิดกับของคาวที่ขึ้นชื่อมานานกว่า 30 ปี ที่ คั่วชามเปล ร้านก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ที่ใส่ชามเปลเวลาเสิร์ฟ แต่ถ้าใครชอบซีฟู้ดก็มีคั่วทะเล คั่วปลาหมึกให้ได้ชิม และถ้าอยากลองลิ้มก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่น้ำ หรือโจ๊กหมูก็มีให้ทาน ใครอยากพิสูจน์ความอร่อยของเส้นนุ่ม ๆ หอม ๆ กลิ่นซอสที่อบอวลอยู่ในปาก ไก่ชิ้นนพอดีคำที่ช่วยเพิ่มรสชาด ผักกาดหอมเพิ่มความสดชื่น ยิ่งเคี้ยวยิ่งเพลิน เติมซอสพริกสักนิดพิชิตใจทุกคนที่ได้ชิมแบบเด็ดขาดแน่นอน แต่แนะนำว่าควรโทรจองไม่เช่นนั้นอาจต้องรอเป็นชั่วโมงจนท้องกิ่ว พิกัดก็ง๊ายง่ายเพราะอยู่ตรงข้ามกับร้านกาแฟ Double Slash ที่เราเพิ่งดื่มจบไปนั่นเอง

06 :: 342 Bar

เดินทางกันมาจนถึงยามเย็น เราขอตัดภาพไปเตร็ดเตร่แบบชิว ๆ ที่ริมน้ำเจ้าพระยา สายเลือดใหญ่ของกรุงเทพฯ เมืองเทพสร้างที่ร้าน 342 Bar Rooftop บนชั้น 5 ของบ้านวังหลัง ริเวอร์ไซด์ โรงแรมเล็ก ๆ ย่านวังหลังที่เดินทางง่ายดาย ทั้งทางรถและทางเรือ แถมเรายังแอบเห็นโครงการรถไฟฟ้าแถวศิริราชที่จะสะดวกยิ่งขึ้นในอนาคต ตัดกลับมาที่วิวร้าน บอกเลยว่าวิวแม่น้ำเจ้าพระยานี่ ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็ดีงามและชิวสุด ๆ ยิ่งช่วงยามเย็นที่อากาศดี ๆ นี่บอกเลยว่าฟินเป็นที่สุด แถมจากมุมนี้ยังมีวิวพระปรางวัดอรุณฯ โลเคชั่นตัวท้อปของย่านนี้ให้ถ่ายรูปเล่นกับแสงยามเย็นสีทองที่สะท้อนกับท้องน้ำกิ๊บ ๆ เก๋ด้วย

นั่งเพลิน ๆ ท่ามกลางบรรยากาศดีแบบนี้ ใครจะอดใจไหว ขอสั่งเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์มาดริ้งค์ให้เลือดสูบฉีดสักเล็กน้อย ซึ่งทางร้านแนะนำเป็น 324 Paradise ที่ใส่วอดก้า, บลูคูราโซ่, ไลม์ และน้ำลิ้นจี่ จนรสชาติพอดิบพอดี ดื่มได้เรื่อย ๆ แต่เผลอปุ๊บอาจฟุ๊บปั๊บ ส่วนใครที่มาสายชิวฟีลเพลิน ๆ ก็สามารถสั่งม็อกเทลมาจิบชิว ๆ ได้เช่นกัน ถือเป็นการปิดท้ายวันย่านฝั่งธนฯ ได้เพอร์เฟค เงียบสงบ ไม่จอแจ เป็นหนึ่งวันที่ครบเครื่องแบบน้ำจิ้ม ๆ ชวนให้ติดใจย่านนี้ และอยากมาตามหาที่กิน ที่เที่ยว ที่ดื่มที่มีอีกหลายที่ในวันหยุดครั้งต่อไปอีกสักสองสามรอบ

ครบเครื่องรอบด้านกับการใช้ชีวิตดี ๆ ขนาดนี้ หากได้ย้ายมาอยู่รับรองอู้ฟู่ไปด้วยความสุข ลองนึกภาพที่ได้ตื่นเช้าแบบกำลังดี บิดขี้เกียจเบา ๆ เปิดม่านไปชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ค่อยอาบน้ำแต่งตัวออกไปแวะซื้อกาแฟดี ๆ สักแก้ว แล้วเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าแบบชิวเพื่อเริ่มงาน กลับบ้านมาหาอะไรอร่อย ๆ กิน วันหยุดก็ตะลอนทัวร์แนวรถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน แม้แต่เรือแบบไม่ต้องสนรถติด อยากกินอาหารถิ่นก็อยู่ไม่ไกล อยากหาอะไรแบบชิค ๆ ก็มีอยู่ทั่ว นี่ล่ะคงเป็นการมีชีวิตดี ๆ ที่ลงตัวตามคำขวัญของ กทม. สักที และถ้านี่คือไลฟ์สไตล์ที่แกฝันถึง คอนโดดี ๆ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.59 ล้านบาท อย่าง Ideo Charan70 River View ก็พร้อมตอบโจทย์ เพราะนี่คือที่พักดี ๆ ที่มาพร้อมทำเลเป๊ะปัง วิวแม่น้ำ สะดวกสบายด้วย MRT Blue line ตัวเชื่อมใจกลางเมืองและฝั่งธนฯ Facility ต่าง ๆก็ครบครันตลอด 24 ชั่วโมง แถมมีห้อง HYBRID แห่งแรกในจรัญที่มี High Ceiling สูงถึง 4.55 เมตร และที่นี่จะทำให้ที่อยู่อาศักลายเป็นไลฟ์สไตล์แสนสุขขี ดีงามขนาดนี้รีบตามเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่ แล้วจองก่อนใคร ย้ายสำมโนครัวมาสร้างไลฟ์สไตล์ชิว ๆ กันดีกว่า