Shopping & Eating : King Power Rangnam

หากการช็อปสินค้า Duty Free ในสนามบินมันไม่เคยเต็มอิ่ม ต้องคอยเงี่ยหูฟังประกาศ Final call หรือบางทีช็อปยังไม่ทันเสร็จดีก็ต้องรีบวิ่งขึ้นเครื่อง ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปแบบง่าย ๆ เพียงแค่แกมาที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ซึ่งตอนนี้เค้าได้รีโนเวทใหม่บนพื้นที่กว่า 22,000 ตารางเมตร ให้เป็นอาณาเขตแห่งความสุขครบวงจรภายใต้คอนเซปต์ “EXPLORE ENDLESSLY” เป็นศูนย์รวมสินค้าปลอดภาษีระดับเอเชียแปซิฟิกที่ไม่มีที่ไหนเทียมทัดได้ แถมแบรนด์หรูชั้นนำระดับโลกก็ต่อแถวมาเปิดตัวอีกเพียบ คราวนี้แหละเวลามีแพลนบินเมื่อไหร่เราก็จะได้ช็อปให้จุใจแบบอะไรก็มารั้งชั้นไม่ได้ ส่วนคนที่ไม่มีแพลนจะบินก็มาเดินช็อปสินค้าป้ายฟ้า ชิม Street Food และอาหารร้านดัง ๆ ที่ขนมารวมไว้ที่นี่ได้เช่นกัน เห็นไหมละว่า คิง เพาเวอร์ รางน้ำ โฉมใหม่รอบนี้มันน่าสนใจขนาดไหน เอาเป็นว่าวันหยุดที่จะถึงนี้ถ้ายังคิดไม่ออกว่าจะไปตากแอร์ห้างไหนลองมาเดิน ช็อป ชิม ชิลล์ ที่นี่ดูสิ

ถ้า “ของมันต้องมี” คือคติประจำใจ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ แห่งนี้จึงเป็นจุดหมายใหม่แห่งไลฟ์สไตล์ที่ใช่และชัวร์มาก ๆ โดยอย่างที่เกริ่นไว้ว่าที่นี่ได้ปรับปรุงพื้นที่กว่า 22,000 ตารางเมตร ให้เป็นเขตศูนย์รวมสินค้าปลอดภาษีระดับเอเชียแปซิฟิคสุดชิค ที่ขนขบวนสินค้าแบรนด์เนมหรูมาไว้ให้เหล่าบรรดานักช็อปได้เลือกดูเลือกซื้อกันอย่างจุใจทั้งแบรนด์ไทยและเทศ แต่สิ่งที่เป็นไฮไลท์มาก ๆ ก็คือสินค้า Duty Free ที่ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องรีบไปซื้อก่อนขึ้นเครื่องที่สนามบิน เพียงแค่มีพาสปอร์ตและไฟลท์บินก็ฟินกับสินค้าราคาโดนใจกันได้เลย

หากใครยังสงสัยว่าของที่  คิง เพาเวอร์ ถูกจริงเหรอ เราขอจับมานั่งปรับทัศนคติใหม่เพื่อให้เข้าใจตรงกันว่า “มันถูกและคุ้ม” เพราะจากการไปเซอเวย์มาด้วยตัวเองทำให้เรากล้าคอนเฟิร์มกับทุกคน ยิ่งไปกว่านั้นต่อให้เราไม่มีแพลนจะไปเที่ยวที่ไหน ก็สามารถไปเดินเล่นที่  คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ได้เหมือนห้างอื่น ๆ เช่นกัน ส่วนที่ตั้งนั้นก็ไปง่ายแสนง่ายจะเปิด GPS ขับรถไป หรือจะนั่งรถไฟฟ้าลงที่ BTS อนุเสาวรีย์แล้วต่อ Shuttle Bus ฟรีที่ Century ได้เลย

เอาล่ะ… เกริ่นมาเสียเนิ่นนาน ก็ถึงเวลาเนียนทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดีพาทุกคนไปตะลุยซอกแซกทุกพื้นที่ใน คิง เพาเวอร์ รางน้ำ กันหน่อย ซึ่งแต่ละชั้นก็จะประดิษฐ์ประดอยด้วยสไตล์อินทีเรียดีไซน์ที่ต่าง ๆ กันทำให้การเดิน Shopping ของเรานั้นไม่น่าเบื่อ เช่นชั้นแรกก็จะแทรกบรรยากาศด้วย Concept ของการตกแต่งด้วยทองคำ เข้ากันดีกับแบรนด์เนมชั้นนำทั้งกระเป๋าและแว่นตา อาทิ  Prada, Gucci, Bottega Veneta, BURBERRY, Valentino และ Coach เป็นต้น

และพิเศษสำหรับผู้ที่กำลังจะเดินทางไปต่างประเทศและหลงรักการ Shopping แต่ยังไม่ได้เป็นสมาชิก ทาง คิง เพาเวอร์ เขามีโปรโมชั่นพิเศษ “King Power Card” ซื้อแล้วช็อปได้เลยยยยยย รับวงเงินในบัตรเท่ายอดซื้อ แถมได้ส่วนลดด้วย มีให้เลือก 2 แพ็กเกจ คือ 1,000 และ 6,000 บาท

  • บัตรมูลค่า 6,000 บาท ได้ส่วนลด 10% รับคูปอง on-top 5% อีก 2 ใบ
  • บัตรมูลค่า 1,000 บาท ได้ส่วนลด 5% รับคูปอง on-top 5% อีก 1 ใบ

หลังช็อปอย่าลืมลงทะเบียนเพื่อเป็นสมาชิก คิง เพาเวอร์ รับฟรี 50 กะรัต รับบริการห้องรับรองพิเศษ และสิทธิประโยชน์มากมายทุกการเดินทาง หาซื้อได้ที่ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. – 31 มี.ค. 61 ข้อมูลเพิ่มเติม King Power Contact Centre 1631

เดินจนหมดชั้นหนึ่งก็ได้เวลาขึ้นมาไปซอกแซกต่อกันที่ชั้นสอง ซึ่งถ้ามองจะเห็นดีไซน์สไตล์โค้งมนราววนเวียนแห่งกาลเวลา ที่ชั้นนี้จะมีสินค้าอยู่ห้าหมวดได้แก่ นาฬิกาและจิลเวลลี่ หมวดบิวตี้เครื่องสำอางค์ หมวดรองเท้าสำหรับแฟชั่นและกีฬา หมวดผลิตภัณฑ์สปาสำหรับวันพักผ่อนช้าๆของเรา สุดท้ายคือหมวดอุปกรณ์เกี่ยวกับเทคโนโลยีเขาก็จัดไว้ที่ชั้นนี้จ้า ถ้ากลัวจะหลงหรือกลัวงงเพราะว่าไม่รู้ว่าอะไรอยู่ที่ไหน เราแนะนำให้ จิ้มไปที่ เพราะเขาจะมีแผนที่ให้เราได้สร้างแลนด์มาร์คไว้ก่อน เผื่อใครใจร้อนไม่อยากเสียเวลาเดินหานาน ๆ

สำหรับเราชั้นสองคือสวรรค์สำหรับสาว ๆ แต่เป็นคราวเคราะห์สำหรับหนุ่ม ๆ เพราะ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เขาทุ่มหอบทุกแบรนด์มาไว้ให้สาแก่ใจ ไหนจะยี่ห้อดัง ๆ ที่ยังไม่มีร้านในฝั่งไทย อาทิ LE LABO , Giorgio Armani และ Atelier Cologne ที่เมื่อก่อนต้องเสียตังเพื่อบินไปช็อปที่เมืองนอกเมืองนา หรือจะฝากเขาหิ้วมาก็กลัวจะได้ของไม่ดี แต่วันนี้ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ก็แก้ไขปัญหานี้ให้เราได้เยอะเลยทีเดียว

ว่ากันด้วยเรื่องสิทธิประโยชน์ของการสมัครบัตรสมาชิก คิง เพาเวอร์ นอกจากจะได้ส่วนลดตามหน้าบัตรสูงสุดที่ 20% แล้ว ในทุก ๆ การจับจ่ายใช้สอย 100 บาท เราจะได้แต้ม 1 กะรัตมาสะสมเพื่ออัพเกรดบัตรสมาชิกเป็นขั้นต่อไป ทั้งยังได้ส่วนลดสายการบิน ร้านค้า อัตราเงินแลกเปลี่ยน บริการรถเช่า นอกจากนั้นเขายังมีกิจกรรม Exclusive สุด ๆ สำหรับสมาชิกเท่านั้น เช่น Workshop ต่าง ๆ หรือ Wine Tasting ซึ่งรับรองว่าเราจะไม่พลาดทุกข่าวสารจริง ๆ เพราะระบบจะยิง Email แจ้งเตือนเราตลอดฮะ

การซื้อสินค้าที่นี่ มีให้เลือก 2 แบบ คือ สินค้าป้ายราคาสีขาว (สินค้า Duty Free ต้องซื้อขาบินออกต่างประเทศเท่านั้น) ใช้แค่ไฟลท์บินกับเลขพาสปอร์ตของผู้ซื้อ โดยของที่ซื้อสามารถไปรับได้ที่สนามบินในวันเดินทางตามไฟลท์บินที่แจ้งไว้เลยนะฮะ ส่วนใครที่ไม่มีไฟลท์บินก็ช็อปได้ แค่เลือกดูสินค้าป้ายราคาสีฟ้า ซื้อแล้วรับกลับได้เลย

อีกหนึ่งโซนที่ไม่เอ่ยถึงก็คงไม่ได้สำหรับสายสปอร์ตแมน ๆ ที่กำลังอยากคลอดชุดกีฬาเซ็ตใหม่ ก็สามารถไปเลือกซื้อเลือกหาสินค้าราคาพิเศษได้ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ได้เช่นกัน อีกหนึ่งเรื่องที่นี่นั้นจัดโซนนิ่งที่ดีมาก ๆ ไม่วก ไม่วน ไม่สับสนหลงทางเหมือนหลาย ๆ ห้างดัง อยากนัดกันตรงไหน ก็เลือกโซนแล้วบอกกันไปง่าย ๆ ไม่ต้องเหนื่อยหน่ายเดินหาจนหัวร้อน ฮ่า ๆ

ต่อมาสำหรับคนที่สรรหาของฝากเพื่อนต่างชาติและอยากได้ของที่มีกลิ่นอายความเป็นไทย ให้ตรงดิ่งไปที่โซน Thai Lifestyle Collections บนชั้นสามเพื่อเลือกช็อปสินค้าภูมิปัญญาไทยได้ตามอัธยาศัย ทั้งตุ๊กตา กระเป๋า เสื้อผ้า ที่ทำขึ้นมาอย่างประณีตละเอียดละมุนละไม ใครได้รับไปรับรองว่าต้องดีใจแน่นอน

นอกจากของข้าวของเสื้อผ้าน่ารัก ๆ อีกหนึ่งมนต์เสน่ห์ที่เป็นที่รู้จักของคนต่างชาติก็คือของฝากที่เป็นเครื่องแกงไทย ขนมไทย หรือผลไม้อบแห้ง และทาง คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ก็จัดมาครบจบทุกความต้องการในที่เดียว เรียกได้ว่ามาไม่เสียเที่ยวแน่นอน ส่วนใครที่ยังไม่มีไอเดียว่าจะจัดตัวไหน ทางพี่ ๆ King Power เขาก็กระซิบมาให้ว่า King Pow Roll ขายดีสุด ๆ จนอยากให้ลองกัน

เพราะ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ เขามีพื้นที่กว้างใหญ่ ถ้าเดินไปแล้วรู้สึกหิว ก็เชิญมานั่งหาอะไรทานชิลล์ ๆ ก่อนเดินตัวปลิวไปช็อปกันต่อได้ที่ Thai Taste Hub แหล่งรวมสตรีทฟู้ดระดับตำนานที่เราเคยรีวิวไว้ ที่นี่ แต่ถ้าจะให้เล่าอีกทีที่แห่งนี้ก็จะยกขบวนอาหารรสชาติดีชื่อดังจากทั่วกรุงเทพ มาไว้ด้วยกัน อาทิ ห่านท่าดินแดง กุ้งเผาอยุธยา ข้าวขาหมูจุฬา และทิพย์สมัยผัดไทยประตูผี เป็นต้น

ความดีงามของโซนสตรีทฟู้ดในห้องแอร์ คือเราไม่ต้องแคร์ความร้อนและมลพิษบนท้องถนนใด ๆ ไร้ฝุ่น ไร้ควัน ไร้ความมันบนใบหน้า ไม่ต้องคอยหาผ้ามาเช็ดหยาดเหงื่อไคล ไม่ต้องวุ่นวายใจกับการต่อคิว ไม่ต้องแบกท้องหิวเพื่อฝ่ารถติด ไม่ต้องหงุดหงิดเมื่ออยู่ดีดีร้านก็ปิด เห็นไหมว่าชีวิตง่ายขึ้นเยอะเลยเมื่อมาที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ แห่งนี้!!

นอกจากสตรีทฟู้ดที่รับรองว่าอร่อยโดนใจ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ก็จัดร้านอาหารนานาชาติมาไว้ที่นี่เช่นกันกับ Restaurant and Cafe’ โซนเกร๋ ๆ ที่มี 11 ร้านดังโดนใจวัยรุ่น อาทิ Make Me Mango หรือ Nantsuttei Ramen เจ้าของสถิติ Ramen Champion 5 ปีติด ที่อยากให้ลองสะกิดคนใกล้ตัวมาลองกัน ส่วนวันนี้เราจะพาทุกคนไปชิมอาหารคลีนเพื่อสุขภาพที่ดีกับ Brekkie Organic Cafe & Juice Bar

Brekkie Organic Cafe & Juice Bar เป็นอาหาร Superfood สุด Healthy ดีต่อร่างกายภายใต้ร้านที่ตกแต่งด้วยโทนไม้บวกสีขาวสบายตา เหมาะที่จะพาคนสำคัญมาใช้เวลาร่วมกันกับอาหารอร่อย ๆ ให้เวลาค่อยๆไหลผ่านอย่างช้า ๆ กับบทสนทนาที่เป็นกับแกล้มเคียงอาหารชั้นดี ส่วนสาขาหลักจะอยู่ที่เส้นสุขุมวิท ถ้าอยากหนีรถติดก็ลองมาใช้บริการที่นี่กันนะฮะ

อีกหนึ่งร้านที่แนะนำสำหรับสายโปรตีนเต็มคำก็คือ EI Gaucho Argentinian Steakhouse ร้านสเต๊กเนื้อสไตล์อาร์เจนตินาที่เราชอบมาก ซึ่งเมนูที่อยากฝากให้ชิมก็มีทั้งเบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่ ที่แทรกเนื้อคั่นกลางขนมปังนุ่ม ๆ มาอย่างจุใจ หรือใครที่สายเนื้อล้วน ๆ ก็อยากชวนมาลอง Grilled Lamb Chops หรือสเต๊กแกะย่างเนื้อชุ่มฉ่ำ อร่อยพอดีคำไม่คาวด้วย

ด้วยสโลแกนเท่ ๆ อย่าง ‘EXPLORE ENDLESSLY’ ทาง คิง เพาเวอร์ รางน้ำ แห่งนี้ก็ไม่ได้มีแต่ช็อปกับชิม แต่ยังพร้อมมอบประสบการณ์ความสุขจนอิ่มด้วย Entertainment Complex อย่างโรงละครอักษรา สถานที่เราสามารถมาเข้าร่วมชมงานเทศกาลระดับชาติ เช่น การแสดงโขน หรือการประกวดนางงามต่าง ๆ ก็จัดขึ้นที่นี่ ส่วนใครสายเซลฟี่ก็มีโซนสวย ๆ มุมดี ๆ อย่างที่โดมกระจกให้เราพกกล้องไปหัดส่องถ่ายภาพชิค ๆ มาโพสต์แชร์บนโซเชี่ยลกัน และทั้งหมดนี้ก็คือข้อมูล ๆ ดี ๆ อัพเดทก่อนใครที่เรานำมามอบให้ทุกคนกับประสบการณ์ความสุขที่ไม่มีวันจบครบความต้องการที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ พร้อมให้ตามไปโดนกันสบาย ๆ ทั้งขับรถไป หรือจะนั่งรถไฟฟ้าไปลง BTS อนุเสาวรีย์แล้วต่อ Shuttle Bus ฟรีตรงห้าง Century ก็ได้เช่นกัน สุดท้ายใครที่สนใจ Promotion ดี ๆ ล่าสุดจาก คิง เพาเวอร์ รางน้ำ แนะนำให้ตามไปสมัคร King Power Card ได้ที่ คิง เพาเวอร์ ทุกสาขา หรือถ้าไม่อยากพลาดข่าวสารใด ๆ ตามไปกดไลค์แฟนเพจ ได้ที่นี่ คลิ๊กเลย สำหรับวันนี้สวัสดีแล้วพบกันอีกทีเร็ว ๆ นี้แน่นอนจ้า !!