Phuket : Patong Guide 2 Days 1 Night

น้ำทะเลสีเทอร์ควอยซ์ หาดทรายขาวเนียนนุ่ม ต้นมะพร้าวที่พลิ้วไหวตามแรงลม อาหารถิ่นเลิศรสตรึงใจ รวมถึงความเป็นมิตรของผู้คน ทั้งหมดนี้คือความทรงจำที่ได้รับจากภูเก็ตทุกครั้งที่ไปเยือน มันจึงทำให้ภูเก็ตเป็นจุดหมายปลายทางของเราแบบนับครั้งไม่ถ้วน ให้กลับไปเยือนอีกหลายๆ ทีก็ไม่มีเบื่อ เพราะบนเกาะแห่งนี้ยังมีที่เที่ยวที่พักผ่อนอีกมากมายให้เราเก็บเกี่ยว อย่างคราวนี้เราจะไปภูเก็ตในเวลา 2 วัน 1 คืน ตามประสาคนไม่ค่อยมีเวลาแต่ความอยากเดินทางมันมหาศาล รอบนี้เราจะพาเจาะลึกกันที่ย่านป่าตองและโซนใกล้เคียง ทำเลทองที่คึกคักที่สุดบนเกาะภูเก็ต ที่จะทำให้ 48 ชั่วโมง ของแกทั้งเผ็ชทั้งร้อนเหมือนกลืนแกงใต้ไปทั้งชามก็ไม่ปาน และผ่อนคลายสบายอุราเหมือนทะเลช่วยพาความทุกข์ทั้งหมดไป ไล่ตั้งแต่อาบแดดที่หาดป่าตอง นั่งมองพระอาทิตย์ตกริมกังหันลม แล้วมานั่งชมทะเลที่คาเฟ่ให้เก๋ๆ ก่อนจะเตร็ดเตร่ที่ซอยบางลา แล้วเข้าพักร่างที่เหนื่อยล้า ณ Deevana Plaza Phuket Patong โรงแรมใจกลางป่าตองที่รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แล้วแกจะรู้ว่าภูเก็ตนั้นเด็ดทุกสิ่งจริงๆ

ป่าตองถือเป็นหาดที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากที่สุดของภูเก็ตเลยก็ว่าได้ ไม่แปลกที่มันจะกลายเป็นหาดทำหน้าที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองมากที่สุดในไทย เพราะที่นี่มีทุกสิ่งที่นักเดินทางต้องการ ทั้งกิน เที่ยว ช้อป ชิลล์ แชะ คือครบเครื่องสุดแบบว่ามงไม่ลงจะงงมาก มันเลยกลายเป็นสวรรค์แดนใต้ในใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่หลายคนพอได้ยินว่าป่าตองอาจจะคิดว่าที่นี่มีแต่ความคึกคักและความบันเทิง ซึ่งเอาจริงๆ ที่ป่าตองยังมีสถานที่อีกหลายแห่งที่สงบเงียบให้นั่งชิลล์ แถมมีบ้านพัก โรงแรมเด็ดๆ อีกเพียบ เรียกง่ายๆ ว่าครบวงจร อยากจะหาที่เงียบๆ ก็มีให้เลือก และหากอยากหาความสนุกก็มีให้เลือกอีกมากมายเช่นกัน

สำหรับการเดินทางจากสนามบินภูเก็ตมายังหาดป่าตองนั้นมาได้ถึง 3 เส้นทาง จะมาทางรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถโพถ้อง หรือแท็กซี่ก็ได้หมด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อความสะดวกและง่ายกับเรา ทาง Deevana Plaza Phuket Patong โรงแรมที่เราเลือกพักในทริปนี้ มีบริการรถรับ-ส่งจากสนามบินให้พร้อม ลงจากเครื่องปุ๊บก็มีพนักงานมาถือป้ายรอรับ พาขึ้นรถจัดแจงยกกระเป๋า และพาเรามาส่งถึงโรงแรมได้อย่างปลอดภัย ตามแบบฉบับคนท้องที่ที่ชำนาญเส้นทางเป็นอย่างดีจะขึ้นกี่เขาเลี้ยวกี่โค้งก็ไม่ต้องห่วง นั่งมองข้างทางได้ไม่นานนักประมาณชั่วโมงนิดๆ เราก็เดินทางมาถึง Deevana Plaza Phuket Patong โรงแรมบนถนนสาย 2 ของหาดป่าตอง ที่ตั้งอยู่ในทำเลคือดีมาก คือไม่ไกลจากชายหาดและไม่ห่างจากศูนย์การค้าดังอย่างห้างจังซีลอน และก้าวแรกที่มาถึง Lobby เราก็รู้สึกได้ถึงความสดชื่นในทันที เพราะโซน Lobby เป็นแบบเปิดโล่ง อากาศถ่ายเทได้ดี จึงมีลมเย็นๆ จากทะเลพัดมาตลอด ทำให้รู้สึกไม่อึดอัด ยิ่งบวกกับรอยยิ้มของพนักงานต้อนรับที่มาพร้อม Welcome Drink ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เรารู้สึกสดชื่นพร้อมออกเดินทางเสาะแสวงหาที่เที่ยวในป่าตองและสำรวจโรงแรมกันในทันทีที่เช็คอินในโรงแรมเรียบร้อยแล้ว

การมาพักผ่อนแบบเวลาสั้นๆ สำหรับเราแท้จริงแล้วก็คือการเปลี่ยนที่นอน เปลี่ยนที่กินข้าว เปลี่ยนที่เดินเล่นเท่านั้นเอง แต่ที่เพิ่มเติมคือทุกอย่างต้องพิเศษกว่าอยู่บ้าน และการมาพักที่นี่ก็ทำให้การเปลี่ยนที่นอนของเรามันพิเศษจริงๆ เพราะ Deevana Plaza Phuket Patong มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ที่ช่วยให้การนอนของเรามีความสุขยิ่งขึ้น โดยเฉพาะพอออกไปที่ระเบียงเราก็จะได้เห็นวิวสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่มีทั้งเด็กและครอบครัวกำลังเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานก็ทำให้เรารู้สึกถึงความคึกคักได้ก่อนที่เราจะลงไปเล่นเองเสียอีก แล้วพอหมุนตัวกลับเข้ามาเราก็ได้พบกับห้องพักแบบ Premier Room ที่ตกแต่งด้วยโทนสีอบอุ่นและรูปภาพในย่านเมืองเก่าของภูเก็ต พร้อมฟังชั่นโต๊ะทำงาน Daybed เตียงนอน ทีวี ห้องน้ำ ฯลฯ เรียกว่าครบตามสโลแกนแสนเก๋ “Your choice for all occasions” มันครบจนจิตใจสับสนว่าเอ๊ะเราควรออกไปเที่ยว หรือเราควรนอน หรือเราควรดูวิว หรืออาบน้ำ หรือเล่นน้ำ คือมันสับสนไปหมดจนแทบอยากโทรหาสายด่วนผู้ประสบภัยให้ช่วยหาทางออกให้ที

ก่อนจะสับสนไปมากกว่านี้ก็นึกได้ว่ายังไม่ได้สำรวจหนึ่งในฟังชั่นที่เราให้ความสำคัญพอๆ กับเตียงนอนนั่นก็คือห้องน้ำ เพราะสุขาคือห้องบรรดาลสุข หลังจากมองผ่านกระจกอันโล่งโจ้งจากห้องนอนเราก็เดินเข้าไปสำรวจแบบใกล้ชิดชนิดเกือบลงไปนอน เพราะทุกห้องเค้ามีอ่างอาบน้ำในห้องด้วยจ้า อยากจะเปิดน้ำอุ่นหยดอโรม่าออยสักสี่ห้าหยดแล้วจิบค๊อกเทลเบาๆ ก่อนนอนก็ฟินส์ดี นอกจากจะประทับใจในอ่างแล้วห้องอาบน้ำที่นี่ยังมีบานเฟี้ยมภายในห้องอาบน้ำที่สามารถหยิบเสื้อคลุมและเสื้อผ้าจากตู้เสื้อผ้าด้านนอกได้โดยไม่ต้องเดินออกมาจากห้องน้ำทั้งตัวเปียกๆ เสี่ยงต่อการลื่นล้มอีกด้วย ดีในดีเป็นแบบนี้นี่เอง …

และสำหรับใครที่มาเป็นครอบครัว หรือจูงมือเกี่ยวก้อยมาฮันนีมูน ที่นี่เค้าก็มีห้องพักแบบ Family room ที่มีเตียงสองชั้นเก๋ๆ เหมือนหลุดมาจากหนังสำหรับเอาใจคุณหนูๆ โดยเฉพาะ พร้อม VDO เกมส์ไว้ให้เล่นภายในห้อง และห้อง Deluxe Suite ห้องพักที่กว้างที่สุดจนเหมือนยกบ้านมาไว้ในโรงแรมเพราะมีทั้งห้องรับแขก โต๊ะทานข้าว โซนบาร์ ตู้เย็นเครื่องใหญ่ และห้องน้ำที่ใหญ่กว่าห้องอื่นๆ เรียกว่ามีทุกอย่างครบแล้วในห้อง จะนอนจู๋จี๋ ทำกับข้าว หรือวิ่งเล่นกันก็ทำได้ทั้งวันแบบไม่ต้องออกไปไหนก็ยังไม่เบื่อเลย เรียกได้ว่าเป็นโรงแรมที่เหมาะกับผู้เข้าพักได้ทุกแบบ จะมาเดี่ยว มาคู่ มาหรูๆ มาฟินส์ๆ ก็เลือกได้ตามใจแก แถมแต่ละชั้นจะมีระเบียงให้ออกไปสูดอากาศรับลมทะเลกันด้วย อย่างชั้นของเราเป็นชั้นที่มี Rooftop กว้างๆ ไว้จัดงานกลางแจ้งก็ได้ หรือไว้ชมวิวก็ดี พร้อมชิงช้าหวายให้นั่งเล่นนั่งถ่ายรูป พอตกกลางคืนก็มาชมวิวเมือง พร้อมดูดาวได้ที่นี่แหละ คือจัดไว้ครบจนเราแอบคิดว่านี่เค้าจะไม่ให้เราต้องออกไปไหนหน่อยหรอออออ

ท้องเริ่มร้องนิดๆ เป็นสัญญานเตือนว่าให้หาอะไรรองท้องได้แล้ว เพราะตั้งแต่มาเกาะที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารการกินนี่ยังไม่ได้กินอาหารอะไรสักอย่างเดียว เดี๋ยวมันจะมาเสียเที่ยวซะเปล่าๆ เราเลยได้สติเดินออกจากโรงแรมมาหาอะไรทำให้กระเพาะสงบลงที่ย่านหาดกะรนจนได้เจอร้านคาเฟ่เท่ห์ที่ชื่อว่า COFFEE TALK ร้านริมถนนที่อยู่ติดหาดนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งอยู่ที่เมืองตากอากาศชื่อดังของโลก อารมณ์เดินจากป่าตองแล้วมาโผล่ไมอามี่ ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งรายการอาหาร ลูกค้าในร้าน บรรยากาศภายนอก ภายในมันมีความอินเตอร์เบาๆ ยกเว้นเรานี่แหล่ะที่ทำให้นึกว่าอยู่เมืองจีนอยู่คนเดียว!!!

มานั่งเฉยๆ ไม่สั่งอะไรท้องมันก็จะไม่อิ่มสักที เราเลือกเมนู The Affogato กาแฟเอสเพรสโซ่รสเข้มจากเมล็ดกาแฟของไทย ท้อปปิ้งด้วยไอศครีมวานิลาเนื้อเนียนและนมสด ใครสายดาร์กรักในความเข้มต้องมีติดใจ และอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาดคือ The Syphon กาแฟสดที่ชงด้วยเครื่องสูญญากาศลักษณะคล้ายหลอดทดลองวิทยาศาสตร์ ที่จะค่อยๆ กลั่นกาแฟออกมาทีละหยดๆ ทำให้ได้รสชาติกาแฟที่อร่อยละมุนลิ้นแถมมีเอกลักษณ์ แต่ใครอ่อนไหวต่อคาแฟอีนเค้าก็มีเมนูอื่นให้เลือกตามความชอบอีกหลายรายการ

ใกล้กันกับร้านเมื่อกี้ ไม่สิ เรียกว่าติดกันได้เลย มีร้าน SWEET TALK ร้านขนมหวานที่สะดุดตาโดดเด่นด้วยรูปปั้นขนมหวานหลากหลายชนิด ทำให้นักท่องเที่ยวที่ผ่านไปผ่านมาแถวนั้นเป็นอันโดนมนตร์สะกด ต้องหยุดแวะถ่ายรูปและเข้าไปชิมไอติมกันแทบทุกราย นอกร้านยังน่ารักอยากปาหัวใจให้รัวๆ ขนาดนี้ ภายในร้านยิ่งน่ารักกว่าด้วยการตกแต่งร้านให้สีหลักเป็นสีมิ้นต์ที่ดูเย็นสบาย แซมด้วยสีพาสเทลแล้วมันยิ่งน่ารักลงตัวเข้าไปใหญ่ เรียกว่าเดินเข้ามาแบบยังไม่ต้องสั่งก็หวานเย็นถึงใจกันละ

ทุกอย่างดูซอฟเมื่อเป็นสีพาสเทล มุมตู้ไอติมมุมนี้พวกแกจึงไม่ควรพลาดที่จะมายืนเลือกไอติมรสอร่อยกันแบบจริงๆ จังๆ และยืนเลือกแบบเผลอจริงๆ ที่มุมนี้ เพราะมันมุ้งมิ้งกิงก่องแก้วเหมาะแก่การถ่ายรูปโพสต์ลงไอจีสวยๆ สักภาพสองภาพจริงๆ

แกล้งดูเมนูแบบเผลอๆ ไปแล้วหลายรูปก็ได้เวลาสั่งจริงจังสักทีว่าขนมจะน่ากินอย่างหน้าตาร้านหรือไม่ เราเลือกโทสต์นูเทล่ามาเพิ่มความหวานในกระแสเลือด โอ้โห!! คือแบบมันอร่อยสมหน้าตาจริงๆ ทั้งขนมปังและไอติมก็หวานกำลังดีไม่มากเกินไปทำให้กินเพลินๆ ได้ แต่ไม่สบายนักเพราะมันจุก เนื่องจากนางมาจานใหญ่เว่อร์จนอยากจะขอห่อกลับบ้านสักครึ่งนึงก่อน นอกจากไอติมอร่อยแล้วเมนูหวานเย็นอื่นๆ ก็ยังมีให้เลือกอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเค้กเนื้อนุ่น และและบิงซูน้ำแข็งใสสไตล์เกาหลี ที่พนักงานอวยว่าอร่อยเหมือนบินไปกินที่เกาหลี เมื่อท้องอิ่มและร่างกายเย็นสบายผ่อนคลายไปมาก ก็ได้เวลาพาพุงกลมๆ ขึ้นรถกลับไปเดินเล่นที่ป่าตองกันแล้วววววว

มาป่าตองไม่แวะ Patong Beach ก็คงเหมือนเข้าวัดแต่ไม่ได้ไหว้พระนั่นล่ะ เราก็เลยแวะมาดูสักหน่อยว่าหาดนี้มีอะไรดีที่ทำให้โด่งดังจนนักท่องเที่ยวเดินทางกันมาได้แบบทุกวี่ทุกวัน แถมบางคนมาแล้วก็มาอีกขนาดนี้ และเราก็ได้คำตอบว่าเสน่ห์ของที่นี่ที่เรามองเห็นตั้งแต่แว๊บแรกเลย นอกจากจะมีแนวชายหาดยาว ทรายขาวเนียนนุ่มแล้ว ก็ยังเต็มไปด้วยกิจกรรมริมชายหาดที่มีให้เลือกหลากหลายมาก ได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกสถานะ ไม่ว่าจะเป็น นอนอาบแดดโชว์ผิวสวยๆ แบบสาวละติน ทิ้งตัวลงน้ำใสๆ แล้วกวักน้ำแกล้งเพื่อนสาวทำตัวย้อนวัยสักหน่อยก็ย่อมได้ ส่วนใครสายมันส์ก็กระโดดขึ้นบานาน่าโบ๊ท เจ็ตสกีได้เลยรับรองได้ท้องแข็งเพราะเสียงขำ และยังได้เพิ่มมวลกล้ามเนื้อจากการเกร็งแขนอย่างแน่นอน ส่วนใครที่ชอบความตื่นเต้นแหวกแนวจนหัวใจสูบฉีดเลือดพุ่งพล่านไปทั้งร่าง เราแนะนำให้ไปเล่นพาราชู๊ต ลอยตัวบนอากาศเหมือนได้ไปแตะขอบฟ้าดู มาถึงป่าตองทั้งทีไม่ควรพลาดที่จะลองทำอย่างน้อยหนึ่งกิจกรรมนะแกบอกเลย

ส่วนเราขอเลียนแบบสาวละตินนอนชิมน้ำมะพร้าวน้ำหอมพร้อมกรอกตาไปมาตามผู้คนที่ขวักไขว่ ดูคนนู้นทำโน่นทีนี่ทีจนแทบจะลืมเวลา เพราะรอบๆ ตัวเรามันเหมือนมีรังสีของความสุข ความสงบ และความตื่นเต้นรายล้อมเราจากทั่วสารทิศ เราจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกโหวตให้หาดป่าตองเป็นหาดดังติด top 10 ของโลกที่สักครั้งในชีวิตพวกเค้าต้องมาให้ได้ เพราะนอกจากที่นี่จะมีคลื่นทะเลสีเทอวควอช์แล้ว ที่นี่ยังมีคลื่นแห่งความสุขกระจายตัวซัดสาดทุกคนที่มายังหาดแห่งนี้อีกด้วย ดังนั้นพอเรามีเวลาแค่ 2 วัน 1 คืน เราถึงเลือกที่นี่ ที่ที่ความสุขซัดใส่เราได้แบบเต็มๆ ตลอด 48 ชั่วโมง ถ้าแกมาภูเก็ตคราวหน้าอย่าลืมแวะมาที่นี่ล่ะ แล้วแกจะรู้ว่าคลื่นความสุขมันใหญ่ขนาดไหน

หลังจากปล่อยให้คลื่นความสุขซัดใส่เราฝ่ายเดียวบนหาดป่าตองก็ได้เวลาที่เราจะโถมตัวเข้าหาความสุขเองก่อนมั่งแล้ว ด้วยการกลับมาสลัดผ้าก้าวขาลงสระที่หย่ายยยยยโตของ Deevana Plaza Phuket Patong จะดำน้ำ มองน้ำ หรือเงยหน้ามองฟ้า มองวิวระเบียงตึกที่ล้อมรอบ แล้วกลับขึ้นฝั่งไปพักเหนื่อยก่อนกระโดดลงน้ำทำซ้ำทั้งหมดอีกสองรอบเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับกองทัพอาหารเย็นก็สุดแสนจะดีงาม เพราะมุมนี้เปรียบเสมือน Oasis ของโรงแรมเลยก็ว่าได้ โดยรอบๆ สระก็จะมีที่นั่งสบายๆ และมุมเก๋ๆ ให้ได้พักผ่อนหย่อยใจกันอย่างเต็มที่ แถมยังมีมีอ่างจากุชชี่และบาร์เล็กๆ ไว้บริการ เผื่อใครเล่นน้ำจนเหนื่อยคอแห้งเมื่อใด ว่ายท่ากบไปสามทีสั่งน้ำผลไม้ปั่นเย็นชื่นใจ ยิ่งตอนเย็นๆ แดดร่มลมตกสาวๆ หนุ่มๆ ก็จะเริ่มทยอยสะบัดผ้าท้าลมกันเดินลงสระจนเราเวียนหัวเพราะมึนในอาหารตา ส่วนใครที่พกลูกเล็กเด็กแดงมาด้วย ที่นี่ก็มีสระเด็กอยู่ใต้ร่มไม้ติดๆ  กันกับสระใหญ่ และโซน Kids Club ที่มีกิจกรรมสำหรับเด็กๆ เรียกได้ว่าพ่อแม่เล่นน้ำอยู่ ก็ชำเลืองตาดูลูกได้เป็นระยะตลอดเวลาที่อยู่บริเวณสระว่ายน้ำ

Phuket Cafe at Deevana Plaza Phuket Patong ตั้งขึ้นเพื่อเอาใจนักท่องเที่ยวด้วยการยกอาหารทั้งเกาะมาให้เลือกในห้องอาหารเดียว ไม่ต้องนั่งรถตีโค้งลงเขา เข้าร้านต่อคิวให้ยืดยาว ก็มีอาหารถิ่นชื่อดังจากทั่วเกาะภูเก็ตมาให้เราทานกันในสูตรดั้งเดิม เพิ่มเติมคือไม่ต้องเสียเวลาออกไปไหน อย่างเช่นเมนูดังที่เค้ายกเตามาทำกันเห็นๆ และอร่อยเด็ด ก็คือผัดหมี่ฮกเกี้ยนสูตรดั่งเดิม ที่แค่เดินผ่านก็หอมกลิ่นกุ้งและเครื่องปรุงเตะจมูกมากกก จนต้องบอกเซฟว่าขอเพิ่มอีกสักจานพร้อมไข่งามๆ อีกสักฟอง

หมี่ฮกเกี้ยนจานแรกผ่านไป หมี่สะปำ หมูฮ้อง(หมูสามชั้นต้มซีอิ๊ว) เนื้อเปื่อยนุ่มหวานละลายในปากแถมเค็มกำลังดีตามแบบฉบับปักษ์ใต้ เส้นหมี่แกงปู อร่อยเด็ดไม่แพ้ร้านดังแถมอยากจะเติมหมี่เติมปูเท่าไหนก็ได้ตามใจอยาก ตบท้ายด้วยน้ำพริกกุ้งเสียบทานคู่กับหัวกุ้งทอดกรอบก็กรุบๆ กำลังดี จาน 3 4 5 ก็ตามมาแบบไม่หยุดยั้ง แต่ถ้ายังรู้สึกว่าน้อยเกินไปเค้าก็มีไลน์อาหารไทยอื่นๆ ทั้งคาวและหวานไว้ให้เลือกกันแบบไม่อั้นอีกหลายเมนู ฟูเต็มจานประหนึ่งย้อนยุคกลับไปช่วยเจ้าคุณยายหุงข้าวในสมัยเด็กมาก แต่ถ้าใครไม่อยากย้ายร่างลงมายังห้องอาหารก็สามารถใช้นิ้วชี้นิ้วเดียวสั่งอาหารด้วยการโทรกริ๊งเดียวเรียก Room Service ไปส่งที่ห้องได้เช่นกัน

 

หนังท้องตึงแต่หนังตายังไม่หย่อนคงเป็นเพราะคลื่นความสุขอันแสนคึกคักของย่านป่าตองที่ปลุกเร้าให้เราอยากร้องเพลงจะไปกับเสียงสี กับปีที่สวยๆ แล้วกลายร่างเป็นผีเสื้อราตรี 2018 ออกเที่ยวชมความสนุกสนานยามค่ำคืนที่ซอยบางลา ซอยสถานบันเทิงที่แสนจะเริงรมย์ที่สุดของป่าตอง ที่อยู่ตรงข้ามกับห้างจังซีลอน ที่แกเลือกได้ว่าอยากเดินเล่นชมความสนุกไปเรื่อยๆ แบบฟรีๆ ชิลล์ๆ หรือจะเลือกร้านที่ถูกใจสักร้านนึงเข้าไปนั่งดื่มพอกรุบกริบและออกสเตปเรียกเหงื่อ จะสนุกแบบน้อยๆ พอประมาณ หรือสนุกแบบลืมโลกที่นี่แกเลือกได้ ขออย่างเดียวพรุ่งนี้ตื่นมากินข้าวเช้าให้ทัน

นอกจากกินดื่มในบาร์ต่างๆ แล้ว ที่ถนนบางลายังมีร้านค้าแผงลอยน้อยใหญ่ให้เราได้เลือกดูเลือกซื้อ ทั้งของที่ระลึก สินค้าทำมือ หมวก เสื้อผ้า เครื่องประดับ ตลอดจนขนม อาหารหนัก อาหารว่าง ก็ยังมีโชว์จากนักแสดงสมัครเล่นให้ชมฟรีๆ แต่ถ้าใจดีก็ให้ตังค์ได้ด้วย งานนี้คนมุงกันเพียบเลยจ้าาาา เอาเป็นว่าลองเปลี่ยนบรรยากาศจากถนนคนเดินทั่วไปมาเดินถนนที่เต็มไปด้วยสีสันตื่นตาที่นี่ดูจะได้ไม่ซ้ำซากจำเจ แล้วแกจะได้รู้ว่าความตื๊ดที่แท้จริงมันเป็นยังไงนะจ๊ะ

บอกแล้วว่าจะสนุกแค่ไหนก็ได้เลือกเอาแต่ขออย่างเดียวคือตื่นมาให้ทันมื้อเช้าก็พอ เพราะอาหารเช้าในห้องอาหารเดียวกับที่เราทานเมื่อคืนเค้าเปลี่ยนจากอาหารใต้และอาหารไทยที่หลายหลากมาเป็นอาหารนานาชาติที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นาหารอินเดีย อารหารจีน ฝรั่ง ญี่ปุ่น อเมริกัน รวมถึงอาหารไทยไว้ให้เราเลือกแบบจุกๆ จะจัดเบาๆ แบบสายซอฟ หรือจะจัดหนักก็ตักมาให้ครบทุกประเทศได้แบบไม่มีใครว่าและไม่ต้องเสียตังค์เพิ่ม ของคาวเสร็จอย่าลืมเก็บท้องไว้ดื่มน้ำเต้าหู้ และขนมนมเนยอีกสักหน่อยล่ะเพื่อความคุ้มค่าาาาา

รีบตื่นมากินแต่เช้าไม่ใช่เพราะกลัวอาหารหมดแต่อย่างใด ง่ายๆ สั้นๆ คือหิวกระเพาะเลยสั่งให้ออกมา โชคดีสำหรับเราเพราะแสงแดดที่เบาๆ ยามเช้ามันน่านั่งเอาเท้าจุ่มน้ำริมสระซะเหลือเกิน หรือจะแค่นอนเล่นรับวิตามินดี อ่านหนังสือ เช็คเมล เช็คไอจีก็ดีงามทุกกิจกรรม ก่อนจะก้าวขาลงสระวาดลวดลายพอกรุบกริบแล้วขึ้นไปอาบน้ำแช่ตัวสระผมด้วยน้ำอุ่นๆ ในอ่างอาบน้ำ ก็นับเป็นช่วงเช้าที่ดี๊ดีอ๊ะแกร๊…..

ถ้าวาดลวดลายในสระแล้วยังมีเวลาเหลือจะขึ้นมาเดิน วิ่ง สลับกับไปว่ายน้ำจนเหมือนซ้อมไตรกีฬาก็ยังได้ เพราะห้องฟิตเนสที่นี่เค้าเปิด 24 ชั่วโมงแกจะไปแต่เช้าตรู่ก่อนไก่โห่หรือเที่ยงคืนหลังไก่หลับ จะวิ่งเช้า วิ่งสาย วิ่งบ่าย วิ่งเย็น หรือวิ่งหลังไปแดนซ์ที่ซอยบางลาให้ความฟิตแอนด์เฟิร์มสถิตติดตัวเราไปทุกวันก็ย่อมได้ ที่นี่เค้าก็มีอุปกรณ์ครบ หลากหลาย แถมมีถึงน้ำดื่มและผ้าขนหนูไว้คอยบริการด้วยนาจา

สร้างกล้ามเนื้อกันไปเรียบร้อยก็ได้เวลาพากล้ามเนื้อมาผ่อนคลายกันที่สปาดีๆ ในโรงแรม Deevana Plaza Phuket Patong นี่ล่ะไม่ต้องออกไปไหน ผ่อนคลายกับ Orientals Spa ที่เดินเข้ามายังไม่ทันนวดก็ผ่อนคลายด้วยกลิ่นอโรม่าชวนนอนตั้งแต่หน้าทางเข้า และก่อนเร่ิมขอเรียกควาดสดชื่นด้วยน้ำกระเจี๊ยบเย็นๆ ชื่นใจกันสักหน่อย ต่อด้วยนอนนวดในบรรยากาศที่เน้นวัสดุจากธรรมชาติ ให้อารมณ์อบอุ่น เป็นมิตร และผ่อนคลาย ยิ่งทำให้ที่นี่น่าเข้ามาทำสปาขึ้นไปอีก นอกจากที่นี่จะมีโปรแกรมนวดและสปาให้เลือกแล้วเรายังสามารถเลือกได้อีกด้วยว่าจะทำสปาในห้องทรีตเมนท์แบบเดี่ยวหรือแบบคู่

เราเลือกนวดน้ำมันแบบรีเฟรช ที่จะมีกลิ่นน้ำมันให้เราเลือกถึง 3 กลิ่น แต่ก็ผ่อนคลายจนเผลอลืมไปเลยว่าเลือกกลิ่นอะไรมาจำได้แต่ว่ามันรู้สึกสดชื่นมากขึ้น กระปรี้กระเปร่ามากขึ้น และผ่อนคลายมากจริงๆ หมอนวดมีความใส่ใจคอยถามว่าน้ำหนักมือเราชอบหรือยัง อยากนวดหนักนวดเบาเราก็บอกเค้าได้ในจุดนี้ ซึ่งราคานวดน้ำมันอยู่ที่ 1,500 บาทชั่วโมง เอาจริงๆ เราว่ามันคุ้มนะถ้าเทียบกับบริการที่เราได้รับ ทั้งความสะอาดที่เรามั่นใจได้ว่าเราไม่ได้นอนบนผ้าที่ใช้ซ้ำของใคร มั่นใจได้ว่าเราจะผ่อนคลายเต็มที่โดยปราศจากการชวนคุยของหมอนวด หรือการคุยกันเองแบบข้ามเราไปมาจนหลับไม่ลง หรือต้องนอนนวดแบบกลัวว่าจะมีใครมาเปิดม่านห้องเรารึเปล่า จบครบหนึ่งชั่วโมงนี่รู้สึกผ่านไปไวมากเว่อร์ และก็ได้เวลาเช็คเอ้าท์ไปหามื้อกลางวันแซ่บๆ ทานกันพอดี

อาหารอร่อยที่ภูเก็ตหน่ะหาง่ายเหมือนหาร้านสะดวกซื้อในเมืองนี่ล่ะ แต่ร้านที่อร่อยด้วยบรรยากาศแบบวิวทะเลสวยๆ ฟ้าใสๆ มันก็ต้องเลือกกันซักหน่อยใช่ป่ะและ ร้านแอบแซ่บ นี้ก็ตอบโจทย์ความต้องการของเราได้อย่างดี เพราะร้านตั้งอยู่ริมผาทำให้มองเลยจากจานอาหารไปก็จะเห็นวิวน้ำทะเลที่กลืนเข้ากับท้องฟ้าแบบ 180 องศา บวกกับบรรยากาศร้านสีฟ้าขาวทั้งตัวร้านและเฟอร์นิเจอร์ยิ่งทำให้รู้สึกสบายตา สบายใจเหมือนเข้าไปนั่งในบ้านพักตากอากาศของเพื่อนมากกว่าเข้าร้านอาหารซะอีก

ที่นี่ก็มีทั้งโซน indoor หรือ outdoor แต่เราอยากรับลมฟินๆ เลยเลือกนั่งชั้นล่างสุด outdoor กันดีกว่า นอกจากชื่อร้านจะแซ่บแล้ว อาหารเค้าก็แซ่บสมชื่อจริงๆ ทั้งอาหารไทยภาคกลาง ภาคใต้ และภาคอีสาน ไม่ว่าจะเป็นสะตอผัดกะปิ, ใบเหลียงผัดไข่, ปูนิ่มทอดกระเทียม, ปลาทรายทอดขมิ้น, วุ้นเส้นยำ รวมถึงตำปูปลาร้า การมาก็ง่ายนิดเดียวจากหาดป่าตองมุ่งหน้ามาทางหาดกมลา ช่วงที่ผ่านหาดกะหลิมจะมีเนินให้ขึ้นเรื่อยๆ ช่วงนี้แหล่ะสังเกตุให้ดี ร้านนี้ก็ตรงช่วงเนินนั้นพอดีเลยจ้า

พระอาทิตย์ตกกับทะเลเป็นของคู่กัน ดังนั้นเราจึงไม่พลาดการมานั่งลุ้นว่าวันนี้พระอาทิตย์จะตกลงน้ำดังตู้ม ดังต้าม หรือตกไปอย่างเงียบๆ เหมือนทุกวัน กันที่ จุดชมวิวกังหันลม อีกหนึ่งจุดชมวิวที่ไม่ไกลจากจุดชมวิวสุดฮิตอย่างแหลมพรหมเทพ ตั้งอยู่ระหว่างหาดยะนุ้ยและหาดในหาน ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจ แนะนำให้เปิดจีพีเอสเพราะแกจะไม่หลงแน่นอน และถ้าไปถึงแต่ยังไม่แน่ใจว่าไปถูกรึยัง ก็ขอแนะนำให้หมุนตัวสักหนึ่งรอบ ถ้าเห็นกังหันลมอันใหญ่สีขาวพร้อมใบพัดตระการตาก็แสดงว่ามาถูกแล้ว ที่นี่ทิวทัศน์ด้านหน้าจะเป็นเกาะโหลนและผืนน้ำสีฟ้าปนส้มแบบพาโนรามา ที่สวยจนลืมแสบตาไปเลย และที่ทำให้เราชอบที่นี่มากเป็นพิเศษก็เพราะความเงียบสงบ คนน้อย จะมานั่งทำโรแมนติคหรือเดินถ่ายรูปก็ค่อนข้างจะชิวๆ ไม่ต้องไปเกรงใจว่าจะเผลอเดินหลุดเข้าไปในเฟรมรูปของใครรึเปล่า ยิ่งบางฤดูจะมีดอกหญ้าสวยๆ มาประกอบฉากทำให้บรรยากาศตรงนี้ยิ่งดีทวีคูณไปอีกสิบเท่า จะมานั่งบนหญ้ารับไอแดดชมวิว หรือจะเลือกนั่งทานอาหาร จิบเครื่องดื่มในร่มรับแต่ลมเย็นๆ เค้าก็มีร้านอาหารคอยบริการ หรืออยากจะหลบแดดแต่ยังไม่หิวเค้าก็มีศาลาพักใจไวพักกายให้นั่งกันอีกด้วย

ถ้าหากเปรียบภูเก็ตเป็นเกาะในฝันที่ควรพาร่างกายมาฟื้นฟูให้สดชื่นจากการทำงานดูสักครั้ง ป่าตองก็คงเป็นเหมือนส่วนเติมเต็มที่ทำให้ความทรงจำในภูเก็ตของเราให้มีสีสันและเพอร์เฟคมากขึ้น บอกเลยว่าตลอดเวลา 2 วัน 1 คืน มันเยี่ยมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ มากเว่อร์เพราะเราได้เที่ยวครบทั้งแบบชิลล์ ทั้งแบบบันเทิง ได้ทำกิจกรรมที่หลากหลาย และได้เอาร่างกายมานอนพักผ่อนที่ Deevana Plaza Phuket Patong เก็บเกี่ยวความสุขในโรงแรมที่ห้องพักราคาไม่แพง แต่มีความสะดวกครบครัน มีอาหารที่เยอะแถมยังอร่อยและดี มีกิจกรรมที่สนุกและผ่อนคลายให้เลือกทำ จนเราแทบไม่ต้องออกไปไหนหรือเสียเวลามากมายกับการตระเวณจนทั่วภูเก็ต และทั้งหมดนี้คือความคุ้มค่าที่จะมาเปลี่ยนที่กิน ที่เดิน ที่นอนก่อนกลับมาสู่วันทำงานแบบพลังงานเหลือล้น จนเพื่อนร่วมงานต้องงงว่าไปทำอะไรมา กับเรื่องเล่าที่คนฟังอาจต้องเกาหัวว่ามันทำได้เยอะขนาดนั้นเลยหรอ เพราะฉะนั้นถ้าอยากรู้ว่าคลื่นแห่งความสุขมันรุนแรงและมีพลังมหาศาลขนาดไหน เลิกเกาหัวแล้วกางปฏิทินจองตั๋วไปเสาร์อาทิตย์หน้านี้เล้ยยยยยยย มีดีจริงแก๊ ….